ต่อจากการสร้างปรากฏการณ์ด้วยเครื่องยนต์โรตารี่ของมาสด้าในปี 1990 ตามด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลของออดี้ในปี 2006 ดูเหมือนว่าการแข่งขันทางเรียบมาราธอน 24 ชั่วโมงอย่างเลอมังส์จะกลายเป็นเป้าหมายสูงสุดของบางบริษัทในการพัฒนารถสปอร์ตตัวแรงออกมา
โดยล่าสุดทาง Green GT ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติสวิสส์ เผยโฉมซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาแสดงถึงวิสัยทัศน์ที่มีต่อโลกมอเตอร์สปอร์ต ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าในปี 2011 ผู้จัดการแข่งขันเลอมังส์อาจจะเปลี่ยนกฎและเปิดกว้างให้กับรถแข่งที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าร่วมการแข่งขันได้
ตัวรถแข่งได้รับการออกแบบโดยฝีมือของ Thomas Clavet นักออกแบบชาวฝรั่งเศส ซึ่งสำเร็จการศึกษาจาก ISD Valencienne Design School ได้สร้างสรรค์ผลงานรถสปอร์ตตัวแรงเพื่อใช้ในการแข่งขันเลอ มังส์ในอีก 2 ปีข้างหน้า และเขาเชื่อว่าในยุคที่แวดวงมอเตอร์สปอร์ตเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่าง F1 ในปีนี้ ผลกระทบน่าจะเกิดขึ้นเป็นวงกว้างและส่งผ่านมายังการแข่งขันรายการอื่นๆ ด้วย
การพัฒนาตัวแข่งที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าและใช้โครงแชสซีส์ที่มีน้ำหนักเบาจากการผลิตด้วยคาร์บอนไฟเบอร์บวกกับตัวถังที่ผลิตจากไฟเบอร์กลาสตามสเปกที่กฎการแข่งขัน GT ของ FIA กำหนดมา น่าจะทำให้ตัวรถมีสมรรถนะที่ดี และสามารถยืนระยะแข่งกับรถแข่งที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน
นอกจากนั้น Clavet อธิบายว่า เมื่อนำมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 100 กิโลวัตต์ซึ่งระบายความร้อนด้วยน้ำ 2 ตัวมาใช้กับรถแข่งรุ่นนี้ และบวกกับชุดเกียร์ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ บวกกับล้อที่มีน้ำหนักเบาเพราะผลิตจากแม็กนีเซียมด้วยฝีมือของผู้ผลิตล้อแม็กชั้นนำของยุโรปอย่าง O.Z. และหุ้มด้วยยางสลิกสำหรับแข่งขันแล้ว ตัวรถน่าจะมีกำลังขับเคลื่อนอยู่ในระดับ 350-450 แรงม้า แต่ทว่ากลับมีแรงบิดมหาศาลถึง 203.55 กก.-ม.
ส่วนชุดเก็บกระแสไฟฟ้าจะอยู่ที่แบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีติดตั้งอยู่ 2 ชุดมีขนาด 30 kWh และจะมีการนำแผงโซลาร์เซลล์แบบ Flexcell Photovoltaic solar panels มาติดตั้งบนตัวรถเพื่อทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บชดเชยในแบตเตอรี่ด้วยอีกทางหนึ่ง
ที่สำคัญตัวรถมีน้ำหนักเบามาก เพียง 860 กิโลกรัมเท่านั้น อัตราเร่งจาก 0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็เลยหายห่วง ใช้เวลาต่ำกว่า 4 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 275 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่แค่ผลงานต้นแบบที่เป็น Design Study เท่านั้น แต่ทาง Green GT ยังเผยออกมาอีกว่าจะมีการผลิตออกขายด้วยภายในปี 2010 โดยจะมีจำนวนจำกัดเพียง 22 คันเท่านั้นขณะที่ราคายังไม่มีการเปิดเผย
และ พวกเขาจะปรับปรุงตัวรถเพื่อสานฝันในการนำเข้าร่วมการแข่งเลอมังส์ 24 ชั่วโมงในปี 2011 ให้ได้ และจะส่งลงแข่งขัน 2 คันด้วยกัน คราวนี้จะได้รู้กันว่า ผู้มาใหม่อย่างตัวแข่งพลังไฟฟ้าจะสามารถทาบรัศมีความแรงและความอึดของเครื่องยนต์สันดาปภาย
