ถือเป็นอีกงานมอเตอร์โชว์ที่มักจะมีของใหม่ๆ มาเปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลกอย่างสม่ำเสมอ เพียงแต่ว่าอาจจะเป็นรถยนต์ที่เน้นสำหรับขายตลาดในประเทศเป็นหลัก ซึ่งเป็นประจำทุกปีสำหรับเดือนกุมภาพันธ์ ที่ตลาดรถยนต์อเมริกันจะมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องกับงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งในคราวนี้ย้ายวิกลงมาข้างล่างจากดีทรอยต์มุ่งหน้าสู่ Windy City หรือชิคาโก้
ถ้าดูตามประวัติแล้ว ชิคาโก้ มอเตอร์โชว์ถือเป็นงานที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน และเริ่มจัดขึ้นครั้งแรกในปี 1901 สำหรับในปีนี้เป็นการจัดงานครั้งที่ 102 รอบสื่อมวลชนมีขึ้นระหว่างวันที่ 10-11 กุมภาพันธ์ ส่วนรอบคนธรรมดาจะเริ่มเปิดให้ชมกันในวัน 12-21 กุมภาพันธ์โดยใช้ McCormick Place เป็นสถานที่ในการจัดแสดง และตัวงานมี The Chicago Automobile Trade Association เป็นแม่งาน
สำหรับรถยนต์ใหม่ที่ถูกนำมาเปิดตัวในงานนี้มีหลายรุ่นหลายคัน แต่ต้องบอกเอาไว้ก่อนว่า ส่วนใหญ่จะเป็นโมเดลที่เน้นขายในสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก จะมีบ้างบางรุ่นที่หลุดออกมาทำตลาดต่างแดน ซึ่งแม้แต่รถยนต์ญี่ปุ่นก็เป็นโมเดลที่เกิดมาเพื่อตอบรับความต้องการของคนอเมริกันเป็นหลัก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ โอดิสซีส์ คอนเซ็ปต์ ซึ่งจะเป็นโฉมใหม่ของโอดิสซีส์ เวอร์ชันอเมริกาเหนือ
ตรงนี้ต้องอธิบายให้เคลียร์สักนิด เพราะแม้จะใช้ชื่อเดียวกับรุ่นที่ขายในญี่ปุ่นและบ้านเรา แต่โอดิสซีส์ที่ขายในอเมริกาเหนือเป็นคนละคันกันเลย จริงอยู่ที่เจนเนอเรชันแรกที่ใช้ในการทำตลาดเป็นรุ่นเดียวกัน แต่พอมาถึงรุ่นที่ 2 คราวนี้ต่างคนต่างแยกกันพัฒนา เวอร์ชันญี่ปุ่นและตลาดโลกก็เป็นคันหนึ่ง ส่วนเวอร์ชันอเมริกาเหนือก็เป็นอีกคันที่มีขนาดใหญ่กว่าเพื่อรองรับความต้องการที่มากกว่า และในญี่ปุ่นก็อิมพอร์ต โอดิสซีส์ เวอร์ชันอเมริกาเหนือเข้ามาขายด้วยในชื่อลาเกรท ซึ่งเมื่อถึงเจนเนอเรชันที่ 3 แนวทางในการพัฒนาก็ยังเป็นเช่นนี้ และคิดว่าว่าในเวอร์ชันที่ 4 ซึ่งกำลังจะเปิดตัวก็จะเป็นอย่างนี้เช่นเดียวกัน
สำหรับรายละเอียดของตัวรถยังไม่เผย แต่เชื่อว่าจะเริ่มต้นกับเครื่องยนต์วี6 สำหรับการขับเคลื่อนโดยที่ตัวถังมีความกว้างเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมร่วมๆ 1.4 นิ้ว โดยมีความยาวอยู่ที่ 5,150 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อเฉียด 3,000 มิลลิเมตร ส่วนการทำตลาดคาดว่าน่าจะมีขึ้นในปลายปีนี้
ทางด้านโตโยต้าและแบรนด์ไซออนเอาใจตลาดคนอเมริกันด้วยการเผยโฉมรุ่นใหม่ของอะวาลอน ซีดานขนาด Full-Size เพื่อทำตลาดแทนที่รุ่นเดิมซึ่งขายกันมาตั้งแต่ปี 2005 โดยเป็นการปรับโฉมที่มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย เพราะแม้จะมีโครงสร้างตัวถังเหมือนกับรุ่นดั้งเดิม แต่ก็ออกแบบด้านหน้าและหลังใหม่ ส่วนในห้องโดยสารถอดแผงหน้าปัดเดิมออกและแทนที่ด้วยของใหม่เลย ส่วนเครื่องยนต์ที่ทำตลาดเป็นวี6 3,500 ซีซี 268 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที
ส่วนไซออนยังหากินอยู่กับรถสปอร์ตรุ่น tC ที่แชร์พื้นฐานร่วมกับโคโรลล่า แต่วางเครื่องยนต์ 2,400 ซีซี 161 แรงม้าของคัมรี่ โดยในคราวนี้เป็นเวอร์ชัน 6.0 แต่งสุดสปอร์ต และมีการผลิตไม่มากเหมือนกับเวอร์ชันที่ผ่านๆ มา แค่ 1,100 คันเท่านั้น และตั้งราคาเอาไว้ที่ 18,620 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 614,000 บาท
สำหรับรถยนต์เจ้าถิ่นที่มาร่วมสร้างสีสันก็มีทั้งฟอร์ด เอดจ์ใหม่ ซึ่งเป็นการปรับโฉมให้กับครอสส์โอเวอร์ที่พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับรถยนต์รุ่นฟิวชั่น และวางเครื่องยนต์ EcoBoost 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบเป็นขุมพลัง พร้อมกับนำรถตู้รุ่นทรานซิต คอนเน็กต์มาดัดแปลงเป็นแท็กซี่และสามารถใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิงทั้ง CNG และ LPG ส่วนอีกเวอร์ชันของทรานซิต คอนเน็กต์เป็นรุ่นพลังไฟฟ้าสำหรับรองรับกับการใช้งานในเชิงพาณิชย์แบบเบาๆ ได้ ส่วนรถสปอร์ตที่เปิดตัวเป็นเวอร์ชัน GT500 ของเชลบี้ที่พัฒนาบนเวอร์ชันปรับโฉมของมัสแตง โดยมีขายทั้งรุ่นคูเป้ และเปิดประทุน
ตามด้วยการฉลองครบรอบ 75 ปีของเอสยูวีร่างยักษ์ของค่ายเชฟโรเลตอย่างซูเบอร์เบิ้นกับรหัสไดมอนด์ เอดิชันและเวอร์ชัน Heavy Duty สำหรับการใช้งานหนักของปิกอัพแบบ Full Size รุ่นซิลเวอราโด เพื่อแข่งขันกับดอดจ์ แรมที่เพิ่งเปิดตัวเวอร์ชันนี้ออกมาในงานดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ เดือนมกราคมที่ผ่านมา
