สุราษฎร์ธานี- เอกชนชงแผนผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม และเครื่องยนต์แบบผสมผสานไฮบริดบนเกาะเต่า เพื่อให้การผลิต-จ่ายกระแสไฟฟ้าเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เน้นบริการประชาชนและรองรับธุรกิจท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้นทุกปี
นายธีระยุทธ เอี่มตระกูล ผวจ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับฟังบรรยายสรุปการนำเสนอแผนงานโครงการพลังงานร่วม (HYBRID) ระหว่างกังหันลม และเครื่องจักรที่ใช้น้ำมันปาล์มดิบในการเดินเครื่องยนต์ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจ่ายให้แก่ราษฎรในพื้นที่ตำบลเกาะเต่า
ทั้งนี้ มีผู้แทนจากบริษัท เกาะเต่าวินด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่ได้ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นผู้นำเสนอแผนงานโครงการดังกล่าว มุ่งหวังให้ราษฎร และผู้ประกอบการในพื้นที่ตำบลเกาะเต่า ได้ใช้กระแสไฟฟ้าอย่างเพียงพอ และทั่วถึงครอบคลุมทุกครัวเรือน
โดยระบบควบคุมการทำงานระหว่างการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม และเครื่องยนต์จะเป็นแบบผสมผสาน (Hybrid system) เพื่อให้การผลิต-จ่ายกระแสไฟฟ้าเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมีเสถียรภาพขอบระบบสูง โดยโครงการระยะที่ 1 อุปกรณ์หลักที่ติดตั้ง ประกอบด้วย กังหันลม จำนวน 6 ตัว มีกำลังการผลิต 4,800 กิโลวัตต์ และเครื่องยนต์สันดาปภายในใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นเชื้อเพลิง จำนวน 3 เครื่อง กำลังการผลิต 4,617 กิโลวัตต์ รวมกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งสิ้น 9,417 กิโลวัตต์ ซึ่งจะทำให้ประชาชนรวมถึงนักธุรกิจในพื้นที่ ได้ใช้กระแสไฟฟ้าเพียงพอต่อความต้องการ และครอบคลุมพื้นที่มากยิ่งขึ้น และหากได้รับการตอบรับที่ดี หรือกระแสไฟฟ้ายังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ก็จะดำเนินการในระยะที่ 2 คือ เพิ่มกำลังการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการต่อไป
นายภานุ วรมิตร ผอ.ททท.สนง.สุราษฏร์ธานี เผยว่า เกาะเต่าเป็นเกาะเล็กๆ เป็นตำบลหนึ่งของอำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานีตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางทะเลอ่าวไทย ประกอบด้วย เกาะ 2 เกาะ คือ เกาะเต่าและเกาะนางยวน พื้นที่เกือบทั้งหมดของเกาะเป็นภูเขา ปัจจุบันเกาะเต่า และได้ชื่อว่าเป็น “เกาะสวรรค์กลางทะเลอ่าวไทย” เนื่องจากเป็นเกาะที่มีธรรมชาติสวยงามและอุดมสมบูรณ์ มีแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกขนาดใหญ่และสวยงาม อันเป็นที่อยู่อาศัยของปลาหลากหลายชนิดจำนวนมาก และเป็นจุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกแห่งหนึ่ง ที่นักดำน้ำทั่วโลกต่างพากันหมุนเวียนมาเยี่ยมเยือนจำนวนมากเฉลี่ยปีละหลายแสนคน
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเดียวกับกับนักท่องเที่ยว จากเกาะสมุย และเกาะพะงัน รวมถึงนักท่องเที่ยวจากจังหวัดชุมพร ปัจจุบันมีกิจการที่พักและบังกะโลเปิดให้บริการอยู่มากมายกว่า 150 แห่ง กระจายอยู่ทั่วเกาะ โดยเฉพาะตามชายหาดต่างๆ ด้วยเหตุที่พักและบังกะโลเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้กระแสไฟฟ้าในพื้นที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการบางแห่งเปิด-ปิดเป็นช่วงๆ ทั้งนี้ หากมีการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม และเครื่องยนต์จะเป็นแบบผสมผสาน (Hybrid system) บนเกาะเต่าจะทำให้เพิ่มความสะดวกทางด้านต่างๆให้กับประชาชน ผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ รวมถึงนักท่องเที่ยวเพิ่มมากยิ่งขึ้น
