มินิเริ่มเข้าใกล้กับการลุยตลาดเอสยูวีอย่างเต็มตัวอีกสเต็ป เมื่อเผยโฉมต้นแบบตัวลุยหาดทรายที่ชื่อว่า Beachcomber Concept ซึ่งเป็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากตัวต้นแบบ Crossover Concept ที่เปิดตัวในปี 2008 โดยตัวลุยใหม่รุ่นนี้มีคิวเผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงานดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2010 ซึ่งจะเริ่มในรอบสื่อมวลชนวันที่ 11 มกราคมที่จะถึงนี้



นอกจากการประกาศจับต้นแบบรุ่นคูเป้และโรดสเตอร์ซึ่งเปิดตัวในงานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2009 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาขึ้นไลน์ผลิตขายจริงในช่วงปี 2011-2012 แล้ว มินิยังวางแผนเดินหน้าลุยตลาดเอสยูวีอีกด้วย ซึ่งจะว่าไปแล้วโปรเจ็กต์นี้เกิดก่อนการรุกตลาดคูเป้ด้วยซ้ำ แต่ไปๆ มาๆ กลับกลายเป็นว่ารุ่นคูเป้และโรดสเตอร์มีความเคลื่อนไหวให้ติดตามมากกว่า ส่วนรุ่นครอสส์โอเวอร์มีขายแน่ และบางกระแสว่าอาจจะมีคันจริงเปิดตัวออกมาให้เห็นภายในปลายปี 2010 ก่อนเริ่มขายจริงปี 2011
สำหรับต้นแบบที่จะเปิดตัวในดีทรอยต์ ถือเป็นอีกความเคลื่อนไหวที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของมินิในการเปิดตลาดประเภทนี้ และตัวรถก็ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาจากต้นแบบที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว แต่มีความแปลกใหม่ตรงนี้การติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่เรียกว่า 4ALL ซึ่งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของมินิไม่ใช่ของใหม่ เพราะในปี 1963 อเล็กซ์ อิสซิกโกนิสเคยผลิตต้นแบบรุ่น Moke ออกมาสร้างความฮือฮา โดยบนเพลาหน้าและเพลาหลังจะมีเครื่องยนต์ 4 สูบวางอยู่เพลาละ 1 บล็อกเพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อน

ส่วนการทำงานของระบบ 4ALL ก็ยังไม่เปิดเผย แต่เชื่อว่าจะสามารถเลือกปรับอัตราทดทั้งในระดับต่ำและสูงเพื่อสามารถลุยเส้นทางวิบากได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะหนักหรือเบา
ตัวรถมาในแบบเปิดประทุนแบบไม่มีประตูติดตั้งมาด้วย และไม่มีเสากลางมาคั่นกลางให้เกะกะ ทำให้ผู้ขับและผู้โดยสารบนเบาะหลังสามารถเข้าออกจากห้องโดยสารได้อย่างสะดวกสบาย ขณะที่โครงหลังคาจะทำหน้าที่เป็น Roll Over Protection ป้องกันอันตรายเวลาที่เกิดการพลิกคว่ำ ส่วนแผ่นหลังคาถูกถอดออกเพื่อเปิดโล่งสำหรับรับลมเย็น แต่ถ้าฝนเกิดตกลงมา ทางทีมออกแบบก็มีแผ่นหลังคาอ่อนและประตูที่มีน้ำหนักเบาติดตั้งมาให้ด้วย และใช้เวลาเพียงไม่นานในการประกอบเข้าชุด อีกทั้งยังเพิ่มความสวยด้วยล้อแม็กอัลลอยลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว


รายละเอียดทางเทคนิคของตัวรถไม่ได้มีการเปิดเผยออกมา เพราะเป้าหมายของต้นแบบรุ่นนี้คือ การแสดงผลงานด้านการออกแบบเพื่อยืนยันถึงความต้องการรุกตลาดเอสยูวีของมินิอย่างเป็นทางการในปีหน้า โดยที่ในตอนนี้ยังสงสัยกันว่าสุดท้ายแล้วเมื่อถึงเวลาขายจริงมินิจะเลือกใช้ชื่อไหนในการทำตลาดระหว่าง ‘Crossman’ กับ ‘Countryman’ เพราะ 2 ชื่อนี้เป็นชื่อที่ปรากฏตามเว็บไซต์ทางด้านรถยนต์มากที่สุด โดยค่าตัวของรุ่นจำหน่ายจริงเชื่อว่าจะไม่เกิน 30,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.05 ล้านบาท
นอกจากนั้นอีกข่าวที่น่าสนใจคือ หลังการเปิดตัวรุ่นจำหน่ายจริงออกมาแล้ว มีแหล่งข่าวระบุว่ามินิกำลังจะนำครอสส์โอเวอร์ใหม่รุ่นนี้เข้าร่วมการแข่งขันแรลลี่โลก หรือ WRC อีกด้วยเหมือนกับที่สมัยหนึ่งมินิ คูเปอร์ รุ่นดั้งเดิมสามารถสร้างชื่อจากการแข่งทางฝุ่นมาก่อนในช่วงทศวรรษที่ 1950-1960

ข่าวชิ้นนี้ระบุว่า ครอสส์โอเวอร์ใหม่จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1,600 ซีซี เทอร์โบของมินิหรือไม่ก็เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 4 สูบ 2,000 ซีซีรุ่นใหม่ของบีเอ็มดับเบิลยูซึ่งถูกรีดกำลังออกมาร่วมๆ 200 แรงม้า...ต้องดูกันต่อไปว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นแค่ข่าวลือสร้างกระแส หรือข่าวลวง
...แต่ที่แน่ๆ ถ้าข่าวนี้เกิดเป็นจริงขึ้นมา กว่าจะได้แข่งคงต้องรอซีซั่น 2011 โน่น


