เทียน่า เจเนอเรชันที่สอง เปิดตัวพร้อมกับความหวังของประธานใหม่ “โทรุ ฮาเซกาวา” ว่าจะให้เป็นรถธงเบิกทางไปสู่ศักราชใหม่ของความสำเร็จ ในยุคที่เขามานั่งตำแหน่งเอ็มดี นิสสัน ประเทศไทย กับเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจาก 4-5% เป็น 10% ภายใน 4 ปี....นิสสัน งานเข้า!
ที่ว่างานเข้าเพราะตัวเลขส่วนแบ่งการตลาดดังกล่าว มักเป็นเป้าหมายของบรรดาประธานค่ายรถยนต์ที่เข้ามารับตำแหน่งใหม่ (เว้นโตโยต้า อีซูซุ) ซึ่งผลสุดท้ายแทบทุกรายมีอันต้องกลับบ้านไปก่อนจะถึงฝั่งฝัน...นี่ไม่ได้จะว่า “ฮาเซกาวาซัง” ฝัน แต่มันคืองานหิน ที่นอกจากตัวเองต้องแสดงศักยภาพการเป็นผู้นำพร้อมการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว บรรดาทีมงานทั้งหลาย ไล่ตั้งแต่พวก SVP GM ไปจนถึงพนักงานระดับรองลงมาทั้งฝ่าย วางแผนโปรดักต์ การขาย และการตลาด การบริการหลังการขาย ฯ ต้องตามและเตรียมรับกับการเปลี่ยนแปลงให้ทันด้วย
ทำหลังบ้านให้แน่น พร้อมสู้ศึกกับคู่แข่งในสภาพตลาดซบเซา สร้างความประทับใจให้ลูกค้า รวมถึงการพูดภาษาเดียวกับดีลเลอร์ให้รู้เรื่อง เป็นโจทย์ที่ท้าท้ายความสามารถของ “โทรุ ฮาเซกาวา” และทีมงาน ซึ่งเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์คุณภาพ
อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งคุณภาพที่ได้รับการพิสูจน์จาก “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” แล้วนั่นคือ “เทียน่า ใหม่” หลังมีโอกาสได้ทดลองขับเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา...อะไรดี อะไรพัฒนา ความรู้สึกการขับขี่เป็นอย่างไร เชิญติดตาม
“ออลนิว”...อะไรใหม่
เทียน่า รหัส J32 เปิดตัวทำตลาดในญี่ปุ่นเมื่อกลางปีที่แล้ว รวมถึงหลายประเทศในเอเชียก็มีขายมาก่อนหน้าเราสักระยะ จนกระทั่ง 19 มีนาคมที่ผ่านมา สยามนิสสัน ออโตโมบิล (เตรียมเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ในวันที่ 21 เมษายนนี้) ได้ฤกษ์ลุยตลาดไทยอย่างเป็นทางการ
กับรูปลักษณ์ใหม่หมดจดรอบคัน ไฟหน้าโคมโต ภายในบรรจุหลอดซีนอนในรุ่น 250XVและแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ ในรุ่น 200XL,XEกระจังหน้าลายใหม่แต่ดูไม่ต่างจากเดิมมากนัก ขณะที่กันชนใส่ไฟตัดหมอกและขอบคิ้วตรงมุมดูโดดเด่น รวมถึงฝังไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างดูหรูหราตามสมัยนิยม ส่วนไฟท้ายทรงเรียว พร้อมหลอด LED ที่เรียงเป็นรูปตัวซีกลับข้างสวยงามยามค่ำคืน
ในเทียน่าเดิม จะมีแต่ล้อขอบ 16 นิ้วเท่านั้น แต่สำหรับโมเดลใหม่ จะใช้ขอบ 17 นิ้ว ในรุ่นเครื่องยนต์ วี6 2.5 ลิตร และคงขอบ 16 นิ้วไว้ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร พร้อมประกบยางขนาด 215/55R17 และ205/65R16 ตามลำดับ โดยทั้งสองรุ่นจะเป็นล้ออัลลอยด์ลาย 9 ก้านเหมือนกัน
ตัวรถพัฒนาขึ้นมาจากพื้นฐาน “ดี-แพลตฟอร์ม” (D-platform) ใหม่ เช่นเดียวกับเอสยูวีอย่าง “มูราโน่” โดยปรับปรุงรายละเอียดใหม่ อาทิ การออกแบบให้พื้นเป็นลักษณะลอนลูกฟูก ที่จะคงความแข็งแกร่ง พร้อมซับแรงกระแทกหลังเกิดการชนได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับระบบรองรับเป็นแบบอิสระแม็กเฟอร์สันมตรัทในด้านหน้า และหลังเป็นมัลติลิงค์ แต่วิศวกรนิสสันได้ปรับปรุงตำแหน่งโช้คอัพใหม่ โดยขยับเข้ามาใกล้ล้อมากขึ้น ซึ่งจะช่วยดูดซับแรงสะเทือนจากพื้นถนน พร้อมให้การทรงตัวดีขึ้น ขณะเดียวกันยังเพิ่มความมั่นใจในการยึดเกาะถนนในกรณีเลี้ยวหรือเข้าโค้ง ด้วยการปรับองศามุมแคสเตอร์ด้านหน้า เพื่อให้หน้ายางสัมผัสผิวถนนมากขึ้นอีก 20%
ด้านตัวถังถ้ามองในรูปหรือจากความคาดหวังคิดว่าจะยาวใหญ่ แต่เมื่อเห็นตัวจริง ขนาดรวมๆก็ไม่หนีไปจากคู่แข่งอย่าง คัมรี่ แอคคอร์ด มากนัก (แอคคอร์ดจะดูใหญ่กว่านิดๆ) กับมิติยาว 4,850 มม.(รุ่นเดิม 4,845 มม.) กว้าง 1,795 มม.(รุ่นเดิม 1,765 มม.) สูง 1,485 มม.(รุ่นเดิม 1,475 มม.) ส่วนระยะฐานล้อเท่าเดิม 2,775 มม. (คัมรี่ 2,775 มม. และแอคคอร์ด ยาวสุด 2,800 มม.)
