มาแล้ว...มอเตอร์โชว์ระดับโลกรายการแรกของปี ดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ ซึ่งใครที่สนใจใคร่รู้เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในโลกยานยนต์ของปี 2011 และต้องการสัมผัสถึงที่ คงต้องฝ่าลมหนาว (หรือบางปีอาจจะต้องลุยหิมะ) ไปดูรถยนต์รุ่นใหม่ๆ แบบตัวเป็นๆ ได้ที่ Cobo hall
แต่ถ้าเป็นเพราะว่าทนหนาวไม่ไหว (หรืออาจจะเป็นเพราะเหตุผลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง) ผู้จัดการมอเตอริ่งอาสาพาไปสัมผัสกับบรรยากาศและสีสันของงานนี้กันอย่างใกล้ชิด

ดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์เป็นชื่อเรียกตามเมืองที่ใช้เป็นสถานที่สำหรับการจัดงาน แต่ถ้าชื่องานที่เป็นทางการแล้ว จะใช้ชื่อว่า NAIAS หรือ North Amercian International Auto Show ซึ่งปีนี้รอบสื่อมวลชนเริ่มขึ้นในวันที่ 10-11 มกราคม ส่วนรอบคนธรรมดาสามัญก็ต้องรอกันอีกหน่อย เพราะจะมีขึ้นในวันที่ 15-23 มกราคม โดยระหว่างนั้นจะมีรอบพิเศษอย่างเช่นรอบสำหรับ Exhibitor หรือรอบการกุศล มาคั่นกลาง
ความจริงแล้วงานนี้มีขึ้นมานานหลายสิบปีแล้วตั้งแต่ต้นๆ ศตวรรษที่ 20 แต่ทว่าเพิ่งจะมีความเป็นอินเตอร์ฯ หรือนำคำว่า International มาใส่ในชื่องานเพียงแค่ 23 ปีเท่านั้นเอง

และนั่นทำให้สีสันและความน่าสนใจของตัวงานมีเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะด้วยเมืองลุงแซมเป็นตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่ ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์จากนอกสหรัฐอเมริกาหลั่งไหลเข้ามาร่วมโชว์ในงานกันมากขึ้น และรถยนต์ที่นำมาจัดแสดงในงานก็มีความใกล้ชิดกับตลาดภูมิภาคอื่นๆ ของโลกมากขึ้น แทนที่จะมีเพื่อขายคนอเมริกันเพียงอย่างเดียวเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา
สำหรับปีนี้ รถยนต์ใหม่ๆ ที่ถูกเตรียมเปิดตัวมีมากมายหลายรุ่น เพื่อรับกับกระแสความตื่นตัวของตลาดรถยนต์สหรัฐอเมริกา ซึ่งเริ่มฟื้นตัวจากพิษเศรษฐกิจ และคาดว่าปี 2011 ตลาดแห่งนี้ก็จะมียอดขายเพิ่มขึ้นจากปี 2010 มากกว่า 12% เพียงแต่ยังไม่มากเหมือนกับยุคก่อนที่ลุงแซมครองตัวเป็นนัมเบอร์วันสำหรับด้านตัวเลขยอดขายในตลาดรถยนต์โลก

เจ้าถิ่นเริ่มคึกคักหลังเจอมรสุมหลายปี
หลังจากหน้าซีดเพราะต้องสะสางปัญหาโดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนผ่านสถานะจากการล้มละลายมาสู่การเป็นบริษัทใหม่ ดูเหมือนว่าทั้งจีเอ็ม และไครสเลอร์เริ่มกลับมามีเลือดฝาดๆ บนแก้มกันบ้างแล้ว และงานนี้ทั้ง 2 บริษัทก็นำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกมาเปิดตัวกันหลายรุ่น แต่เมื่อเปรียบเทียบกับฟอร์ด ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์เพียงรายเดียวของสหรัฐอเมริกาที่ไม่ต้องพึ่งเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเมื่อปี 2009 ผลผลิตของทั้ง 2 บริษัทนี้ก็ยังไม่มากและเร้าใจเทียบเท่า
ตรงนี้ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะ ‘ความรู้สึก’ เนื่องจากนโยบาย One Ford ในการผลิตรถยนต์รุ่นหลักๆ เพียงหนึ่งเดียวเพื่อขายทั่วโลกแบบไม่ต้องแบ่งแยกว่าเป็นเวอร์ชันไหนสำหรับภูมิภาคไหน ก็เลยทำให้เกิดสัมผัสแห่งความใกล้ชิดกับผลผลิตของฟอร์ดมากขึ้น ส่วนจะเข้ามาขายในบ้านเราในอนาคตหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง


