หน้าที่ของรถยนต์ต้นแบบ ถ้าไม่ใช่เรื่องการโชว์เทคโนโลยีสุดล้ำ ก็คงหนีไม่พ้นการเป็นร่างจำแลงสำหรับงานออกแบบสไตล์ใหม่ที่บริษัทรถยนต์นั้นๆ กำลังจะนำมาใช้กับรถยนต์ในสายการผลิตที่เตรียมเปิดตัวในอนาคต ซึ่งฮุนได นูวิส ต้นแบบทรงเอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดที่นำออกจัดแสดงในนิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ 2009 กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมาก็ไม่หนีจาก 2 เรื่องนี้สักเท่าไร
ผลผลิตรุ่นนี้มาจากฝีมือของทีมงานหัวก้าวหน้าของฮุนไดที่รวมตัวกันอยู่ที่สำนักออกแบบ CDC หรือ California Design Center ของฮุนได ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเออร์ไวน์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งพวกเขามีเป้าหมายในการพัฒนาเอสยูวีที่มีความสวยสปอร์ตและกว้างขวางเหมาะสำหรับการใช้งานในอนาคต และจะต้องผ่านมาตรฐานทางด้านความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่หน่วยงานในสหรัฐอเมริกากำหนดเอาไว้ในปี 2015 ให้ได้
‘นี่คืองานออกแบบที่เราพยายามสร้างสรรค์ให้เอสยูวียุคหน้าเป็น โดยเป้าหมายของการออกแบบ คือ การจับเอาความสมบุกสมบันของเอสยูวีมารวมเข้ากับความสปอร์ตของรถคูเป้ เพื่อนำเสนอทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้ารุ่นใหม่ของเราในอนาคต’ John Krsteski หัวหน้าฝ่ายออกแบบของศูนย์ CDC ของฮุนไดกล่าว
จุดเด่นในเรื่องการออกแบบของตัวรถคือ การสร้างความกลมกลืนตลอดทั้งคันเพื่อให้ตัวรถมีความโฉบเฉี่ยว อีกทั้งยังมีการนำประตูที่เปิดขึ้นในแบบปีกนก หรือ Gullwing ซึ่งให้ประโยชน์ตรงที่สามารถออกแบบประตูให้มีขนาดใหญ่ และสามารถเปิดกว้างเพื่อความสะดวกในการเข้าหรือออกจากห้องโดยสารไม่ว่าจะอยู่ในที่นั่งด้านหน้า หรือด้านหลัง
นอกจากนั้น ฮุนไดยังเปิดตัวเทคโนโลยีไฮบริดรุ่นใหม่ผ่านทางต้นแบบรุ่นนี้ ซึ่งระบบ Hyundai Blue Drive เป็นการจับคู่ทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซินรหัส Theta II แบบ 4 สูบที่มีความจุ 2,400 ซีซี กับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 30 กิโลวัตต์ และมีแรงบิดสูงสุด 20.9 กก.-ม. ผลิตกำลังออกมาได้รวมกัน 224 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติรุ่นใหม่แบบ 6 จังหวะที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่ขับเคลื่อนปั๊มน้ำมันเกียร์
ตัวรถสามารถขับเคลื่อนโดยอาศัยพลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่แบบลิเธียม โพลีเมอร์เพียงอย่างเดียว หรือว่าจากเครื่องยนต์เบนซินก็ได้ หรือว่าจะทำงานร่วมกันก็ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพของการขับขี่ในช่วงนั้น ส่วนฟังก์ชั่นการทำงานอื่นๆ ก็เหมือนกับรถยนต์ไฮบริดทั่วไป คือ สามารถนำพลังงานที่สูญเปล่าในระหว่างการเบรก หรือถอนคันเร่งมาปั่นกระแสไฟฟ้าเพื่อเก็บในแบตเตอรี่ รวมถึงการดับเครื่องยนต์เมื่อจอดติดอยู่กับที่ เพื่อลดการปลดปล่อยมลพิษ และเพิ่มความประหยัดน้ำมัน ซึ่งตัวเลขที่ทำได้สำหรับการขับในเมืองถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ คือ 13.8 กิโลเมตรต่อลิตร
แน่นอนว่าโอกาสที่จะได้เห็นสิ่งเหล่านี้กลายเป็นจริงมีสูงมาก แต่ก็คงไม่หมดทั้งคัน เพราะหลังจากเปิดตัวออกมาแล้วมีข่าวยืนยันว่า ฮุนไดจะนำเส้นสายและรายละเอียดของนูวิสมาพัฒนาเพื่อใช้ในการออกแบบรุ่นเปลี่ยนโฉม หรือโมเดลเชนจ์ของเอสยูวีทั้ง 2 รุ่นของบริษัท คือ ทูซอน และซานตา เฟ
ขณะที่ระบบไฮบริดใกล้เสร็จสิ้นการพัฒนาแล้ว และน่าจะนำมาใช้กับรถยนต์ในสายการผลิตรุ่นใหม่ๆ ของฮุนไดในอนาคต เพียงแต่ว่าแบตเตอรี่อย่างลิเธียม โพลีเมอร์แม้ว่าจะมีขนาดกะทัดรัดและให้ประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่าแบตเตอรี่แบบนิเกล-เมทัล ไฮดราย หรือลิเธียม-ไอออน แต่ข้อจำกัดคือเรื่องของราคาที่ยังแพง