นอกจากการขายในโอเชียเนียโดยใช้ชื่อ "โฮลเดน โวลต์" แล้ว ดูเหมือนว่ารถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีขุมพลังขับเคลื่อนแบบใหม่ที่เรียกว่า " E-REV หรือ Extended Range Electric Vehicle" อย่างเชฟโรเลต โวลต์จะกลายเป็นโปรเจ็กต์สำหรับขายทั่วโลก เพราะในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2009 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แบรนด์โอเปิลในเครือจีเอ็มจัดการเผยโฉมต้นแบบที่เรียกว่า "แอมเพอรา" ออกมาพร้อมประกาศขายจริงในปี 2011
โปรเจ็กต์นี้จะว่าไปแล้วไม่ต่างจากความเกี่ยวดองกันของผลผลิตไฮบริดอย่างโตโยต้า พริอุสใหม่และเล็กซัส HS250h เพราะทั้งแอมเพอราและโวลต์ต่างเป็นรถยนต์ที่แชร์พื้นฐานเดียวกัน โดยเฉพาะพื้นตัวถังที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อฝังชุดระบบ E-REV ที่จีเอ็มเรียกว่า Voltec
ตัวรถมากับตัวถังแบบ 5 ประตูแฮทช์แบ็กที่มีความยาว 4,404 มิลลิเมตร กว้าง 1,798 มิลลิเมตร สูง 1,430 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,685 มิลลิเมตร ส่วนรายละเอียดของรูปลักษณ์ภายนอกได้รับการออกแบบใหม่โดยทางโอเปิลเพื่อให้สอดคล้องกับรสนิยมและความต้องการของลูกค้าในยุโรป
เทคโนโลยีการขับเคลื่อนเป็นแบบ E-REV ซึ่งหน้าที่หลักในการหมุนล้อเพื่อเดินทางเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 150 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 37.7 กก.-ม.โดยรับกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไออนขนาด 16kWh ส่วนเครื่องยนต์สันดาปภายในขนาดเล็กจะทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในระบบเพื่อชดเชยจากที่ถูกใช้ไป
นอกจากนั้นฟังก์ชั่นในเรื่องของการขับโดยใช้กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวในช่วง 60 กิโลเมตรแรกของการเดินทางก็ยังมีมาให้เหมือนเดิม ซึ่งในกรณีที่ลูกค้ามีการใช้รถต่อทริปด้วยระยะทางไม่เกินจากนี้ เรียกว่าเครื่องยนต์ก็แทบไม่ถูกสตาร์ทขึ้นมาทำงานเลย เพราะเมื่อจอดถึงที่หมายและมีการเสียบชาร์จกระแสไฟฟ้าจนเต็ม เมื่อต้องออกเดินทางอีกครั้ง มอเตอร์ไฟฟ้าก็จะรับกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ที่ถูกชาร์จเข้ามาเพียงอย่างเดียวสำหรับใช้ในการขับเคลื่อน โดยเครื่องยนต์จะถูกสตาร์ทขึ้นมาทำงานก็ต่อเมื่อต้องขับเดินทางด้วยระยะทางที่มากกว่านี้ ซึ่งโดยรวมแล้วหากมีการชาร์จไฟจนเต็มและมีการเติมน้ำมันจนเต็มถัง เมื่อขับไปเรื่อยๆ จนหมดเกลี้ยงทั้งหมด ตัวรถจะทำระยะทางได้ประมาณ 500 กิโลเมตร
‘การขับด้วยพลังไฟฟ้าที่มาจากแบตเตอรี่ไม่ใช่เรื่องของการช่วยสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่มันยังคือความสนุกสนานและเร้าใจอีกด้วย’ แฟรงค์ เว็บเบอร์ วิศวกรของโอเปิลกล่าว ซึ่งนั่นคือ เรื่องจริง เพราะว่าแอมเพอรามากับสมรรถนะในช่วงต้นที่ไม่เป็นรองรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในนำเลย ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงที่ใช้เวลาต่ำกว่า 9 วินาที แต่ความเร็วปลายอาจจะน้อยหน่อย เพราะทำได้แค่ 161 กิโลเมตร/ชั่วโมงเท่านั้น
คงต้องดูกันต่อไปว่า รุ่นจำหน่ายจริงที่จะเปิดตัวในยุโรปอีก 2 ปีข้างหน้า แอมเพอราจะมีหน้าตาอย่างไร และแน่นอนว่า โปรเจ็กต์นี้จะมีพวงมาลัยขวาขายในอังกฤษด้วยชื่อวอกซ์ฮอลล์ด้วยเช่นกัน เหมือนกับรถยนต์ของโอเปิลที่ขายอยู่ในตลาด