xs
xsm
sm
md
lg

BMW 5 Series Gran Turismo ทางเลือกใหม่เซอร์ไพรส์ตลาดหรู

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เล่นเอางงไปตามๆ กัน เพราะไม่คิดว่าสุดท้ายแล้วบีเอ็มดับเบิลยูจะแตกไลน์ทางเลือกด้วยตัวถังใหม่ให้กับสายพันธุ์ซีรีส์ 5 โดยที่ตัวถังหลักอย่างซีดานและสเตชันแวกอนยังไม่เปิดตัวเลย โดยค่ายใบพัดสีฟ้าจัดการนำรถยนต์ต้นแบบที่เปิดตัวในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2009 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขึ้นสายการผลิตแล้ว และจะทำตลาดโดยใช้ชื่อซีรีส์ 5 แกรน ทัวริสโม หรือ ซีรีส์ 5 จีที โดยที่สไตล์ของตัวถังในรุ่นจำหน่ายจริงเป็นแบบแฮทช์แบ็ก 5 ประตูท้ายลาด ที่ไม่แตกต่างจากต้นแบบ


แรกเริ่มเดิมที มีการคาดหมายว่าต้นแบบรุ่นนี้เป็นแค่ร่างจำแลงสำหรับจัดแสดงเพื่อสื่อให้เห็นถึงแนวทางการออกแบบที่จะนำมาใช้กับซีรีส์ 5 ใหม่ (รหัสตัวถัง F10) ซึ่งจะเป็นเจนเนอเรชันที่ 5 นับตั้งแต่เริ่มทำตลาดด้วยรุ่น E12 เมื่อปี 1972 แต่ในที่สุด บีเอ็มดับเบิลยูกลับทำเซอร์ไพรส์ จับนำมาทั้งคันและผลิตขายแถมยังใช้ชื่อเดียวกับต้นแบบ และมาพร้อมกับสไตล์ตัวถังที่ออกแนวแฮทช์แบ็ก 5 ประตูท้ายลาดระดับหรู พร้อมกับอัพเกรดสเปกเพื่อรองรับกับความต้องการที่แตกต่างของลูกค้า ขณะที่ตัวถังซีดาน และสเตชันแวกอนของซีรีส์ 5 ใหม่คาดว่าคงมีสไตล์การออกแบบของรูปลักษณ์ภายนอกไม่ต่างจากนี้ และน่าจะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2010

สไตล์การออกแบบไม่แตกต่างจากเวอร์ชันต้นแบบซึ่งเป็นการประยุกต์เส้นสายและแนวทางการออกแบบมาจากสายพันธุ์รุ่นใหญ่กว่าอย่างซีรีส์ 7 รุ่นปัจจุบัน (F01/02) ซึ่งว่ากันว่าซีรีส์ 5 จีทีเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายที่คริส แบงเกิล นักออกแบบชื่อก้องโลกในแวดวงยานยนต์ ฝากฝีมือเอาไว้ก่อนที่เขาจะวางปากกาแล้วหันหลังให้กับการออกแบบรถยนต์

ซีรีส์ 5 จีทีถูกเปิดตัวออกมาเพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้าในตลาดหรูระดับกลาง ซึ่งในอดีตมีเพียงแค่ซีรีส์ 5 ซีดาน และสเตชันแวกอน รวมถึงเอสยูวีในรหัสเอ็กซ์5 เท่านั้นที่ทำตลาด โดยตัวถังถูกออกแบบให้ผสมผสานระหว่างความหรูกับความอเนกประสงค์ในการใช้งานด้วยตัวถังในสไตล์แฮทช์แบ็ก 5 ประตู ซึ่งมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่มีความจุ 440-590 ลิตร โดยความยาวตัวถังอยู่ที่ 4,998 มิลลิเมตร กว้าง (รวมกระจกมองข้าง) 2,132 มิลลิเมตร และสูง 1,559 มิลลิเมตร


