สำหรับคนที่เห็นต้นแบบคันสวยบนเวทีของงาน เซี่ยงไฮ้ มอเตอร์โชว์ 2009 เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมาแล้วเกิดชอบชนิดหัวปักหัวปำขึ้นมามีข่าวดีและข่าวร้ายมาฝาก
ข่าวดี คือ หลังจากที่เปิดตัวให้เห็นโฉมหน้ากันได้ไม่ทันจะครบหนึ่งเดือนเต็ม ทางเบอร์โทเนซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการผลิตรถยนต์ต้นแบบคันนี้ ประกาศว่าจะมีการขึ้นไลน์ผลิตสำหรับขายอย่างแน่นอน แต่ข่าวร้าย คือ ถ้าคุณมีเงินในบัญชีต่ำกว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 70 ล้านบาท ก็ให้ลืมไปได้เลยสำหรับการคิดจะอยู่ร่วมกัน เพราะนั่นคือค่าตัวของรถสปอร์ตรุ่นนี้เมื่อต้องวางขายบนโชว์รูม
ก่อนที่จะได้พบกับคันจริงที่เศรษฐีตัวจริงหรือคนที่มีเงินและใจถึงเท่านั้นถึงจะมีโอกาสได้ครอบครอง ลองมาทำความรู้จักกับ Mantide สปอร์ตต้นแบบหน้าตาล้ำยุคกันสักหน่อย
Mantide เป็นผลงานที่เกิดจากจินตนาการของ Jason Castriota เพิ่งเข้ามารับงานใหม่ในฐานะที่เป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบของนักเบอร์โทเนแห่งอิตาลี ซึ่งชื่อของนักออกแบบชาวอเมริกันลูกครึ่งอิตาเลียนผู้นี้ ไม่ธรรมดาสำหรับวงการออกแบบ เพราะผลงานก่อนหน้านี้ของเขาล้วนเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก เช่น เฟอร์รารี่ 599GTB, มาเซราติ แกรน ทัวริสโม และเบิร์ดเคจ เป็นต้นแบบที่ได้รับการยอมรับว่าสวยสุดรุ่นหนึ่งของโลก รวมถึงผลงานแบบลิมิเต็ด เอดิชันที่ลูกค้าสั่งมา เช่น เฟอร์รารี่ P4/5 และโรลล์ส-รอยซ์ ไฮเพอเรี่ยน ของพินินฟารินา
อย่างไรก็ตาม โปรเจ็กต์ Mantide ของ Castriota หรือรู้จักกันในอีกชื่อว่า Project M ไม่ได้เริ่มจากศูนย์หรือสร้างเองใหม่ทั้งหมด แต่เป็นการถอดเปลือกนอกออกแล้วแทนที่ด้วยเปลือกใหม่ที่เขาออกแบบเอง ซึ่งนั่นหมายความว่า เขาจัดการเลือกเอาเชฟโรเลต คอร์เว็ตต์ C6 รุ่น ZR1 ที่ถือว่าเป็นท็อปออฟเดอะไลน์ของสปอร์ตรุ่นนี้มาถอดตัวถังออก และแทนที่ด้วยงานออกแบบของเขา ส่วนรายละเอียดทางวิศวกรรมทั้งเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนยังเหมือนเดิม
แม้ว่า Mantide จะเป็นผลงานชิ้นแรกของเขาในสังกัดใหม่อย่างเบอร์โทเน่ แต่การออกแบบโดยรวมยังมีกลิ่นอายที่ถือว่าเป็นลายเซ็นของเขา เช่น แนวเส้นสายและโค้งของตัวถังด้านหลัง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ 599GTB แต่ถูกเสริมแต่งให้มีความสวยและล้ำสมัย พร้อมกับไฟท้ายแบบ LED ทรงสวย และด้านหน้ามีการออกแบบโดยได้รับอิทธิพลจากเครื่องบินขับไล่ ส่วนห้องโดยสารออกแบบใหม่หมดเช่นกัน กับแผงหน้าปัดที่ดูคล้ายกับเฟอร์รารี่ FXX และมีการตกแต่งโดยใช้วัสดุอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ และอัลแคนทาราในการเพิ่มความสวยและความสปอร์ต
ขณะที่ความเพรียวลมของตัวถังมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน หรือ Cd อยู่ที่ 0.29 ซึ่งดีขึ้นจากตัวถังของคอร์เว็ตต์ 25% และมีการปรับปรุงในเรื่องการสร้างแรงกด หรือ Downforce เพื่อการทรงตัวที่ดีเวลาแล่นบนความเร็วสูงประมาณ 30% ส่วนน้ำหนักตัวถูกลดจากเวอร์ชัน ZR1 ลง 100 กิโลกรัม
เครื่องยนต์ที่ซ่อนอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้าไม่ได้ถูกแตะต้อง เพราะกำลังที่ได้จาก ZR1 ถือว่าเพียงพอแล้ว และตัวเลขการแล่นทำเวลาต่อรอบที่มีระยะทางร่วม 20 กิโลเมตรของสนามฝั่งเหนือ Nordschleife ของนูร์บูร์กริง หรือ The Ring ประเทศเยอรมนีด้วยเวลา 7 นาที 26.4 วินาที คือ เครื่องการันตีถึงเรื่องนี้
ขุมพลังวี8 รหัส LS9 ซึ่งมีความจุ 6,200 ซีซีจับคู่กับซูเปอร์ชาร์จพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ และได้รับการพัฒนาให้มีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 638 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 82.4 กก.-ม.ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ทำให้ Mantide มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 3.9 วินาที และความเร็วสูงสุดอยู่ในระดับ 351 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
หลังเปิดตัวที่เซี่ยงไฮ้และนำจัดแสดงอีกครั้งในงานประกวดรถยนต์โบราณที่ทะเลสาปโคโม ประเทศอิตาลีพร้อมประกาศขึ้นไลน์ผลิตแบบจำนวนจำกัดเพียง 10 คัน Castriota เผยว่าตอนนี้มีออเดอร์เข้ามาจองแล้ว 4 คัน แม้ว่าราคาจะแพงกว่าคอร์เว็ตต์ ZR1 ถึง 20 เท่าตัวก็ตาม นั่นเท่ากับว่า ที่ว่างในตอนนี้เหลือเพียงแค่ 6 เท่านั้น
ใครมีเงิน 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คงต้องรีบกันหน่อยแล้ว