งานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2009 ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อไม่นานนี้ รถยนต์ต้นแบบอีกรุ่นที่ได้รับความสนใจอย่างมาก เห็นจะเป็น BB1 จากค่ายเปอโยต์ ซึ่งนอกจากการออกแบบที่ดูสวยโดดเด่นแล้ว บนตัวถังทรงกะทัดรัดที่มีความยาวเพียง 2.5 เมตร และยังมากด้วยประโยชน์ใช้สอยเหมาะสำหรับเป็นรถยนต์สำหรับคนเมืองในยุคหน้าอย่างแท้จริง
ต้นแบบรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นมารองรับกับสภาพแห่งความเป็นจริงในปัจจุบัน ซึ่งความต้องการของผู้ใช้รถใช้ถนนไม่เคยหยุดนิ่งและมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา และรถยนต์ในอนาคตถูกนิยามเอาไว้อย่างชัดเจนว่า จะต้องเป็นรถยนต์ที่มีรูปทรงกะทัดรัดแต่เปี่ยมด้วยประโยชน์ใช้สอย เพื่อเน้นความคล่องตัวสำหรับการใช้งานในเมือง และที่สำคัญ คือ เป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานที่สะอาด ไม่สร้างมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อมในขณะใช้งาน
บนเรือนร่างแบบ 2 ประตูของ BB1 ตัวรถมีความยาวเพียง 2.5 เมตรเท่านั้น พร้อมรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพียง 3.5 เมตร อีกทั้งยังได้รับการออกแบบเพื่อเน้นความเป็น ‘ที่สุด’ ในทุกด้าน ทั้งงานออกแบบ และประโยชน์ใช้สอย โดยไฮไลท์เด่นเห็นจะอยู่ที่ห้องโดยสาร ซึ่งในสภาพปกติสามารถรองรับผู้ขับและผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ได้ถึง 4 คนอย่างสบายๆ พร้อมกับเหลือพื้นที่บรรทุกสัมภาระอีก 160 ลิตร
แต่เมื่อต้องการใข้งานในด้านบรรทุก ก็สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของเบาะเพื่อแปลงให้ BB1 อยู่ในโหมดบรรทุก ซึ่งในห้องโดยสารจะมีผู้ขับเพียงคนเดียว แต่ทว่ามีพื้นที่สำหรับบรรทุกสัมภาระเพิ่มขึ้นเป็น 855 ลิตร หรือมากกว่าห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายของรถยนต์ซับคอมแพ็กต์ทั่วไปเกือบ 2 เท่าตัว
นอกจากนั้น ภายในห้องโดยสารยังได้รับการติดตั้งระบบความอำนวยความสะดวกและความบันเทิงครบครันสำหรับคนรุ่นใหม่ ทั้งเครื่องเสียงชั้นดี เครื่องเล่น MP3, การเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ และอินเตอร์เนต รวมถึงระบบนำทาง
การขับเคลื่อนมาในรูปแบบพลังไฟฟ้า ด้วยการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 10 แรงม้าเอาไว้ที่ล้อหลังทั้ง 2 ฝั่งรวมแล้วมีกำลังขับเคลื่อน 20 แรงม้า โดยการพัฒนามอเตอร์ไฟฟ้าชุดนี้เป็นความร่วมมือระหว่างเปอโยต์กับมิชลิน สามารถแล่นทำระยะทางต่อการชาร์จ 1 ครั้งประมาณ 120 กิโลเมตร ใช้เวลา 2.8 วินาทีในการทำอัตราเร่งจาก 0-30 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขณะที่ตัวรถมีน้ำหนักเบามาก เพียง 600 กิโลกรัมเท่านั้น
เมื่อมีการใช้งานในเวลากลางวัน และรถจอดติดอยู่กับที่ ระบบจะอาศัยกระแสไฟฟ้าที่ส่งมาจากแผงโซลาร์เซลล์ที่อยู่บนหลังคาเพื่อนำมาใช้ในการหล่อเลี้ยงระบบในห้องโดยสาร เช่น เครื่องปรับอากาศ และเครื่องเสียง
สำหรับชื่อรุ่น BB1 ไม่เพียงแต่เป็นการอ้างอิงถึงชื่อรถยนต์รุ่นเล็กที่ถูกเรียกว่า Baby Peugeot ซึ่งถูกผลิตออกมาในระหว่างปี 1905 และ 1912 แต่ยังหมายถึงชวนให้นึกถึงรถยนต์รุ่น VLV ที่ทางเปอโยต์ผลิตออกมา 377 คันเพื่อใช้ในราชการทางทหารช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1941-1945 ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงแนวคิดในการพัฒนารถยนต์ของเปอโยต์ที่สามารถรองรับกับความต้องการที่หลากหลายของการใช้งาน