ส่วนของฟอร์ดเอง นอกจากการเผยโฉมเวอร์ชัน EV หรือ Electric Vehicle ของโฟกัสแล้ว รถยนต์อีกรุ่นที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ คือ Vertrek Concept เพราะเป็นผลผลิตที่จะถูกต่อยอดในการพัฒนาเพื่อเป็นคอมแพ็กต์เอสยูวีสหรับขายทั่วโลกโดยจะแทนที่ทั้ง Kuga และ Escape ส่วนชื่อรุ่นยังไม่คอนเฟิร์มว่าจะใช้เหมือนต้นแบบ หรือใช้เหมือนกับของเดิม แต่ที่แน่ๆ ปลายปี 2012 จะผลิตขายจริง
ส่วนข่าวดีของฟอร์ดอีกเรื่องคือ เอ็กซ์โพลเรอร์ สามารถคว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งอเมริกาเหนือในส่วนของ SUV/PickUp มาครอง

ทางด้านจีเอ็ม รถยนต์ที่ฮ็อตและได้รับความสนใจ โดยเฉพาะจากลูกค้าในบ้านเราคือ การเปิดตัวโฉมใหม่ของอาวีโอ ซึ่งที่นี่จะเปลี่ยนมาใช้ชื่อโซนิก (ส่วนตลาดกลุ่มอื่นยังใช้ชื่อเดิม) โดยโซนิกที่เปิดตัวในงานนี้มีทั้งตัวถังแฮทช์แบ็ก 5 ประตูซึ่งในยุโรปขายมาร่วมปีแล้ว แต่ที่เป็นของใหม่จริงๆ คือ รุ่นซีดาน 4 ประตู ซึ่งจะมีเครื่องยนต์แบบแรงเร้าใจให้เลือกทั้ง 1,400 ซีซีเทอร์โบ 138 แรงม้า และ 1,800 ซีซี 135 แรงม้าบล็อกเดียวกับครูซ โดยการทำตลาดจะมีขึ้นกลางปีนี้


สำหรับไครสเลอร์ อาจจะค่อนข้างเงียบเหงาสักหน่อย เพราะเท่าที่มีการเผยรายละเอียดออกมาตอนนี้ ก็มีเพียงแค่โฉมใหม่ของซีดานระดับหรูขนาดกลางไซส์เดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 อย่างรุ่น 300 ขณะที่จี๊ปเน้นไปกับเรื่องของความเป็นแบรนด์อมตะ และนำเสนอเรื่องราวของความเป็นมาแห่งความแข็งแกร่งที่ยาวนาน เพื่อปูทางไปสู่ความเปลี่ยนแปลงในอนาคต
ข่าวที่ออกมาตอนนี้ คือ ทางเฟียตจะจับเอาจี๊ปผนวกด้านวิศวกรรมร่วมกับอัลฟา ซึ่งกำลังจะผลิตเอสยูวีเพื่อขายในตลาดทั้งสหรัฐอเมริกา และตลาดโลก

ฮอนด้าเผยซีวิค โตโยต้าลุยพริอุสอีกแบบ
รถฮ็อตสำหรับปีนี้และถือเป็นไฮไลต์สำหรับนักขับในบ้านเรา (อีกแล้ว) คือ การเผยโฉมใหม่ของซีวิค เจนเนอเรชันที่ 9 ซึ่งถูกเลื่อนมาเปิดตัวในปีนี้ โดยงานนี้ฮอนด้านนำทั้งตัวถังซีดาน และคูเป้มาเปิดตัวพร้อมกันเลย จากเดิมที่คาดว่าจะมีแค่ตัวถังคูเป้เท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 คันก็ยังเป็นต้นแบบ แต่ก็มีความใกล้เคียงกับการผลิตจริง และเชื่อว่าโฉมหน้าของโปรดักชั่นคาร์คงจะแตกต่างจากนี้ไม่มากนัก ส่วนหน้าตาของเวอร์ชันญี่ปุ่นและที่จะขายในบ้านเราก็ต้องดูกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร จะเปลี่ยนด้านหน้าและหลังจากเวอร์ชันอเมริกันมากน้อยแค่ไหน หรือว่าจะมีหน้าตาเหมือนกับภาพ Spy Shot ที่ถูกแอบบันทึกได้ในตะวันออกกลางซึ่งถูกนำออกเผยแพร่ตามอินเตอร์เน็ตก่อนหน้านี้


