xs
xsm
sm
md
lg

Honda CR-V ปรับโฉม-พกม้ามา 180 ตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตกเป็นข่าวอยู่ตามหน้าอินเตอร์เนตอยู่นาน ในที่สุดฮอนด้าก็เผยโฉมไมเนอร์เชนจ์ หรือรุ่นปรับโฉมของซีอาร์-วีออกมาแล้ว ซึ่งนอกจากจะมีความสดใหม่ในด้านรูปลักษณ์ภายนอกระดับหนึ่งแล้ว ในรุ่นมาตรฐานเครื่องยนต์ 2,400 ซีซียังแรงและเร้าใจขึ้นเมื่อมีการอัพแรงม้าให้ขยับขึ้นมาอยู่ในระดับ 180 ตัวอีกด้วย

ตรงนี้ถือว่าเป็นการเปิดตัวตัดหน้ากำหนดการเดิม เพราะเท่าที่มีข่าวและการประกาศออกมา ทางฮอนด้าระบุว่าวันที่ 17 กันยายนคือ ดีเดย์ของการเปิดตัวไมเนอร์เชนจ์ซีอาร์-วี แต่ไปๆ มาๆ กลับชิงเผยโฉมและข้อมูลก่อน โดยมีทั้งเวอร์ชันที่ขายในตลาดสหรัฐอเมริกา และยุโรป ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ไม่ได้แตกต่างกันในเชิงรูปลักษณ์สักเท่าไร ยกเว้นทางเลือกของเครื่องยนต์ที่ซีอาร์-วีในยุโรปมีมากกว่า

เจนเนอเรชันที่ 3 ของซีอาร์-วีซึ่งใช้พื้นฐานร่วมกับซีวิครหัส FD เปิดตัวออกมาในปลายปี 2006 หรือ 1 ปีหลังจากที่ซีวิคเปิดตัว โดยตัวรถได้รับการออกแบบให้มีมิติตัวถังที่ขยายใหญ่ขึ้นจากรุ่นที่ผ่านมา พร้อมหน้าตาที่ดูสปอร์ตขึ้น แต่คงเอกลักษณ์เดิม คือ ไฟท้ายทรงตั้งที่วางตัวเป็นแนวเดียวกับเสาหลังคาหลัง

สำหรับการไมเนอร์เชนจ์เป็นไปตามอายุตลาด และจะเริ่มวางขายในตลาดทั่วโลกนับจากปลายปีนี้ ซึ่งประเด็นหลักของการเปลี่ยนแปลงสามารถสังเกตได้จากทางด้านหน้า ซึ่งมีการออกแบบกันชนหน้าทรงใหม่ ที่ดูสวยและสปอร์ตขึ้น ขณะที่กระจังหน้าซึ่งยาวต่อเป็นชุดเดียวกับกันชนหน้าก็มีการออกแบบใหม่เช่นกันด้วย

ด้านท้ายที่หลายคนสงสัยว่าจะเปลี่ยนด้วยหรือไม่นั้นเพราะภาพชุด Teaser ที่นำออกยั่วน้ำลายแฟนๆ นั้นไม่มีตรงส่วนนี้ ปรากฏว่ามีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในส่วนของรายละเอียดของชุดไฟท้าย ซึ่งมีการจัดวางตำแหน่งของไฟต่างๆ ใหม่ แต่รูปทรงของดวงไฟยังเป็นทรงตั้งเหมือนเดิม เช่นเดียวกับล้อแม็กก็มีการเปลี่ยนลายใหม่ และในรุ่นตกแต่ง EX-L ที่ขายอยู่ในเมืองลุงแซมมีการติดตั้งระบบนำร่อง Navigator มาให้จากโรงงานเลย

คนที่อยากสัมผัสกับความเปลี่ยนแปลงของห้องโดยสารคงจะต้องผิดหวัง เพราะว่ารายละเอียดส่วนใหญ่เหมือนเดิม จะแตกต่างออกไปก็ตรงวัสดุที่นำมาใช้ในการตกแต่ง ส่วนเบาะนั่งก็มีทั้งรุ่นที่พับได้ในแบบ 40/60 หรือแบบแยกับ 40/20/40 และสามารถเลื่อนถอยหลังได้

สิ่งที่ต่างจากรุ่นเดิม คือ เครื่องยนต์ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว i-VTEC 2,400 ซีซี จากเดิมที่มีม้าอยู่ 166 ตัว ก็ได้รับการเพิ่มเรี่ยวแรงในการขับเคลื่อนขึ้นด้วยการขยับตัวเลขกำลังสูงสุดขึ้นอีก 14 แรงม้าเป็น 180 แรงม้าสำหรับสเปกอเมริกัน โดยเพิ่มอัตราส่วนการอัดจาก 9.7 มาเป็น 10.5 : 1 พร้อมกับเปลี่ยนชุดหัวฉีดใหม่ ขยายวาล์วไอดี ลดความฝืดของแหวนลูกสูบ ปรับปรุงการทำงานของหัวเทียนและจังหวะการจุดระเบิดให้แม่นยำ และเพิ่มประสิทธิภาพในการไหลของไอเสียออกจากห้องเผาไหม้
ผลที่ได้คือ 180 แรงม้า ที่ 6,800 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 22.2 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบต่อนาที

ส่วนในยุโรปนอกจากเครื่องยนต์เบนซินแล้ว ยังมีทางเลือกด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลตัวใหม่แบบ i-DTEC แบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 2,200 ซีซีที่มีกำลังสูงสุด 150 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 10 แรงม้า) ที่ 4,000 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 35.6 กก.-ม. ที่ 3,800 รอบต่อนาที (+1.109 กก.-ม.) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ และมีล้อให้เลือกตั้งแต่ไซส์ 16-18 นิ้ว

สำหรับซีอาร์-วี สเปกอเมริกันมีขายทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และ 4 ล้ออัตโนมัติส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรืออัตโนมัติที่มีจังหวะเดินหน้าเท่ากัน โดยที่ตัวเลขความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในเมือง/นอกเมืองอยู่ในระดับ 8.5/11.2 กิโลเมตรต่อลิตรสำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และ 8.5/10.9 กิโลเมตรต่อลิตรสำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ

ตลาดสหรัฐอเมริกาถือเป็นตลาดใหญ่สำหรับซีอาร์-วีแห่งหนึ่ง เพราะในปีที่แล้ว เอสยูวีรุ่นนี้ของฮอนด้าครองแชมป์เอสยูวีที่ขายดีที่สุดในปี 2008 ด้วยตัวเลข 197,279 คันและติดอันดับอยู่ใน 10 อันดับแรกรถยนต์ทุกประเภทที่ขายดีที่สุดในตลาดสหรัฐอเมริกา

บ้านเรา ซีอาร์-วีน่าจะเปิดตัวในปลายปีนี้ โดยคาดว่าน่าจะเผยโฉมให้เห็นก่อนที่งานมหกรรมยานยนต์จะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคม ส่วนหน้าตาก็คงไม่แตกต่างจากเวอร์ชันอเมริกัน เพราะซีอาร์-วีที่ขายทั่วโลกมีหน้าตาเดียว ไม่เหมือนกับซีวิคและแอคคอร์ด ส่วนเรื่องที่ว่าจะขยับแรงม้าขึ้นตามเวอร์ชันอเมริกันด้วยหรือไม่นั้น คงต้องรอดูกันต่อไป เพราะช่วงนี้ดูเหมือนว่าราคาน้ำมันจะไม่ค่อยเอื้อประโยชน์ให้กับรถแรงๆ เท่าไร




กำลังโหลดความคิดเห็น