ข่าวในประเทศ - โตโยต้า ย้ำกรณีรีคอลรถยนต์ทั่วโลก รวมถึงเหตุล่าสุดเกิดกับ พริอุส ไฮบริด และอีก 3 รุ่นที่ใช้พื้นฐานหรือชิ้นส่วนร่วมกันทั้ง พริอุส ปลั๊กอิน,ซาอิ และเลกซัส HS250 หลังพบความบกพร่องในระบบเบรก ไม่เกี่ยวข้องกับ “คัมรี่ ไฮบริด” และรถยนต์ประกอบในไทย
หลังจากโตโยต้าเกิดวิกฤตการเรียกรถยนต์กลับมาซ่อมแซม (Recall) หลายล้านคันทั่วโลกทั้งในอเมริกาเหนือ จีน และยุโรป จนต้องมีการยุติการขายรถยนต์ถึง 8 รุ่นในสหรัฐอเมริกา ล่าสุดถึงคิวของรถไฮบริดยอดนิยม “โตโยต้า พริอุส” โมเดลใหม่ ที่เปิดตัวทำตลาดอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งรายงานเบื้องต้นระบุว่า มาจากซอฟต์แวร์ระบบเบรก ABS และชิ้นส่วนในระบบชาร์จกระแสไฟฟ้าในระหว่างการเบรก ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการช่วยชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่มีปัญหา
โดยเกิดความบกพร่องในการรับส่งข้อมูลระหว่าง 2 ส่วนนี้เกิดขึ้นช้ากว่าที่ควรจะเป็น 1 วินาที ทำให้เบรกทำงานช้าลง และทำให้ผู้ขับเกิดความรู้สึกเหมือนกับว่าเบรกไม่อยู่ หรือมีระยะเบรกเพิ่มขึ้นจากที่ผู้ขับคาดเอาไว้ ดังนั้นเมื่อขับด้วยความเร็ว 96 กิโลเมตร/ชั่วโมงและเบรกแล้ว ระยะเบรกอาจจะเพิ่มจากเดิมอีกประมาณ 27 เมตร ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะนี้สามารถเกิดขึ้นกับบางสภาพถนน เช่น บนพื้นผิวเปียกลื่น หรือบนน้ำแข็ง
จากปัญหาดังกล่าวทำให้วานนี้ (9 ก.พ.) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (TMC) ออกแถลงข่าวอย่างเป็นทางการถึงการรีคอล พริอุส ไฮบริด และรถไฮบริดที่ใช้พื้นฐานหรืออุปกรณ์ร่วมกันอีก 3 รุ่นคือ พริอุส ปลั๊กอิน, ซาอิ (SAI) และ เลกซัส HS250 รวมจำนวน437,000 คัน ที่ทำตลาดทั่วโลก รวมทั้งในอเมริกา และญี่ปุ่น
ขณะเดียวกันบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (TMT) ได้ออกแถลงการณ์ว่า ตามที่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ได้มีการชี้แจง และประกาศรณรงค์บริการพิเศษ ในการตรวจสอบโปรแกรมควบคุมระบบป้องกันเบรคล็อก (ABS) ในรถยนต์โตโยต้าไฮบริดจำนวน 4 รุ่น ได้แก่ พริอุส,พริอุส ปลั๊กอิน,ซาอิ และเลกซัส HS250
ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจ และสร้างความมั่นใจกับลูกค้าและผู้บริโภคในประเทศไทย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ขอชี้แจงเพิ่มเติมสำหรับกรณีดังกล่าวว่า การรณรงค์บริการพิเศษในการตรวจสอบรถดังกล่าว นับเป็นการแสดงความรับผิดชอบในการใส่ใจทางด้านคุณภาพที่มีต่อลูกค้า ภายใต้คำมั่นสัญญาที่จะปกป้องความปลอดภัยของลูกค้าอย่างสุดความสามารถ
โดยระบบเบรกแบบไฮโดรลิก และ ระบบเบรกที่ใช้แรงหน่วงจากมอเตอร์ไฟฟ้าในรถทั้ง 4 รุ่นจะทำงานประสานกันอย่างพร้อมเพรียง ในสภาพการขับขี่ปกติ หากแต่ผู้ขับขี่อาจรู้สึกว่าระยะเบรกจะยาวขึ้นในขณะแตะเบรกเบา ๆ หรือเหยียบเบรกในขณะที่ใช้ความเร็วต่ำ บนสภาพถนนขรุขระหรือถนนที่ผิวลื่น ดังนั้น ทางบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จึงได้เปิดการรณรงค์บริการพิเศษ ให้ลูกค้าเจ้าของรถทั้ง 4 รุ่น ได้นำรถเข้ามาตรวจสอบเพื่อปรับปรุงโปรแกรมควบคุมระบบ ABS ดังกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอให้ความมั่นใจว่า กรณีที่เกิดขึ้นกับ โปรแกรมการควบคุมระบบ ABS ดังกล่าว มีเฉพาะ ในรถ 4 รุ่นนี้เท่านั้น ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อรถยนต์รุ่นอื่น รวมทั้งรถยนต์ คัมรี่ ไฮบริด ที่มีจำหน่ายภายในประเทศไทย แต่อย่างใด