นายธีระยุทธ เอี่มตระกูล ผวจ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับฟังบรรยายสรุปการนำเสนอแผนงานโครงการพลังงานร่วม (HYBRID) ระหว่างกังหันลม และเครื่องจักรที่ใช้น้ำมันปาล์มดิบในการเดินเครื่องยนต์ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจ่ายให้แก่ราษฎรในพื้นที่ตำบลเกาะเต่า
ทั้งนี้ มีผู้แทนจากบริษัท เกาะเต่าวินด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่ได้ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นผู้นำเสนอแผนงานโครงการดังกล่าว มุ่งหวังให้ราษฎร และผู้ประกอบการในพื้นที่ตำบลเกาะเต่า ได้ใช้กระแสไฟฟ้าอย่างเพียงพอ และทั่วถึงครอบคลุมทุกครัวเรือน
โดยระบบควบคุมการทำงานระหว่างการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม และเครื่องยนต์จะเป็นแบบผสมผสาน (Hybrid system) เพื่อให้การผลิต-จ่ายกระแสไฟฟ้าเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมีเสถียรภาพขอบระบบสูง โดยโครงการระยะที่ 1 อุปกรณ์หลักที่ติดตั้ง ประกอบด้วย กังหันลม จำนวน 6 ตัว มีกำลังการผลิต 4,800 กิโลวัตต์ และเครื่องยนต์สันดาปภายในใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นเชื้อเพลิง จำนวน 3 เครื่อง กำลังการผลิต 4,617 กิโลวัตต์ รวมกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งสิ้น 9,417 กิโลวัตต์ ซึ่งจะทำให้ประชาชนรวมถึงนักธุรกิจในพื้นที่ ได้ใช้กระแสไฟฟ้าเพียงพอต่อความต้องการ และครอบคลุมพื้นที่มากยิ่งขึ้น และหากได้รับการตอบรับที่ดี หรือกระแสไฟฟ้ายังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ก็จะดำเนินการในระยะที่ 2 คือ เพิ่มกำลังการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการต่อไป
นายภานุ วรมิตร ผอ.ททท.สนง.สุราษฏร์ธานี เผยว่า เกาะเต่าเป็นเกาะเล็กๆ เป็นตำบลหนึ่งของอำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานีตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางทะเลอ่าวไทย ประกอบด้วย เกาะ 2 เกาะ คือ เกาะเต่าและเกาะนางยวน พื้นที่เกือบทั้งหมดของเกาะเป็นภูเขา ปัจจุบันเกาะเต่า และได้ชื่อว่าเป็น “เกาะสวรรค์กลางทะเลอ่าวไทย” เนื่องจากเป็นเกาะที่มีธรรมชาติสวยงามและอุดมสมบูรณ์ มีแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกขนาดใหญ่และสวยงาม อันเป็นที่อยู่อาศัยของปลาหลากหลายชนิดจำนวนมาก และเป็นจุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกแห่งหนึ่ง ที่นักดำน้ำทั่วโลกต่างพากันหมุนเวียนมาเยี่ยมเยือนจำนวนมากเฉลี่ยปีละหลายแสนคน
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเดียวกับกับนักท่องเที่ยว จากเกาะสมุย และเกาะพะงัน รวมถึงนักท่องเที่ยวจากจังหวัดชุมพร ปัจจุบันมีกิจการที่พักและบังกะโลเปิดให้บริการอยู่มากมายกว่า 150 แห่ง กระจายอยู่ทั่วเกาะ โดยเฉพาะตามชายหาดต่างๆ ด้วยเหตุที่พักและบังกะโลเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้กระแสไฟฟ้าในพื้นที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการบางแห่งเปิด-ปิดเป็นช่วงๆ ทั้งนี้ หากมีการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม และเครื่องยนต์จะเป็นแบบผสมผสาน (Hybrid system) บนเกาะเต่าจะทำให้เพิ่มความสะดวกทางด้านต่างๆให้กับประชาชน ผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ รวมถึงนักท่องเที่ยวเพิ่มมากยิ่งขึ้น