หลังจากค่ายม้าลำพอง “เฟอร์รารี่” ยุติสัมพันธ์กับ “เฟอร์มา มอเตอร์ สปอร์ต” เมื่อหมดสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายในไทย พร้อมกับข่าวการหายไปจากวงการของผู้บริหารเฟอร์มา แต่ที่สุดตระกูล “เมธีวัชรานนท์” ก็กลับมาฮึกสู้ ผลักดันแบรนด์ที่เหลือ “มาเซอร์ราติ” รุกตลาดซูเปอร์คาร์ต่ออีกครั้ง พร้อมกับตั้ง “เอ็มไพร์ มอเตอร์ สปอร์ต” มารับไม้แทน ภายใต้การนำของทายาทคนใหม่ “พรศริน เมธีวัชรานนท์” ซึ่ง ณ วันนี้เธอประกาศพร้อมรบแล้ว
“เฟอร์มา มาจากคำว่า เฟอร์รารี่ และมาเซอร์ราติ แต่เมื่อเราหมดสัญญากับทางเฟอร์รารี่ จึงคิดว่าต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับแผนการรุกตลาดตามเป้าหมาย ซึ่งชื่อเอ็มไพร์มีในกลุ่มธุรกิจของเราอยู่แล้ว ดังนั้นจึงได้ใช้ชื่อ เอ็มไพร์ มอเตอร์ สปอร์ต ในการทำตลาดมาเซราติแทนเฟอร์มา”
พรศรินอธิบายที่มาที่ไปในการเปิดตัวครั้งแรก หลังเข้ากุมบังเหียนในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัทเอ็มไพร์ฯ ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ “มาเซอร์ราติ” จากประเทศอิตาลี พร้อมกับเปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานว่า ที่ผ่านมาจะไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวของแบรนด์มาเซอร์ราตินัก เนื่องจากรถที่ขายล้วนแต่เป็นรุ่นเก่า แต่ต่อไปเอ็มไพร์จะรุกตลาดเต็มที่ โดยนำเข้ารถยนต์มาเซอร์ราติรุ่นใหม่มาจำหน่ายต่อเนื่อง
“ล่าสุดเราได้เปิดตัวรถใหม่ 2 รุ่นสู่ตลาด คือ มาเซอร์ราติ ควอตโตรปอร์เต รถสปอร์ตซีดาน และรถสปอร์ตมาเซอร์ราติ แกรนด์ทัวริสโม โดยตั้งเป้าการขายภายในปีนี้ไว้ที่ 15 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านที่ทำได้ 8-9 คัน แม้สภาวะเศรษฐกิจปีนี้จะลำบากกว่าก็ตาม แต่ความใหม่สดและการทำตลาดที่เข้มข้นขึ้น น่าจะทำให้เราบรรลุเป้าหมายได้”
โดยกลยุทธ์การทำตลาดในสภาวะวิกฤตเศรษกิจตกต่ำเช่นนี้ พรศรินบอกว่าจะเน้นทำตลาดที่ชัดเจน เพื่อสื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายระดับไฮเอ็น และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าให้มากขึ้น ผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งโรดโชว์ และร่วมกิจกรรมกับแบรนด์อื่นๆ และกลยุทธ์สำคัญอีกอย่าง คือการปรับปรุงช็อปที่บริเวณชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ให้เป็นศูนย์กลางบริการทั้งด้านข้อมูล และการบริการเสริม ซึ่งทั้งหมดจะมุ่งสานความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับลูกค้ามากที่สุด
สำหรับรถยนต์ทั้งสองรุ่น ได้แก่ มาเซอร์ราติ ควอตโตรปอร์เต ใหม่ แม้จะเป็นรถระดับท็อปคลาส มีคู่แข่งสำคัญอย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส600 หรือบีเอ็มดับเบิลยู 760 แต่รูปลักษณ์ยังคงความสปอร์ตไว้อย่างเหนียวแน่น ภายใต้การดีไซน์โฉมใหม่ พร้อมด้วยโซลูชั่นด้านเทคนิค เพื่อรองรับการขับขี่ที่แท้จริง จากสมรรถนะเครื่องยนต์ขนาด 4.7 ลิตร แบบ V8 ให้กำลัง 430 แรงม้า และสูงสุด 440 แรงม้า ซึ่งผสมผสานการทำงานกับเกียร์ระบบ ZF ได้อย่างลงตัว โดยลูกค้าสามารถเลือกได้ 3 รุ่นย่อย ราคาตั้แต่ 12.5-14.5 ล้านบาท
ส่วนอีกรุ่นมาเซอร์ราติ แกรนด์ทัวริสโม เกิดจากแรงบันดาลใจของ เจสัน คาสทรีโอตา หัวหน้าออกแบบภายในของสำนักพินินฟารินา ที่พัฒนามาจากรุ่น Birdcage และ 450S ทำให้การออกแบบรถสปอร์ต 2 ประตู 4 ที่นั่ง รุ่นล่าสุดยังคงความขลังของรถสปอร์ตจากอิตาลี ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน วี 8 ขนาด 4.2 ลิตร ให้กำลังแรงม้า 405 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด จาก ZF ที่ทำงานได้อย่างราบรื่น ทำให้ความเร็วจาก 0 – 100 กม./ชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 5.2 วินาที และทำความเร็วสูดสุดได้ถึง 285 กม./ชั่วโมง โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ราคา15.8 และ 17.3 ล้านบาท