ขณะที่โตโยต้า เรื่องราวของการขยายทางเลือกให้กับพริอุสก็เป็นจริงจนได้ โดยเผยโฉมต้นแบบที่เรียกว่าพริอุส วี กับตัวถังที่ออกแนวมินิแวน ซึ่ง V ที่ต่อท้ายก็มาจากคำว่า Versatility เพื่อเอาใจคนที่รักความอเนกประสงค์ ซึ่งมีมากกว่าตัวถังแฮทช์แบ็กที่ขายอยู่ในปัจจุบัน โดยมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมากกว่าพริอุสรุ่นปัจจุบันถึง 50% โดยที่ความเพรียวลมของตัวรถสูญเสียไปนิดหน่อย เพราะมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน-Cd 0.29


นอกจากนั้นแบรนด์เอเชียอื่นๆ ก็มีเข้ามาร่วมสร้างสีสันในงานนี้หลายราย แต่เน้นหนักไปทางฝั่งเกาหลีใต้ซ่ะมากกว่า อย่างฮุนไดเผยโฉมผลผลิตใหม่ที่เรียกว่า “เวโลสเตอร์” กับตัวถังทรงสปอร์ตแบบ 3 ประตู ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อเนื่องมาจากรุ่นต้นแบบ พร้อมเครื่องยนต์ 1,600 ซีซี GDI 138 แรงม้า และอีกรุ่นเป็นต้นแบบที่ชื่อว่าเคิร์บ คอนเซ็ปต์กับตัวถังเอสยูวีมาดสปอร์ต ส่วนเกียเผยโฉมต้นแบบทรงปีกนกที่ชื่อว่า KV7


หลากหลายความสวยจากยุโรป
เวทีนี้ได้รับความสนใจจากผู้ผลิตรถยนต์ยุโรปมากหน้าหลายตาเช่นกัน โดยเฉพาะโฟล์คสวาเกน และออดี้ที่ต้องการขยายแนวรุกในภูมิภาคนี้อย่างเต็มตัว ซึ่งรายแรกถึงขนาดลงทุนพัฒนาพัสสาทใหม่ขึ้นมาขายในตลาดแห่งนี้โดยเฉพาะ ซึ่งพัสสาทใหม่ที่เปิดตัวในงานนี้มีความแตกต่างในด้านหน้าตาจากพัสสาท เวอร์ชันยุโรปและตลาดโลกอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นในทุกมิติ

ส่วนทางออดี้ที่เพิ่งฉลองยอดขายต่อปีในสหรัฐอเมริกาเกินหลัก 100,000 คันเป็นครั้งแรกก็เดินเกมรุกเต็มตัวกับการเผยโฉมคันจริงของเอ6 ใหม่ที่จะมีทั้งรุ่นธรรมดา และรุ่นไฮบริดที่ผลิตขึ้นมาเพื่อลูกค้าชาวอเมริกันโดยเฉพาะ

ขณะที่เมอร์เซเดส-เบนซ์เผยโฉมใหม่ของ SLK ควบคู่กับไมเนอร์เชนจ์ครั้งใหญ่ของซี-คลาสทั้งรุ่นซีดาน และแวกอน แต่ยังไม่มีเงาของรุ่นคูเป้ที่มีภาพหลุดออกมาก่อนหน้างานนี้เพียงสัปดาห์เดียว ส่วนปอร์เช่ก็ลุยตลาดเปิดประทุนเช่นกันกับรถสปอร์ตต้นแบบรุ่น 918 RSR เน้นความสวยในทุกรายละเอียด