ขุมพลังมากับสองทางเลือกคือเบนซินขนาด 2.0 ลิตรบล็อกใหม่ เปลี่ยนจากรหัส QR20DE เป็นรหัส MR20DE 136 แรงม้า(เดิม 145 แรงม้า) ที่วางอยู่ในคอมแพกต์คาร์ “บลูเบิร์ด ซิลฟี” รวมถึงเอ็มพีวี เซเรน่า และลาเฟสต้า ขณะที่รุ่น วี6 ยังเป็นเครื่องตระกูล VQ แต่นิสสันหันมาคบกับบล็อก 2.5 หรือรหัส VQ25DE พร้อมวาล์วแปรผัน CVTC โดยขยับม้าขึ้นเป็น 182 ตัว (เดิม 173 แรงม้า)
นอกจากนี้ เครื่องยนต์ทั้งสองรุ่นยังเปลี่ยนมาใช้การส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผัน (เดิมเป็นอัตโนมัติ 4 จังหวะแบบเฟือง) หรือที่นิสสันเรียกว่า XTRONIC CVT (ใช้มู่เล่ 2 ตัวส่งกำลังผ่านสายพาน) พร้อมคุยว่าเกียร์ชุดนี้ จะให้การขับเคลื่อนที่นุ่มเงียบ อัตราเร่งดีพร้อมประหยัดน้ำมัน
ออปชันสะดวก-ปลอดภัย...สมฐานะ
เทียน่า ใหม่แบ่งเป็น 6 รุ่นย่อย ราคา 1.179-1.649 ล้านบาท โดยเป็นรุ่น 250XV (เครื่อง วี6 2.5 ลิตร) 4 รุ่น และ 200XL,200XE(เครื่อง 4 สูบ 2.5 ลิตร) ซึ่งออปชันมากน้อยต่างกันไปตามราคาและความต้องการของลูกค้า
ใน 4 รุ่นย่อยของ 250XV แบ่งเป็น 1.ซันรูฟ เนวิเกเตอร์ 2.ซันรูฟ 3.เนวิเกเตอร์ และ 4.ไม่มีทั้งซันรูฟ เนวิเกเตอร์ ซึ่งใน 3 รุ่นแรกจะมาพร้อมออปชันหลักๆเหมือนกัน อาทิ ครูสคอนโทรล ระบบ Keyless (เข้า-ออก สตาร์ทเครื่องยนต์โดยไม่ง้อกุญแจ) จอแสดงข้อมูล MID (ความเร็วเฉลี่ย, อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันแบบเฉลี่ยและเรียลไทม์, ระยะทางที่สามารถวิ่งต่อไปได้จากน้ำมันที่เหลือ, อุณหภูมิภายนอก) เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบความจำ และม่านบังแดดหลังพับเก็บด้วยไฟฟ้า
ส่วนออปชันที่เป็นมาตรฐานทุกรุ่น ก็มีทั้ง ระบบแอร์อัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา ช่องแอร์ผู้โดยสารหลัง เครื่องเล่นวิทยุ ซีดี เอ็มพี3 พร้อมลำโพง 6 ตัว ที่พักแขนพร้อมช่องวางแก้วน้ำสำหรับผู้โดยสารหลัง
ด้านระบบความปลอดภัย อย่างถุงลมคู่หน้า เบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA มีเป็นมาตรฐานทุกรุ่นเช่นกัน ส่วนรุ่น 250XV จะเพิ่มถุงลมด้านข้าง ระบบควบคุมการทรงตัว และตัวท็อป 1.649 ล้านบาทจะมีม่านถุงลมเสริมมาให้ด้วย
ลองขับ...ปรับจุดด้อย คงสุขุม
นิสสันจัดทริปทดสอบสั้นๆ เริ่มต้นจากตึกนันทวัน แถวๆ สี่แยกราชประสงค์ มุ่งหมายสู่จังหวัดเพชรบุรี โดย “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” ได้พาหนะเป็นรุ่น 250XV พร้อมซันรูฟ ทั้งนี้ทางทีมงานยอมรับว่า หลังการเปิดตัวหมาดๆ ยังเตรียมรุ่นที่ติดตั้งระบบนำทางของ Garmin มาให้ไม่ทัน...ก็ไม่เป็นไรครับโอกาสหน้าค่อยว่ากัน
