ปี 1971 รถแข่งรุ่น 917 Short-Tail Coupe หมายเลข 22 ของปอร์เช่สร้างความตื่นตาตื่นใจที่กลายเป็นสถิติที่ยาวนานถึง 39 ปีจนกระทั่งถูกทางออดี้ลบลงได้เมื่อปีที่แล้ว โดยลงแข่งเลอมังส์ 24 ชั่วโมงในปีนั้น พร้อมกับตำแหน่งแชมป์ ที่สามารถแล่นตลอด 24 ชั่วโมงโดยทำระยะทางได้ 5,335.313 กิโลเมตร โดยที่มีความเร็วเฉลี่ยตลอดการแข่งขัน 222.304 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ความสำเร็จในครั้งนี้เป็นแรงบันดาลใจที่ถูกนำมาใช้ในการต่อยอดเพื่อพัฒนาต้นแบบรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า 918 RSR ที่มาพร้อมกับหมายเลข 22 และว่ากันว่าปอร์เช่จะผลิตออกขายจริงในอนาคตด้วย
ดูแล้วจะเป็นงานที่ออกแนวย้อนยุค แต่บอกได้เลยว่า 918 RSR มาพร้อมกับความไฮเทคสุดล้ำ โดยเฉพาะการนำแนวคิดของระบบ KERS ที่ถูกเปิดตัวกับรถแข่ง 911 GT3R Hybrid ไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทีมวิศวกรได้นำระบบนี้มาต่อยอดเพื่อใช้กับรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางลำที่มีขนาดกะทัดรัด
แม้จะใช้ชื่อว่าไฮบริด แต่ความจริงแล้วระบบนี้แตกต่างจากไฮบริดที่เราคุ้นเคยอย่างสิ้นเชิง มีเพียงแค่การนำหลักการบางอย่างมาประยุกต์ใช้เพื่อประโยชน์ในด้านความแรงเท่านั้นเอง โดยแนวคิดนี้ทางปอร์เช่ได้ทำงานร่วมกับทีมแข่ง F1 อย่างวิลเลี่ยมส์ในการนำระบบ KERS หรือ Kinetic Energy Recovery Systems มาประยุกต์ใช้ โดยระบบนี้จะใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า Flywheel Accumulator ซึ่งจะทำหน้าที่แทนแบตเตอรี่ในการเก็บกระแสไฟฟ้าเอาไว้ชั่วคราว ซึ่งอุปกรณ์ชิ้นนี้ผู้ขับจะเห็นได้ทันทีเพราะว่าวางอยู่ในห้องโดยสารด้านข้างคนขับ มีลักษณะคล้ายกับห่วงยาง
หลักการทำงานของระบบ คือ จะนำพลังงานที่สูญเปล่าซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างการขับเคลื่อน เช่น การเบรก หรือถอนคันเร่ง มาแปรรูปเป็นกระแสไฟฟ้าเพื่อเก็บใน Flywheel Accumulator ซึ่งจะมีการหมุนในระดับ 36,000 รอบ/นาทีเพื่อเก็บกระแสไฟฟ้า
เมื่อต้องการใช้งาน ผู้ขับก็กดปุ่มเพื่อปลดปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาและส่งให้กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ติดตั้งอยู่ที่เพลาหน้าของตัวรถ 2 ตัวๆ ละ 75 กิโลวัตต์ รวม 150 กิโลวัตต์ เพื่อช่วยเสริมแรงในการขับเคลื่อนกับเครื่องยนต์เบนซินวี8 แบบไดเร็กต์อินเจ็กชัน โดยตามปกติแล้วกำลังจากเครื่องยนต์แบบเดียวจะอยู่ที่ 563 แรงม้า ที่ 10,300 รอบ/นาที แต่เมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแล้วจะขยับมาอยู่ที่ 767 แรงม้า โดยส่งกำลังผ่านทางเกียร์ 6 จังหวะ ซึ่งถ้าขับปกติก็จะเป็นแบบล้อหลัง แต่จะเปลี่ยนแบบ 4 ล้อชั่วคราวเมื่อระบบ KERS ทำงาน
การปลดปล่อยพลังจะทำได้แค่ครั้งเดียวในช่วงสั้นๆ ซึ่งปอร์เช่ไม่ได้บอก แต่ในระบบ KERS ของรถแข่ง F1 มอเตอร์ไฟฟ้าจะช่วยขับเคลื่อนไปได้ประมาณ 6 วินาทีกว่าๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่ขนาดความจุของ Flywheel Accumulator ว่า รองรับกับการเก็บกระแสไฟฟ้าไว้ได้มากแค่ไหน เมื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าหมดแล้ว จากนั้นกระบวนการก็จะวนกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง โดยจะต้องมีการแปรรูปพลังงานเข้ามาเก็บใน Flywheel Accumulator กันใหม่อีกรอบ
สำหรับในเรื่องการออกแบบตัวรถ เน้นความสวยและสปอร์ตตามแบบฉบับตัวแข่งเลอ มังส์ พร้อมสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ และชิ้นส่วนตัวถังถูกผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์-Carbon Fibre-Reinforced Plastic (CFRP) เพื่อเน้นความเบาของตัวรถ พร้อมล้อแม็กขนาด 19 นิ้ว
ความน่าสนใจคือ 918 RSR ไม่ได้เป็นแค่ต้นแบบสำหรับโชว์ แต่มีข่าวยืนยันว่า ปอร์เช่จะมีการผลิตเพื่อขายในตลาดอีกด้วย เพียงแต่ไม่ยืนยันว่าจะมาในรูปแบบไหน เป็นสายพันธุ์ใหม่ หรือว่าจะถูกปรับเพื่อเป็นตัวตายตัวแทนของบ็อกสเตอร์ ซึ่งในตอนนี้ใกล้จะถึงวาระในการเปลี่ยนโฉมแล้ว และถ้าข่าวไม่ผิดพลาด กำหนดการเปิดตัวจะมีขึ้นในปี 2013