โดยที่บีเอ็มดับเบิลยูเปิดตัว 635i เปิดประทุน ซึ่งเป็นโมเดลเชนจ์ของซีรีส์ 6 และสร้างความต่างด้วยการเปิดตัวรุ่นเปิดประทุนก่อนคูเป้ รวมถึงไมเนอร์เชนจ์ของซีรีส์ 1 และรุ่นซีรีส์ 1 M Coupe ตัวแรง ขณะที่มินิแบรนด์ในเครือของบีเอ็มดับเบิลยูก็จัดการเผยโฉมต้นแบบที่เรียกว่า Paceman ซึ่งจะผลิตจริงเป็นรุ่นสปอร์ตแบบ 3 ประตูของ Countryman ในปลายปีนี้
แต่ถ้าเป็นเพราะว่าทนหนาวไม่ไหว (หรืออาจจะเป็นเพราะเหตุผลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง) ผู้จัดการมอเตอริ่งอาสาพาไปสัมผัสกับบรรยากาศและสีสันของงานนี้กันอย่างใกล้ชิด
ดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์เป็นชื่อเรียกตามเมืองที่ใช้เป็นสถานที่สำหรับการจัดงาน แต่ถ้าชื่องานที่เป็นทางการแล้ว จะใช้ชื่อว่า NAIAS หรือ North Amercian International Auto Show ซึ่งปีนี้รอบสื่อมวลชนเริ่มขึ้นในวันที่ 10-11 มกราคม ส่วนรอบคนธรรมดาสามัญก็ต้องรอกันอีกหน่อย เพราะจะมีขึ้นในวันที่ 15-23 มกราคม โดยระหว่างนั้นจะมีรอบพิเศษอย่างเช่นรอบสำหรับ Exhibitor หรือรอบการกุศล มาคั่นกลาง
ความจริงแล้วงานนี้มีขึ้นมานานหลายสิบปีแล้วตั้งแต่ต้นๆ ศตวรรษที่ 20 แต่ทว่าเพิ่งจะมีความเป็นอินเตอร์ฯ หรือนำคำว่า International มาใส่ในชื่องานเพียงแค่ 23 ปีเท่านั้นเอง
และนั่นทำให้สีสันและความน่าสนใจของตัวงานมีเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะด้วยเมืองลุงแซมเป็นตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่ ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์จากนอกสหรัฐอเมริกาหลั่งไหลเข้ามาร่วมโชว์ในงานกันมากขึ้น และรถยนต์ที่นำมาจัดแสดงในงานก็มีความใกล้ชิดกับตลาดภูมิภาคอื่นๆ ของโลกมากขึ้น แทนที่จะมีเพื่อขายคนอเมริกันเพียงอย่างเดียวเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา
สำหรับปีนี้ รถยนต์ใหม่ๆ ที่ถูกเตรียมเปิดตัวมีมากมายหลายรุ่น เพื่อรับกับกระแสความตื่นตัวของตลาดรถยนต์สหรัฐอเมริกา ซึ่งเริ่มฟื้นตัวจากพิษเศรษฐกิจ และคาดว่าปี 2011 ตลาดแห่งนี้ก็จะมียอดขายเพิ่มขึ้นจากปี 2010 มากกว่า 12% เพียงแต่ยังไม่มากเหมือนกับยุคก่อนที่ลุงแซมครองตัวเป็นนัมเบอร์วันสำหรับด้านตัวเลขยอดขายในตลาดรถยนต์โลก
เจ้าถิ่นเริ่มคึกคักหลังเจอมรสุมหลายปี
หลังจากหน้าซีดเพราะต้องสะสางปัญหาโดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนผ่านสถานะจากการล้มละลายมาสู่การเป็นบริษัทใหม่ ดูเหมือนว่าทั้งจีเอ็ม และไครสเลอร์เริ่มกลับมามีเลือดฝาดๆ บนแก้มกันบ้างแล้ว และงานนี้ทั้ง 2 บริษัทก็นำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกมาเปิดตัวกันหลายรุ่น แต่เมื่อเปรียบเทียบกับฟอร์ด ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์เพียงรายเดียวของสหรัฐอเมริกาที่ไม่ต้องพึ่งเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเมื่อปี 2009 ผลผลิตของทั้ง 2 บริษัทนี้ก็ยังไม่มากและเร้าใจเทียบเท่า