หลังจากโตโยต้าเกิดวิกฤตการเรียกรถยนต์กลับมาซ่อมแซม (Recall) หลายล้านคันทั่วโลกทั้งในอเมริกาเหนือ จีน และยุโรป จนต้องมีการยุติการขายรถยนต์ถึง 8 รุ่นในสหรัฐอเมริกา ล่าสุดถึงคิวของรถไฮบริดยอดนิยม “โตโยต้า พริอุส” โมเดลใหม่ ที่เปิดตัวทำตลาดอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งรายงานเบื้องต้นระบุว่า มาจากซอฟต์แวร์ระบบเบรก ABS และชิ้นส่วนในระบบชาร์จกระแสไฟฟ้าในระหว่างการเบรก ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการช่วยชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่มีปัญหา
โดยเกิดความบกพร่องในการรับส่งข้อมูลระหว่าง 2 ส่วนนี้เกิดขึ้นช้ากว่าที่ควรจะเป็น 1 วินาที ทำให้เบรกทำงานช้าลง และทำให้ผู้ขับเกิดความรู้สึกเหมือนกับว่าเบรกไม่อยู่ หรือมีระยะเบรกเพิ่มขึ้นจากที่ผู้ขับคาดเอาไว้ ดังนั้นเมื่อขับด้วยความเร็ว 96 กิโลเมตร/ชั่วโมงและเบรกแล้ว ระยะเบรกอาจจะเพิ่มจากเดิมอีกประมาณ 27 เมตร ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะนี้สามารถเกิดขึ้นกับบางสภาพถนน เช่น บนพื้นผิวเปียกลื่น หรือบนน้ำแข็ง
จากปัญหาดังกล่าวทำให้วานนี้ (9 ก.พ.) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (TMC) ออกแถลงข่าวอย่างเป็นทางการถึงการรีคอล พริอุส ไฮบริด และรถไฮบริดที่ใช้พื้นฐานหรืออุปกรณ์ร่วมกันอีก 3 รุ่นคือ พริอุส ปลั๊กอิน, ซาอิ (SAI) และ เลกซัส HS250 รวมจำนวน437,000 คัน ที่ทำตลาดทั่วโลก รวมทั้งในอเมริกา และญี่ปุ่น
ขณะเดียวกันบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (TMT) ได้ออกแถลงการณ์ว่า ตามที่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ได้มีการชี้แจง และประกาศรณรงค์บริการพิเศษ ในการตรวจสอบโปรแกรมควบคุมระบบป้องกันเบรคล็อก (ABS) ในรถยนต์โตโยต้าไฮบริดจำนวน 4 รุ่น ได้แก่ พริอุส,พริอุส ปลั๊กอิน,ซาอิ และเลกซัส HS250
ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจ และสร้างความมั่นใจกับลูกค้าและผู้บริโภคในประเทศไทย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ขอชี้แจงเพิ่มเติมสำหรับกรณีดังกล่าวว่า การรณรงค์บริการพิเศษในการตรวจสอบรถดังกล่าว นับเป็นการแสดงความรับผิดชอบในการใส่ใจทางด้านคุณภาพที่มีต่อลูกค้า ภายใต้คำมั่นสัญญาที่จะปกป้องความปลอดภัยของลูกค้าอย่างสุดความสามารถ
โดยระบบเบรกแบบไฮโดรลิก และ ระบบเบรกที่ใช้แรงหน่วงจากมอเตอร์ไฟฟ้าในรถทั้ง 4 รุ่นจะทำงานประสานกันอย่างพร้อมเพรียง ในสภาพการขับขี่ปกติ หากแต่ผู้ขับขี่อาจรู้สึกว่าระยะเบรกจะยาวขึ้นในขณะแตะเบรกเบา ๆ หรือเหยียบเบรกในขณะที่ใช้ความเร็วต่ำ บนสภาพถนนขรุขระหรือถนนที่ผิวลื่น ดังนั้น ทางบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จึงได้เปิดการรณรงค์บริการพิเศษ ให้ลูกค้าเจ้าของรถทั้ง 4 รุ่น ได้นำรถเข้ามาตรวจสอบเพื่อปรับปรุงโปรแกรมควบคุมระบบ ABS ดังกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอให้ความมั่นใจว่า กรณีที่เกิดขึ้นกับ โปรแกรมการควบคุมระบบ ABS ดังกล่าว มีเฉพาะ ในรถ 4 รุ่นนี้เท่านั้น ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อรถยนต์รุ่นอื่น รวมทั้งรถยนต์ คัมรี่ ไฮบริด ที่มีจำหน่ายภายในประเทศไทย แต่อย่างใด