นอกจากการประกาศจับต้นแบบรุ่นคูเป้และโรดสเตอร์ซึ่งเปิดตัวในงานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2009 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาขึ้นไลน์ผลิตขายจริงในช่วงปี 2011-2012 แล้ว มินิยังวางแผนเดินหน้าลุยตลาดเอสยูวีอีกด้วย ซึ่งจะว่าไปแล้วโปรเจ็กต์นี้เกิดก่อนการรุกตลาดคูเป้ด้วยซ้ำ แต่ไปๆ มาๆ กลับกลายเป็นว่ารุ่นคูเป้และโรดสเตอร์มีความเคลื่อนไหวให้ติดตามมากกว่า ส่วนรุ่นครอสส์โอเวอร์มีขายแน่ และบางกระแสว่าอาจจะมีคันจริงเปิดตัวออกมาให้เห็นภายในปลายปี 2010 ก่อนเริ่มขายจริงปี 2011
สำหรับต้นแบบที่จะเปิดตัวในดีทรอยต์ ถือเป็นอีกความเคลื่อนไหวที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของมินิในการเปิดตลาดประเภทนี้ และตัวรถก็ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาจากต้นแบบที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว แต่มีความแปลกใหม่ตรงนี้การติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่เรียกว่า 4ALL ซึ่งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของมินิไม่ใช่ของใหม่ เพราะในปี 1963 อเล็กซ์ อิสซิกโกนิสเคยผลิตต้นแบบรุ่น Moke ออกมาสร้างความฮือฮา โดยบนเพลาหน้าและเพลาหลังจะมีเครื่องยนต์ 4 สูบวางอยู่เพลาละ 1 บล็อกเพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อน
ส่วนการทำงานของระบบ 4ALL ก็ยังไม่เปิดเผย แต่เชื่อว่าจะสามารถเลือกปรับอัตราทดทั้งในระดับต่ำและสูงเพื่อสามารถลุยเส้นทางวิบากได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะหนักหรือเบา
ตัวรถมาในแบบเปิดประทุนแบบไม่มีประตูติดตั้งมาด้วย และไม่มีเสากลางมาคั่นกลางให้เกะกะ ทำให้ผู้ขับและผู้โดยสารบนเบาะหลังสามารถเข้าออกจากห้องโดยสารได้อย่างสะดวกสบาย ขณะที่โครงหลังคาจะทำหน้าที่เป็น Roll Over Protection ป้องกันอันตรายเวลาที่เกิดการพลิกคว่ำ ส่วนแผ่นหลังคาถูกถอดออกเพื่อเปิดโล่งสำหรับรับลมเย็น แต่ถ้าฝนเกิดตกลงมา ทางทีมออกแบบก็มีแผ่นหลังคาอ่อนและประตูที่มีน้ำหนักเบาติดตั้งมาให้ด้วย และใช้เวลาเพียงไม่นานในการประกอบเข้าชุด อีกทั้งยังเพิ่มความสวยด้วยล้อแม็กอัลลอยลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว
รายละเอียดทางเทคนิคของตัวรถไม่ได้มีการเปิดเผยออกมา เพราะเป้าหมายของต้นแบบรุ่นนี้คือ การแสดงผลงานด้านการออกแบบเพื่อยืนยันถึงความต้องการรุกตลาดเอสยูวีของมินิอย่างเป็นทางการในปีหน้า โดยที่ในตอนนี้ยังสงสัยกันว่าสุดท้ายแล้วเมื่อถึงเวลาขายจริงมินิจะเลือกใช้ชื่อไหนในการทำตลาดระหว่าง ‘Crossman’ กับ ‘Countryman’ เพราะ 2 ชื่อนี้เป็นชื่อที่ปรากฏตามเว็บไซต์ทางด้านรถยนต์มากที่สุด โดยค่าตัวของรุ่นจำหน่ายจริงเชื่อว่าจะไม่เกิน 30,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.05 ล้านบาท
นอกจากนั้นอีกข่าวที่น่าสนใจคือ หลังการเปิดตัวรุ่นจำหน่ายจริงออกมาแล้ว มีแหล่งข่าวระบุว่ามินิกำลังจะนำครอสส์โอเวอร์ใหม่รุ่นนี้เข้าร่วมการแข่งขันแรลลี่โลก หรือ WRC อีกด้วยเหมือนกับที่สมัยหนึ่งมินิ คูเปอร์ รุ่นดั้งเดิมสามารถสร้างชื่อจากการแข่งทางฝุ่นมาก่อนในช่วงทศวรรษที่ 1950-1960
ข่าวชิ้นนี้ระบุว่า ครอสส์โอเวอร์ใหม่จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1,600 ซีซี เทอร์โบของมินิหรือไม่ก็เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 4 สูบ 2,000 ซีซีรุ่นใหม่ของบีเอ็มดับเบิลยูซึ่งถูกรีดกำลังออกมาร่วมๆ 200 แรงม้า...ต้องดูกันต่อไปว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นแค่ข่าวลือสร้างกระแส หรือข่าวลวง
...แต่ที่แน่ๆ ถ้าข่าวนี้เกิดเป็นจริงขึ้นมา กว่าจะได้แข่งคงต้องรอซีซั่น 2011 โน่น