ข่าวต่างประเทศ - พอร์ช และฟอร์ด ฉลองความสำเร็จในการผลิตรถยนต์ของตัวเอง โดยรายแรกทำสถิติการผลิตเอสยูวีพลังแรงอย่างรุ่นคาเยนน์ครบ 250,000 คันนับจากเปิดตัวทำตลาดปี 2002 ขณะที่ฟอร์ด แม้ว่าจะประสบปัญหาวิกฤตทางด้านการเงิน แต่ก็ยังมีข่าวดีให้ชื่นใจ เมื่อทำตัวเลขการผลิตรถยนต์ไฮบริดครบ 100,000 คัน
การฉลองของ พอร์ช มีขึ้นที่โรงงานเมืองไลป์ซิก ประเทศเยอรมนีซึ่งเป็นไลน์ผลิตคาเยนน์ โดยรถยนต์คันประวัติศาสตร์ 250,000 เป็นรุ่นวี6 เทอร์โบดีเซล ซึ่งจะมีการส่งมอบให้กับลูกค้าผู้โชคดีในประเทศออสเตรีย โดยคาเยนน์ใช้เวลานานพอสมควรในการทำยอดขายทั่วโลกครบ 150,000 คันแรก เพราะเพิ่งฉลองกันไปเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่อีก 100,000 คันต่อมาซึ่งทำให้มียอดการผลิตสะสมรวม 250,000 คันนั้นกลับใช้เวลาเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้นเอง
ส่วนทางด้าน ฟอร์ด ซึ่งปัจจุบันถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์อีกรายที่มีการผลิตรถยนต์ลูกผสมหรือไฮบริดวางขายในตลาด ก็เพิ่งฉลองความสำเร็จการผลิตรถยนต์ประเภทนี้ เมื่อทำยอดการผลิตครบ 100,000 คันนับจากเริ่มทำตลาดด้วยรุ่นเอสเคป ไฮบริดในปี 2004
การฉลองของฟอร์ดมีขึ้นที่โรงงานในเมืองเคลย์โคโม มลรัฐมิสซูรี่ ซึ่งรถยนต์ไฮบริดคันที่ 100,000 เป็นรุ่นเอสเคป ไฮบริด หรือมีขายอีกชื่อว่าเมอร์คิวรี่ มาริเนอร์
"ช่วงเวลาของการเฉลิมฉลองครั้งนี้ ความสนใจของคนอเมริกันต่อรถยนต์ไฮบริดถือว่ามีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนั่นถือเป็นพันธสัญญาที่ทำให้ฟอร์ดทุ่มเทกับการพัฒนาเทคโนโลยีไฮบริดให้มีความทันสมัยมากขึ้น สามารถตอบสนองทั้งเรื่องของความประหยัดน้ำมัน สมรรถนะที่ดีขึ้น และความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" บิลล์ ฟอร์ด ประธานบริหารของฟอร์ด มอเตอร์กล่าว
ยังไม่มีผู้ผลิตรถยนต์สหรัฐอเมริการายใดที่สามารถทำยอดขายได้ถึงระดับนี้และมีประสบการณ์ในการพัฒนาเทคโนโลยีไฮบริดสำหรับขายจริงในตลาดเทียบเท่ากับที่ฟอร์ดมี และนี่คือการแสดงให้เห็นถึงคุณภาพและความประหยัดน้ำมันที่ผลิตภัณฑ์ของเรามีอยู่ในตัว
โรงงานแห่งนี้รับหน้าที่ในการผลิตเอสยูวี ไฮบริดของฟอร์ดมาตั้งแต่ปี 2004 และมีคนงานรวมทั้งสิ้น 4,000 คน อีกทั้งยังเป็นไลน์ผลิตที่มีความทันสมัยและยืดหยุ่นเพราะว่าสามารถผลิตเวอร์ชันไฮบริดและรุ่นปกติของเอสเคป และมาริเนอร์ได้ในบนไลน์เดียวกัน โดยนอกจากการเป็นศูนย์กลางผลิตเอสยูวีไฮบริดของฟอร์ดแล้ว โรงงานแห่งนี้ยังผลิตปิกอัพรุ่นเอฟ-150 ของฟอร์ด และเอสยูวีรุ่นทริบิวต์ของมาสด้าอีกด้วย