ความรู้สึกแรกเมื่อนั่งหลังพวงมาลัยต้องบอกว่า จุดเด่นของเทียน่ายังอยู่ที่การประกอบเนี้ยบเนียน และการใช้วัสดุคุณภาพ ภายในห้องโดยสารให้อารมณ์สุนทรีย์ มีคลาส เบาะนั่งสีเบจส่งให้ห้องโดยสารดูโอ่อ่ากว้างขวาง ขณะที่คอนโซลหน้า-กลาง แผงประตูและพวงมาลัยแต้มหรูด้วยลายไม้ ในส่วนของเบาะด้านคนขับนั่งสบาย ไม่นิ่มไม่แข็ง พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และครูสคอนโทรลบนพวงมาลัย
หลังสตาร์เครื่อง (เหยียบเบรก-กดปุ่ม)ออกตัวผ่านการจราจรหนาแน่น ก่อนขึ้นทางด่วนตรงบ่อนไก่ เราใช้ความเร็วไม่สูง รับรู้ถึงพวงมาลัยน้ำหนักไม่ขาดไม่เกิน ควบคุมได้สบายมือ บวกกับอัตราเร่งในความเร็วต่ำ ทำได้ต่อเนื่องทันใจ ส่งผลให้การขับไม่รู้สึกเทอะทะ หรืออุ้ยอ้าย แม้จะเป็นรถระดับ ดี-เซกเมนท์ก็ตาม
การวิ่งเรื่อยๆ ในสภาวะปกติรอบจะสวิงอยู่แถวๆ 2,000 เท่านั้น แต่ถ้าอยากเรียกกำลังทันทีทันใด ก็แค่จิกเท้าขวาลงไปนิด รอบดีดไป 4,000 เจ้าเทียน่า ใหม่ ก็พุ่งไปข้างหน้าแบบไม่ขัดเขิน ขณะที่ช่วงความเร็วกลางไปถึงความเร็วปลาย ศักยภาพของเครื่อง VQ ที่ผ่านกำลังลงสู่ล้อหน้าด้วยเกียร์ CVT ยังแสดงออกถึงความกระตือรือร้น ตอบสนองแรงกดเท้าขวาได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ถ้าเทียบการขับกับเครื่อง VQ23DE พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ในรุ่นเดิมแล้ว เทียน่า ใหม่ ขับสนุกกว่าแน่นอน แต่ถ้าถามว่ามันเข้าขั้นสปอร์ตเร้าใจไหม? โดยส่วนตัวคิดว่ายังไม่ขนาดนั้น ที่สำคัญเป็นความตั้งใจของนิสสันเองด้วย ที่จะวางบุคลิกให้เทียน่า ดูสง่างาม หรูหรา เน้นความสะดวกสบาย ดังจะเห็นได้จากการเลือกใช้เกียร์ CVT ที่จุดเด่นอยู่ที่ส่งกำลังได้ไหลลื่น พร้อมการประหยัดน้ำมันถึงแม้จะต้องนำมาประกบกับเครื่อง วี6
ดังนั้นถ้าจะให้คะแนนเรื่องความสปอร์ต ขับมัน อย่างไรเสียต้องยกให้ ฮอนด้า แอคคอร์ด เป็นเบอร์หนึ่ง ซึ่งตรงนี้แล้วแต่ความชอบ และจุดประสงค์ในการนำไปใช้ของแต่ละคนครับ
นั่นเป็นเรื่องของเครื่องยนต์และเกียร์ ที่นำมาประกบกันจนได้ยนตรกรรมสมบูรณ์แบบอีกหนึ่งคันในตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลาง ขณะเดียวกันจุดที่พัฒนาขึ้นและประทับใจไม่แพ้กันเห็นจะเป็นระบบช่วงล่าง ที่ในรุ่นนี้ปรับมาได้ลงตัวจริงๆ
อาการยวบย้อย โยนตัวในรุ่นเก่าไม่มีให้เห็น ตัวรถทรงตัวดี หนึบแน่น หรือการเลือกนั่งเป็นผู้โดยสารด้านหลัง รู้สึกว่ารถรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ดี ซึ่งนอกจากรายละเอียดของโช้ก สปริง และการวางตำแหน่งแล้ว น้ำหนักรถที่เพิ่มขึ้นมาอีกราวๆ 50 กิโลกรัม (ในรุ่น 250XV) ก็มีส่วนเช่นกัน