“เฟอร์มา มาจากคำว่า เฟอร์รารี่ และมาเซอร์ราติ แต่เมื่อเราหมดสัญญากับทางเฟอร์รารี่ จึงคิดว่าต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับแผนการรุกตลาดตามเป้าหมาย ซึ่งชื่อเอ็มไพร์มีในกลุ่มธุรกิจของเราอยู่แล้ว ดังนั้นจึงได้ใช้ชื่อ เอ็มไพร์ มอเตอร์ สปอร์ต ในการทำตลาดมาเซราติแทนเฟอร์มา”
พรศรินอธิบายที่มาที่ไปในการเปิดตัวครั้งแรก หลังเข้ากุมบังเหียนในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัทเอ็มไพร์ฯ ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ “มาเซอร์ราติ” จากประเทศอิตาลี พร้อมกับเปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานว่า ที่ผ่านมาจะไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวของแบรนด์มาเซอร์ราตินัก เนื่องจากรถที่ขายล้วนแต่เป็นรุ่นเก่า แต่ต่อไปเอ็มไพร์จะรุกตลาดเต็มที่ โดยนำเข้ารถยนต์มาเซอร์ราติรุ่นใหม่มาจำหน่ายต่อเนื่อง
“ล่าสุดเราได้เปิดตัวรถใหม่ 2 รุ่นสู่ตลาด คือ มาเซอร์ราติ ควอตโตรปอร์เต รถสปอร์ตซีดาน และรถสปอร์ตมาเซอร์ราติ แกรนด์ทัวริสโม โดยตั้งเป้าการขายภายในปีนี้ไว้ที่ 15 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านที่ทำได้ 8-9 คัน แม้สภาวะเศรษฐกิจปีนี้จะลำบากกว่าก็ตาม แต่ความใหม่สดและการทำตลาดที่เข้มข้นขึ้น น่าจะทำให้เราบรรลุเป้าหมายได้”
โดยกลยุทธ์การทำตลาดในสภาวะวิกฤตเศรษกิจตกต่ำเช่นนี้ พรศรินบอกว่าจะเน้นทำตลาดที่ชัดเจน เพื่อสื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายระดับไฮเอ็น และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าให้มากขึ้น ผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งโรดโชว์ และร่วมกิจกรรมกับแบรนด์อื่นๆ และกลยุทธ์สำคัญอีกอย่าง คือการปรับปรุงช็อปที่บริเวณชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ให้เป็นศูนย์กลางบริการทั้งด้านข้อมูล และการบริการเสริม ซึ่งทั้งหมดจะมุ่งสานความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับลูกค้ามากที่สุด
สำหรับรถยนต์ทั้งสองรุ่น ได้แก่ มาเซอร์ราติ ควอตโตรปอร์เต ใหม่ แม้จะเป็นรถระดับท็อปคลาส มีคู่แข่งสำคัญอย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส600 หรือบีเอ็มดับเบิลยู 760 แต่รูปลักษณ์ยังคงความสปอร์ตไว้อย่างเหนียวแน่น ภายใต้การดีไซน์โฉมใหม่ พร้อมด้วยโซลูชั่นด้านเทคนิค เพื่อรองรับการขับขี่ที่แท้จริง จากสมรรถนะเครื่องยนต์ขนาด 4.7 ลิตร แบบ V8 ให้กำลัง 430 แรงม้า และสูงสุด 440 แรงม้า ซึ่งผสมผสานการทำงานกับเกียร์ระบบ ZF ได้อย่างลงตัว โดยลูกค้าสามารถเลือกได้ 3 รุ่นย่อย ราคาตั้แต่ 12.5-14.5 ล้านบาท
ส่วนอีกรุ่นมาเซอร์ราติ แกรนด์ทัวริสโม เกิดจากแรงบันดาลใจของ เจสัน คาสทรีโอตา หัวหน้าออกแบบภายในของสำนักพินินฟารินา ที่พัฒนามาจากรุ่น Birdcage และ 450S ทำให้การออกแบบรถสปอร์ต 2 ประตู 4 ที่นั่ง รุ่นล่าสุดยังคงความขลังของรถสปอร์ตจากอิตาลี ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน วี 8 ขนาด 4.2 ลิตร ให้กำลังแรงม้า 405 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด จาก ZF ที่ทำงานได้อย่างราบรื่น ทำให้ความเร็วจาก 0 – 100 กม./ชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 5.2 วินาที และทำความเร็วสูดสุดได้ถึง 285 กม./ชั่วโมง โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ราคา15.8 และ 17.3 ล้านบาท