ชื่ออย่างนูร์บูร์กริงมักจะใช้ได้ดีเสมอเวลาที่จะต้องบอกหรือสื่ออะไรที่เกี่ยวข้องกับความแรง หรือความเร็ว เพราะอย่างที่ทราบกันดี สนามฝั่งเหนือที่มีระยะทางต่อรอบมากกว่า 20 กิโลเมตรแห่งนี้มักจะถูกใช้เป็นสังเวียนในการทดสอบรถสปอร์ตหลากหลายรุ่น รวมถึงการทำสถิติในด้านสมรรถนะความเร็วและการยึดเกาะ โดยมีตัวเลข 8 นาทีต่อรอบเป็นเส้นแบ่งถึงการเป็นรถสปอร์ตธรรมดา หรือว่าซูเปอร์คาร์สุดเร้าใจ
อย่างไรก็ตาม สำหรับโตโยต้า สนามนูร์บูร์กริงเป็นอะไรที่มากกว่านั้น เพราะนอกจากโตโยต้าจะใช้เป็นเวทีในการทดสอบสปอร์ตอย่างเล็กซัส LFA แล้ว ตำนานของนักทดสอบอย่างฮิโรมุ นารุเซะก็ต้องจบชีวิตในระหว่างการทดสอบเวอร์ชันพิเศษของ LFA ในการทดสอบเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว
นอกจากนั้น สนามนูร์บูร์กริงยังมีความสำคัญกับโตโยต้า ในฐานะที่เป็นสังเวียนแข่งมาราธอน 24 ชั่วโมง ซึ่งทีมแข่งของโตโยต้า และเล็กซัสสามารถกวาดชัยชนะในสนามแห่งนี้ และทำสถิติคว้าชัยในคลาสที่ลงแข่งถึง 3 ครั้ง จนต้องมีการฉลองด้วยรุ่นพิเศษของเล็กซัส LFA อย่าง Nurburgring Package
การผลิตมีเพียง 50 คันเท่านั้นจากยอดการผลิตรวม 500 คันของ LFA โดยเน้นไปที่เรื่องของการลดน้ำหนักเป็นหลัก ด้วยการนำคาร์บอนไฟเบอร์ CFRP มาใช้ในการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ บนตัวถัง รวมถึงการติดตั้งชุดแอโรพาร์ตใหม่รอบคัน ซึ่งที่เด่น คือ สปอยเลอร์หน้าขนาดใหญ่เพื่อการทรงตัวที่ดีเมื่อขับด้วยความเร็วสูง ขณะที่สปอยเลอร์หลังก็เป็นแบบยึดตายตัวในสไตล์ GT-Wing พร้อมกับลดความสูงของตัวถังลงจากรุ่นมาตรฐานอีก 10 มิลลิเมตร
เครื่องยนต์วี8 4,800 ซีซียังรับหน้าที่ในการผลิตม้าเพื่อใช้ในการขับเคลื่อน โดยมีกำลังอยู่ในระดับ 562 แรงม้า หรือเพิ่มขึ้นจากรุ่นปกติ 10 แรงม้า และส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดาแบบคลัตช์ไฟฟ้า 6 จังหวะที่มีการปรับปรุงให้การเปลี่ยนเกียร์แต่ละตำแหน่งเร็วขึ้นอีก 0.15 วินาที ผลคือ สมรรถนะในด้านอัตราเร่งดีขึ้นด้วยตัวเลข 3.7 วินาทีสำหรับการทะยานจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง
4 สีเท่านั้นที่จะทำตลาด คือ ดำด้าน, ดำ, ส้มและขาว ส่วนภายในตกแต่ง 3 แบบ คือ ดำล้วน หรือทูโทนแบบแดง-ดำ หรือม่วงดำ นอกจากนั้น สำหรับลูกค้าที่ออร์เดอร์เวอร์ชันนี้มา จะได้รับการติวแบบตัวต่อตัวกับอินสตักเตอร์ของสนามแห่งนี้เป็นพิเศษ แถมด้วยสิทธิ์ในการเข้ามาแล่นที่สนามฝั่งเหนือ หรือ Nordschleife เป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม
ใครสนใจก็รีบดูเงินในบัญชีแล้วสั่งจองกันได้เลย