นอกจากการนั่งสบายด้วย เฮดรูม เลกรูม ด้านหลังเหลือๆแล้ว เทียน่า ใหม่ ยังเป็นรถขนาดมิด-ไซส์ มีทัศนวิสัยยอดเยี่ยม การออกแบบตัวถังทำให้เสาบี-ซี ไม่บนบังสายตา นั่งแล้วรู้สึกว่ารถโปร่งกว้างขวาง มองออกไปภายนอกชัดเจน
อย่างไรก็ตาม การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารถือว่าพอใช้ ไม่โดดเด่นกว่าคู่แข่ง ทั้งคัมรี่ แอคคอร์ด ทั้งเสียงบรรยากาศภายนอก และเสียงจากพื้นถนนยังแทรกเข้ามาให้ได้ยินบ้าง แม้จะขับที่ความเร็วประมาณ 80-100 กม./ชม. ขณะเดียวกัน เสียงที่เข้ามาในห้องโดยสารชัดสุดน่าจะเป็นเสียงยาง Energy MXV8 ของมิชลิน (ขนาด 215/55R17ในรุ่น250XV) เช่นกันกับ B390 ของบริดจสโตน (ขนาด 205/65R16 ในรุ่น 200XL,XE)
สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 200XL “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” มีโอกาสได้ลองสั้นๆซึ่งพละกำลังนั้นอาจฉุดดึงไม่เท่าเครื่อง วี6 แต่อย่างไรเสียก็ขับดีกว่า 2.0 ลิตรตัวเก่า อย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนระบบรองรับเมื่อเทียบกับ 250XV แล้วอาจจะนุ่มกว่านิดหน่อย แต่ก็ไม่ย้วยเหมือนตัวเดิมอีกเช่นกัน(แล้วจะเขียนฉบับเต็มของ 200XL รวมถึงข้อสงสัยของในเกียร์ XTRONIC CVT ในครั้งต่อไป)
ด้านอัตราการบริโภคน้ำมันในรุ่น 250XV ที่เราเหยียบกระหน่ำพอสมควร(ขาไป) หรือเฉลี่ย 120-140 กม./ชม. พร้อมการลองในอีกหลายรูปแบบ จึงทำให้คอมพิวเตอร์ประมวลผลได้ 7.5 กม./ลิตร แต่จากตัวเลขของเจ้าหน้าที่นิสสันบอกว่าถ้าขับเรื่อยๆ ราว 110 กม./ชม.จะเห็นตัวเลขระดับ 12 กม./ลิตรเลยทีเดียว...ขณะที่รุ่น 200XL ขากลับเข้ากรุงเทพฯ ลองใช้ความเร็ว 80-100 กม./ชม. ในช่วง 100 กิโลเมตรแรก จอแสดงผลแจ้งอัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ยไว้ 11.7 กม./ลิตร
รวบรัดตัดความ...ลืมภาพผู้ดีอุ้ยอ้ายของ เทียน่ารุ่นเก่าไปได้เลย กับการพัฒนาใหม่หมดในเจเนอเรชันที่ 2 ที่ให้ความสนุกในการขับมากขึ้น ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ และระบบส่งกำลังขั้นเทพ (แต่เรื่องทนทานแค่ไหนหรือการซ่อมบำรุงเป็นอย่างไรต้องรอพิสูจน์) ขณะที่พื้นฐานและช่วงล่างสมดุลกว่าเดิม ทั้งการทรงตัวและการซับแรงสะเทือนจากพื้นถนน
ใครที่ตั้งความหวัง และจดจ่อกับการรอคอย...เราว่า “เทียน่า ใหม่” คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไป ส่วนใครที่ไม่หวังไม่รอ แต่อยากได้รถยนต์นั่งขนาดกลางที่ดูภูมิฐาน ขับสบาย หรือเป็นรถประจำตำแหน่งผู้บริหาร โดยไม่ต้องง้อพวกยุโรปราคาแพง ซึ่งถ้าเทียบกับคลาสเดียวกันอย่าง คัมรี่ แอคคอร์ด แล้วภาพลักษณ์ เทียน่า ไม่เป็นรองใครแน่นอน