6 ปีหลังจากที่ทำตลาดมาตั้งแต่ 2003 ในตอนนี้จากัวร์จัดการปลด XJ Series รุ่นปัจจุบันในรหัส XK350 และ XK358 ออกจากตลาดแล้ว เพื่อแทนที่ด้วยรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งได้รับการสร้างสรรค์อย่างสวยสปอร์ต พร้อมกับพลิกแนวคิดมาสู่การเติมความสปอร์ตบนความหรูหราในการประกบกับคู่ปรับสำคัญอย่างบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7, เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส, ออดี้ เอ8 และมาเซราติ ควอตโตรปอร์เต้
XJ ใหม่มาพร้อมกับรหัสตัวถัง XK351 มีขายทั้งรุ่นฐานล้อปกติ และรุ่นฐานล้อยาว พร้อมกับรูปลักษณ์สุดสปอร์ตซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของเอียน คัลลัม โดยเป็นการปรับปรุงแนวทางมาจากผลงานของต้นแบบรุ่น C-XF ซึ่งในเวลาต่อมากลายเป็นรุ่นจำหน่ายจริงในชิ่อ XF หรือตัวแทนของรุ่น S-Type เพรียวลมด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน หรือ Cd ในระดับ 0.29
เพื่อเน้นให้ตัวรถมีน้ำหนักเบา จากัวร์ใช้อะลูมิเนียมในการผลิตโครงสร้างและชิ้นส่วนตัวถัง ซึ่งทำให้ XJ ใหม่มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นเดิม 150 กิโลกรัม ส่งผลต่อทั้งในเรื่องสมรรถนะการขับเคลื่อน และความประหยัดน้ำมัน
ภายในห้องโดยสารมีการผสมผสานความหรูเข้ากับความสปอร์ตได้อย่างลงตัว แผงมาตรวัดมาในแบบดวงกลมให้สัมผัสถึงความโฉบเฉี่ยวขณะที่ตรงแผงคอนโซลกลางเป็นหน้าจอแบบทัชสกรีนแบบ 8 นิ้ว ซึ่งจะใช้เป็นฟังก์ชั่นในการควบคุมระบบต่างๆ ในตัวรถ เช่นเดียวกับการแสดงผลของระบบนำร่อง หรือการเปลี่ยนเป็นมอนิเตอร์สำหรับความบันเทิง พร้อมกับระบบเครื่องเสียงแบบไฮเอนด์ที่มีกำลังขับ 1,200 วัตต์ของ Bower& Wilkins
ในช่วงแรกของการทำตลาดมีเครื่องยนต์ 3 บล็อกแต่ 4 ทางเลือก ในรุ่นเบนซินเริ่มต้นกับรหัส AJ-V8 GEN III ซึ่งเป็นแบบวี8 ทวินแคม 32 วาล์ว 5,200 ซีซีพร้อมระบบไดเร็กต์อินเจ็กชันและระบบวาล์วแปรผัน VCT รีดกำลังออกมาได้ 385 แรงม้า ซึ่งในรุ่นนี้เข้ามาแทนที่ขุมพลังวี8 4,200 ซีซี และมีกำลังเพี่มขึ้นจากเดิม 29%
หากยังไม่เร้าใจก็ต้องสัมผัสกับเวอร์ชันซูเปอร์ชาร์จที่ใช้พื้นฐานเครื่องยนต์เดียวกัน และมีให้เลือก 2 ระดับกำลังขับเคลื่อน คือ 470 และ 510 แรงม้า ซึ่งในรุ่นท็อปมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 4.9 วินาที
ส่วนเทอร์โบดีเซลในรหัส AJ-V6D GEN III เป็นทางเลือกสุดท้ายในแบบวี6 3,000 ซีซี 275 แรงม้าเข้ามาแทนที่รุ่น 2,700 ซีซีในรุ่นเดิม มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 6.4 วินาที และมีการคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับ 184 กรัมต่อการใช้งาน 1 กิโลเมตร ส่วนความประหยัดน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 16.25 กิโลเมตร/ลิตร โดยทุกรุ่นติดตั้งคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะพร้อมโหมดการเปลี่ยนเกียร์แบบซีเควนเชียล สู่การขับเคลื่อนแบบล้อหลัง
ระบบกันสะเทือนใช้พื้นฐานแบบปีกนก 2 ชั้นในแบบ SLA สำหรับด้านหน้า ซึ่งชิ้นส่วนผลิตจากอะลูมิเนียมด้วยวิธี Forged เพื่อลดน้ำหนัก ส่วนด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงก์ พร้อมกับระบบปรับระดับช่วงล่างอัตโนมัติ หรือ Adaptive Dynamic System และระบบบังคับเลี้ยวแบบปรับอัตราให้สัมพันธ์กับสภาพการใช้งาน
XJ ใหม่ถือเป็นรถยนต์ใหม่แกะกล่องรุ่นแรกที่ทางจากัวร์ส่งทำตลาดภายใต้เจ้าของใหม่อย่างทาทา มอเตอร์แห่งอินเดีย โดยในอังกฤษจะมีราคาขายอยู่ระหว่าง 52,500-88,000 ปอนด์ หรือ 2.88-4.84 ล้านบาท เริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าทั้งพวงมาลัยซ้ายและขวาในช่วงปลายปีนี้ ส่วนบ้านเราคงเข้ามาในช่วงที่ไม่หนีห่างกันมาก ส่วนจะเคาะราคาออกมาเท่าไรคงต้องรอจากทางผู้นำเข้าอย่างเอเอเอส