ตรงนี้ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะ ‘ความรู้สึก’ เนื่องจากนโยบาย One Ford ในการผลิตรถยนต์รุ่นหลักๆ เพียงหนึ่งเดียวเพื่อขายทั่วโลกแบบไม่ต้องแบ่งแยกว่าเป็นเวอร์ชันไหนสำหรับภูมิภาคไหน ก็เลยทำให้เกิดสัมผัสแห่งความใกล้ชิดกับผลผลิตของฟอร์ดมากขึ้น ส่วนจะเข้ามาขายในบ้านเราในอนาคตหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ส่วนของฟอร์ดเอง นอกจากการเผยโฉมเวอร์ชัน EV หรือ Electric Vehicle ของโฟกัสแล้ว รถยนต์อีกรุ่นที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ คือ Vertrek Concept เพราะเป็นผลผลิตที่จะถูกต่อยอดในการพัฒนาเพื่อเป็นคอมแพ็กต์เอสยูวีสหรับขายทั่วโลกโดยจะแทนที่ทั้ง Kuga และ Escape ส่วนชื่อรุ่นยังไม่คอนเฟิร์มว่าจะใช้เหมือนต้นแบบ หรือใช้เหมือนกับของเดิม แต่ที่แน่ๆ ปลายปี 2012 จะผลิตขายจริง
ส่วนข่าวดีของฟอร์ดอีกเรื่องคือ เอ็กซ์โพลเรอร์ สามารถคว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งอเมริกาเหนือในส่วนของ SUV/PickUp มาครอง
ทางด้านจีเอ็ม รถยนต์ที่ฮ็อตและได้รับความสนใจ โดยเฉพาะจากลูกค้าในบ้านเราคือ การเปิดตัวโฉมใหม่ของอาวีโอ ซึ่งที่นี่จะเปลี่ยนมาใช้ชื่อโซนิก (ส่วนตลาดกลุ่มอื่นยังใช้ชื่อเดิม) โดยโซนิกที่เปิดตัวในงานนี้มีทั้งตัวถังแฮทช์แบ็ก 5 ประตูซึ่งในยุโรปขายมาร่วมปีแล้ว แต่ที่เป็นของใหม่จริงๆ คือ รุ่นซีดาน 4 ประตู ซึ่งจะมีเครื่องยนต์แบบแรงเร้าใจให้เลือกทั้ง 1,400 ซีซีเทอร์โบ 138 แรงม้า และ 1,800 ซีซี 135 แรงม้าบล็อกเดียวกับครูซ โดยการทำตลาดจะมีขึ้นกลางปีนี้
สำหรับไครสเลอร์ อาจจะค่อนข้างเงียบเหงาสักหน่อย เพราะเท่าที่มีการเผยรายละเอียดออกมาตอนนี้ ก็มีเพียงแค่โฉมใหม่ของซีดานระดับหรูขนาดกลางไซส์เดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 อย่างรุ่น 300 ขณะที่จี๊ปเน้นไปกับเรื่องของความเป็นแบรนด์อมตะ และนำเสนอเรื่องราวของความเป็นมาแห่งความแข็งแกร่งที่ยาวนาน เพื่อปูทางไปสู่ความเปลี่ยนแปลงในอนาคต
ข่าวที่ออกมาตอนนี้ คือ ทางเฟียตจะจับเอาจี๊ปผนวกด้านวิศวกรรมร่วมกับอัลฟา ซึ่งกำลังจะผลิตเอสยูวีเพื่อขายในตลาดทั้งสหรัฐอเมริกา และตลาดโลก
ฮอนด้าเผยซีวิค โตโยต้าลุยพริอุสอีกแบบ
รถฮ็อตสำหรับปีนี้และถือเป็นไฮไลต์สำหรับนักขับในบ้านเรา (อีกแล้ว) คือ การเผยโฉมใหม่ของซีวิค เจนเนอเรชันที่ 9 ซึ่งถูกเลื่อนมาเปิดตัวในปีนี้ โดยงานนี้ฮอนด้านนำทั้งตัวถังซีดาน และคูเป้มาเปิดตัวพร้อมกันเลย จากเดิมที่คาดว่าจะมีแค่ตัวถังคูเป้เท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 คันก็ยังเป็นต้นแบบ แต่ก็มีความใกล้เคียงกับการผลิตจริง และเชื่อว่าโฉมหน้าของโปรดักชั่นคาร์คงจะแตกต่างจากนี้ไม่มากนัก ส่วนหน้าตาของเวอร์ชันญี่ปุ่นและที่จะขายในบ้านเราก็ต้องดูกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร จะเปลี่ยนด้านหน้าและหลังจากเวอร์ชันอเมริกันมากน้อยแค่ไหน หรือว่าจะมีหน้าตาเหมือนกับภาพ Spy Shot ที่ถูกแอบบันทึกได้ในตะวันออกกลางซึ่งถูกนำออกเผยแพร่ตามอินเตอร์เน็ตก่อนหน้านี้