นอกจากเอสเคปและมาริเนอร์ ไฮบริดแล้ว ฟอร์ดยังเปิดเผยอีกว่าปลายปีนี้จะมีอะไรใหม่ๆ ออกมาทำตลาดรถยนต์ประเภทนี้ โดยจะเปิดตัวโฉมใหม่ของฟอร์ด ฟิวชันไฮบริดออกสู่ตลาด พร้อมๆ กับรถยนต์ที่ใช้พื้นฐานเดียวกันอย่างเมอร์คิวรี่ มิลาน ไฮบริด
การฉลองของ พอร์ช มีขึ้นที่โรงงานเมืองไลป์ซิก ประเทศเยอรมนีซึ่งเป็นไลน์ผลิตคาเยนน์ โดยรถยนต์คันประวัติศาสตร์ 250,000 เป็นรุ่นวี6 เทอร์โบดีเซล ซึ่งจะมีการส่งมอบให้กับลูกค้าผู้โชคดีในประเทศออสเตรีย โดยคาเยนน์ใช้เวลานานพอสมควรในการทำยอดขายทั่วโลกครบ 150,000 คันแรก เพราะเพิ่งฉลองกันไปเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่อีก 100,000 คันต่อมาซึ่งทำให้มียอดการผลิตสะสมรวม 250,000 คันนั้นกลับใช้เวลาเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้นเอง
ส่วนทางด้าน ฟอร์ด ซึ่งปัจจุบันถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์อีกรายที่มีการผลิตรถยนต์ลูกผสมหรือไฮบริดวางขายในตลาด ก็เพิ่งฉลองความสำเร็จการผลิตรถยนต์ประเภทนี้ เมื่อทำยอดการผลิตครบ 100,000 คันนับจากเริ่มทำตลาดด้วยรุ่นเอสเคป ไฮบริดในปี 2004
การฉลองของฟอร์ดมีขึ้นที่โรงงานในเมืองเคลย์โคโม มลรัฐมิสซูรี่ ซึ่งรถยนต์ไฮบริดคันที่ 100,000 เป็นรุ่นเอสเคป ไฮบริด หรือมีขายอีกชื่อว่าเมอร์คิวรี่ มาริเนอร์
"ช่วงเวลาของการเฉลิมฉลองครั้งนี้ ความสนใจของคนอเมริกันต่อรถยนต์ไฮบริดถือว่ามีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนั่นถือเป็นพันธสัญญาที่ทำให้ฟอร์ดทุ่มเทกับการพัฒนาเทคโนโลยีไฮบริดให้มีความทันสมัยมากขึ้น สามารถตอบสนองทั้งเรื่องของความประหยัดน้ำมัน สมรรถนะที่ดีขึ้น และความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" บิลล์ ฟอร์ด ประธานบริหารของฟอร์ด มอเตอร์กล่าว
ยังไม่มีผู้ผลิตรถยนต์สหรัฐอเมริการายใดที่สามารถทำยอดขายได้ถึงระดับนี้และมีประสบการณ์ในการพัฒนาเทคโนโลยีไฮบริดสำหรับขายจริงในตลาดเทียบเท่ากับที่ฟอร์ดมี และนี่คือการแสดงให้เห็นถึงคุณภาพและความประหยัดน้ำมันที่ผลิตภัณฑ์ของเรามีอยู่ในตัว
โรงงานแห่งนี้รับหน้าที่ในการผลิตเอสยูวี ไฮบริดของฟอร์ดมาตั้งแต่ปี 2004 และมีคนงานรวมทั้งสิ้น 4,000 คน อีกทั้งยังเป็นไลน์ผลิตที่มีความทันสมัยและยืดหยุ่นเพราะว่าสามารถผลิตเวอร์ชันไฮบริดและรุ่นปกติของเอสเคป และมาริเนอร์ได้ในบนไลน์เดียวกัน โดยนอกจากการเป็นศูนย์กลางผลิตเอสยูวีไฮบริดของฟอร์ดแล้ว โรงงานแห่งนี้ยังผลิตปิกอัพรุ่นเอฟ-150 ของฟอร์ด และเอสยูวีรุ่นทริบิวต์ของมาสด้าอีกด้วย
นอกจากเอสเคปและมาริเนอร์ ไฮบริดแล้ว ฟอร์ดยังเปิดเผยอีกว่าปลายปีนี้จะมีอะไรใหม่ๆ ออกมาทำตลาดรถยนต์ประเภทนี้ โดยจะเปิดตัวโฉมใหม่ของฟอร์ด ฟิวชันไฮบริดออกสู่ตลาด พร้อมๆ กับรถยนต์ที่ใช้พื้นฐานเดียวกันอย่างเมอร์คิวรี่ มิลาน ไฮบริด