นอกจากนั้น จุดเด่นอีกประการคือ การออกแบบฝากระโปรงท้ายให้สามารถแยกส่วนการเปิดได้ 2 แบบ คือ เปิดเฉพาะส่วนที่เป็นตัวถังเหมือนกับรถยนต์ซีดาน 4 ประตูก็สามารถทำได้ หรือจะว่าเปิดทั้งฝากระโปรงรวมถึงกระจกบังลมหลังเหมือนกับรถยนต์แฮทช์แบ็กก็ได้ เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสัมภาระ แถมด้วยซุนรูฟแบบ 2 ตอนเพื่อความปลอดโปร่ง และประตูทั้ง 4 บานเป็นแบบไร้กรอบให้สัมผัสเหมือนกับรถสปอร์ต ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่บีเอ็มดับเบิลยูผลิตรถยนต์ที่มีประตู 4 บานแบบไร้กรอบ โดยตามปกติแล้ว ประตูแบบนี้จะพบได้กับรถสปอร์ตคูเป้และเปิดประทุนของค่ายใบพัดสีฟ้าเท่านั้น

ขณะที่เบาะนั่งหลังมีทั้งแบบธรรมดา และรุ่นพิเศษซึ่งสร้างความแตกต่างด้วยการออกแบบให้เป็นแบบ Captain Seat เหมือนรถยนต์ลิมูซีน แยกเบาะฝั่งซ้ายและขวาโดยที่มีแผงคอนโซลกั้นกลาง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน ตัวเบาะนั่งหลังสามารถพับลงทั้งหมดได้เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยเป็น 1,700 ลิตร

ในช่วงแรกมีให้เลือก 3 แบบสำหรับการขับเคลื่อนแบ่งเป็นเบนซิน 2 รุ่น คือ 535i Gran Turismo แบบ 6 สูบเรียง ทวินแคม 3,000 ซีซี พร้อมระบบ Valvetronic และเทอร์โบ รีดกำลังออกมาได้ 306 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 40.7 กก.-ม. ที่ 1,200-5,000 รอบ/นาที และ 550i Gran Turismo แบบวี8 ทวินแคม 32 วาล์ว 4,400 ซีซี เทอร์โบ 407 แรงม้า ที่ 5,500-6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 61.1 กก.-ม. ที่ 1,750-4,500 รอบ/นาที


ปิดท้ายด้วยรุ่นเทอร์โบดีเซล 530d Gran Turismo แบบ 6 สูบเรียง 3,000 ซีซี 245 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 40.5 กก.-ม. ที่ 1,750-3,000 รอบ/นาที ทุกรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังพร้อมส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะที่ยกมาจาก 760Li พร้อมระบบช่วยประหยัดน้ำมัน BMW EfficiencyDynamics และระบบช่วงล่างปรับระดับด้วยไฟฟ้า DDC-Dynamic Drive Control แบบ 4 ระดับ (Normal, Comfort, Sport และ Sport+) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

สมรรถนะเร้าใจในทุกรุ่นเครื่องยนต์ ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงซึ่งใช้เวลา 6.3, 5.5 และ 6.9 วินาที ตามลำดับ ส่วนความเร็วปลายในรุ่นเบนซินถูกล็อกเอาไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมงด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมาย ส่วนรุ่นเทอร์โบดีเซลซึ่งใช้ระบบคอมมอนเรลเจนเนอเรชันที่ 3 และจ่ายน้ำมันตามรางด้วยแรงดันสูงสุด 1,800 บาร์ จัดจ้านไม่แพ้กัน กับความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตร/ชั่วโมง และทุกรุ่นมีค่ามาตรฐานไอเสียผ่าน Euro 5


ซีรีส์ 5 แกรน ทัวริสโมจะเปิดตัวครั้งแรกในงาน IAA ครั้งที่ 63 หรือแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 17-27 กันยายนนี้ที่ประเทศเยอรมนี โดยราคาขายคาดว่าจะอยู่ในระดับ 65,000-70,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 2.3-2.45 ล้านบาท และเริ่มทำตลาดยุโรปทันทีในเดือนตุลาคม ส่วนใครที่ชอบตัวถังแบบซีดาน 4 ประตูแท้ๆ ต้องอดใจรอสักนิด และคาดว่าบีเอ็มดับเบิลยูน่าจะเปิดตัวออกมาให้เห็นหน้าตาหลังจากซีรีส์ 5 แกรน ทัวริสโมไม่นาน



กำลังโหลดความคิดเห็น