กก.สิทธิฯ จวกกฎเหล็กบินไทยขืนใจพนักงาน แนะมองหัวใจบริการมากกว่ารอบเอว

กรรมการสิทธิมนุษยชนฯ จวกบินไทยใช้กฎเหล็ก “ดัชนีมวลกาย” บีบบังคับ “แอร์-สจ๊วร์ต” ลดน้ำหนัก ห่วงไม่มีข้อมูลทางการแพทย์รองรับ หากทำงานไปลดน้ำหนักไป แล้วเกิดช็อก-เสียชีวิต ใครจะรับผิดชอบ แนะผู้บริหารเริ่มทำให้เป็นตัวอย่างก่อน เพื่อดูว่า ระยะเวลา 6 เดือนจะทำได้ตามเกณฑ์หรือไม่ แนะให้มองที่จิตใจการบริการของพนักงานมากกว่าจะดูที่รอบเอว หรือถ้าลดน้ำหนักพนักงานแล้ว กำไรของการบินไทยเพิ่มขึ้น ก็ควรทำ เพราะยิ่งลดเยอะกำไรก็ยิ่งเพิ่ม

นายปริญญา ศิริสารการ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวถึงกรณีที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ออกนโยบายการปรับปรุงบุคลิกภาพของพนักงานบนเครื่องบิน โดยใช้ค่าดัชนีมวลกายหรือบีเอ็มไอ มาใช้ควบคุมผู้ปฏิบัติงาน โดยบังคับพนักงานต้อนรับบนเครื่องที่มีรอบเอวเกินกำหนด ให้ลดรอบเอวลง เรื่องดังกล่าว น่าเห็นใจการบินไทย ที่ต้องการจะพัฒนาบุคลากรให้ทัดเทียมสายการบินนานาชาติเพื่อแข่งขันทางธุรกิจ แต่เนื่องจากาการบินไทยก็ถือว่าเป็นองค์กรของรัฐ ที่จะต้องคำนึงถึงสิทธิ และกฎหมายของพนักงานจึงจะต้องคำนึงถึงสิทธิของพนักงานด้วย

ทั้งนี้ ระเบียบดังกล่าวกำหนดให้พนักงานต้อนรับหญิงต้องมีบีเอ็มไอไม่เกิน 25 และมีรอบเอวไม่เกิน 32 นิ้ว และพนักงานชายบีเอ็มไอไม่เกิน 27.5 และรอบเอวไม่เกิน 35 นิ้ว โดยประกาศคำสั่งดังกล่าว ได้มีมาตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2553 ซึ่งหลังจากนั้น ให้ระยะเวลาพนักงานในการปรับปรุงภายในระยะเวลา 6 เดือน

โดยเบื้องต้น กรรมการสิทธิฯ ยอมรับว่า ยังไม่ได้มีการตรวจสอบว่าเข้าข่ายการละเมิดสิทธิหรือไม่ ต้องรอให้พนักงานเหล่านั้นมาร้องที่กรรมการสิทธิฯ เสียก่อน โดยจะต้องดูว่ากฎของการบินไทยเป็นกฎที่ออกมาใหม่ไม่เคยมีกำหนดมาก่อน หรือเป็นกฎที่ออกมานานแล้วแต่เพิ่งจะมาเข้มงวด

“เรื่องนี้ ถ้าเป็นกฎที่เพิ่งออกภายหลังก็ถือว่าไม่เหมาะสม แต่ถ้าเป็นกฎที่มีอยู่แล้วก็ควรจะต้องให้เวลาพนักงานในการลดน้ำหนักบ้าง เพราะระยะเวลาเพียง 6 เดือน หรือ 1 ปีเป็นระยะเวลาที่สั้นเกินไป และยังมีคำถามอีกว่าทางการบินไทยได้มีข้อมูลทางการแพทย์รองรับในการออกกฎหรือไม่ เพราะถ้าหากพนักงานต้องทำงานไปด้วย ลดน้ำหนักไปด้วย แล้วเกิดช็อก หรือเสียชีวิตขึ้นมาจะมีผู้รับผิดชอบอย่างไร”

นายปริญญา กล่าวว่า ทางออกของเรื่องนี้คือจะต้องให้เวลาลดน้ำหนักไปสักระยะ หรือให้ผู้บริหารของการบินไทยลดน้ำหนักเป็นตัวอย่างก่อน เพื่อเป็นตัวอย่างว่า ระยะเวลาเพียง 6 เดือน หรือ 1 ปี จะสามารถลดน้ำหนักมาจนถึงระดับที่กำหนดไว้ได้หรือไม่ ถ้าทำเป็นตัวอย่างได้ก็ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพนักงานคนอื่น ทางออกอีกทาง คือ ให้การบินไทยมองที่จิตใจการบริการของพนักงานมากกว่ารอบเอวก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี เพราะถึงแม้ว่าพนักงานจะมีรอบเอวได้ตามที่กำหนด ก็ไม่ได้สร้างความประทับใจให้กับลูกค้ามากกว่าการบริการด้วยหัวใจ หรือถ้าลดน้ำหนักพนักงานแล้ว กำไรของการบินไทยเพิ่มมากขึ้น ก็ควรทำยิ่งลดเยอะกำไรยิ่งเพิ่มก็ควรทำ