ขณะที่โตโยต้า เรื่องราวของการขยายทางเลือกให้กับพริอุสก็เป็นจริงจนได้ โดยเผยโฉมต้นแบบที่เรียกว่าพริอุส วี กับตัวถังที่ออกแนวมินิแวน ซึ่ง V ที่ต่อท้ายก็มาจากคำว่า Versatility เพื่อเอาใจคนที่รักความอเนกประสงค์ ซึ่งมีมากกว่าตัวถังแฮทช์แบ็กที่ขายอยู่ในปัจจุบัน โดยมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมากกว่าพริอุสรุ่นปัจจุบันถึง 50% โดยที่ความเพรียวลมของตัวรถสูญเสียไปนิดหน่อย เพราะมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน-Cd 0.29
นอกจากนั้นแบรนด์เอเชียอื่นๆ ก็มีเข้ามาร่วมสร้างสีสันในงานนี้หลายราย แต่เน้นหนักไปทางฝั่งเกาหลีใต้ซ่ะมากกว่า อย่างฮุนไดเผยโฉมผลผลิตใหม่ที่เรียกว่า “เวโลสเตอร์” กับตัวถังทรงสปอร์ตแบบ 3 ประตู ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อเนื่องมาจากรุ่นต้นแบบ พร้อมเครื่องยนต์ 1,600 ซีซี GDI 138 แรงม้า และอีกรุ่นเป็นต้นแบบที่ชื่อว่าเคิร์บ คอนเซ็ปต์กับตัวถังเอสยูวีมาดสปอร์ต ส่วนเกียเผยโฉมต้นแบบทรงปีกนกที่ชื่อว่า KV7
หลากหลายความสวยจากยุโรป
เวทีนี้ได้รับความสนใจจากผู้ผลิตรถยนต์ยุโรปมากหน้าหลายตาเช่นกัน โดยเฉพาะโฟล์คสวาเกน และออดี้ที่ต้องการขยายแนวรุกในภูมิภาคนี้อย่างเต็มตัว ซึ่งรายแรกถึงขนาดลงทุนพัฒนาพัสสาทใหม่ขึ้นมาขายในตลาดแห่งนี้โดยเฉพาะ ซึ่งพัสสาทใหม่ที่เปิดตัวในงานนี้มีความแตกต่างในด้านหน้าตาจากพัสสาท เวอร์ชันยุโรปและตลาดโลกอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นในทุกมิติ
ส่วนทางออดี้ที่เพิ่งฉลองยอดขายต่อปีในสหรัฐอเมริกาเกินหลัก 100,000 คันเป็นครั้งแรกก็เดินเกมรุกเต็มตัวกับการเผยโฉมคันจริงของเอ6 ใหม่ที่จะมีทั้งรุ่นธรรมดา และรุ่นไฮบริดที่ผลิตขึ้นมาเพื่อลูกค้าชาวอเมริกันโดยเฉพาะ
ขณะที่เมอร์เซเดส-เบนซ์เผยโฉมใหม่ของ SLK ควบคู่กับไมเนอร์เชนจ์ครั้งใหญ่ของซี-คลาสทั้งรุ่นซีดาน และแวกอน แต่ยังไม่มีเงาของรุ่นคูเป้ที่มีภาพหลุดออกมาก่อนหน้างานนี้เพียงสัปดาห์เดียว ส่วนปอร์เช่ก็ลุยตลาดเปิดประทุนเช่นกันกับรถสปอร์ตต้นแบบรุ่น 918 RSR เน้นความสวยในทุกรายละเอียด
โดยที่บีเอ็มดับเบิลยูเปิดตัว 635i เปิดประทุน ซึ่งเป็นโมเดลเชนจ์ของซีรีส์ 6 และสร้างความต่างด้วยการเปิดตัวรุ่นเปิดประทุนก่อนคูเป้ รวมถึงไมเนอร์เชนจ์ของซีรีส์ 1 และรุ่นซีรีส์ 1 M Coupe ตัวแรง ขณะที่มินิแบรนด์ในเครือของบีเอ็มดับเบิลยูก็จัดการเผยโฉมต้นแบบที่เรียกว่า Paceman ซึ่งจะผลิตจริงเป็นรุ่นสปอร์ตแบบ 3 ประตูของ Countryman ในปลายปีนี้