นอกจากจะเป็นปีที่มีการจัดงานโชว์ระดับชั้นนำของโลกพร้อมกันถึง 2 รายการอย่างแฟรงค์เฟิร์ต และโตเกียว มอเตอร์โชว์ ที่เยอรมนีและญี่ปุ่นแล้ว 2009 ยังถือเป็นปีที่มีโฉมใหม่ของรถยนต์รุ่นเด่นรอคิวเปิดตัวออกสู่ตลาดโลกอีกเพียบ และแน่นอนว่ามีหลายรุ่นที่จะถูกส่งเข้ามาเจาะในตลาดเมืองไทยด้วยเช่นกัน
ตลาดหรูคึกคัก อี-คลาสนำทัพ
ไฮไลต์เด่นสำหรับตลาดรถยนต์หรูคือการเตรียมเปิดตัวของอี-คลาสใหม่ในรหัส W212 ที่มีคิวอวดโฉมและทำตลาดในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้เพิ่งฉลองความสำเร็จไปหมาดๆ เมื่ออี-คลาสที่กำลังจะตกรุ่น คือ รหัส W211 เพิ่งทำยอดขายสะสมทั่วโลกนับจากเริ่มทำตลาดในปี 2002 ครบ 1.5 ล้านคัน ซึ่งคิวแรกจะเป็นซีดาน จากนั้นจะตามติดทันทีด้วยแวกอน โดยตัวถังแวกอนแม้จะเปิดตัวในปี 2009 แต่กว่าจะเริ่มขายและส่งมอบได้ก็ต้องรอจนถึงปี 2010
อีกรุ่นของค่ายดาว 3 แฉกที่เตรียมส่งมาเขย่าตลาดคือ เจนเนอเรชันที่ 3 ของซีแอลเค หรือคูเป้ที่อิงหน้าตาของอี-คลาส และใช้พื้นฐานของรถยนต์ขนาดคอมแพ็กต์รุ่นซี-คลาส เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในการทำตลาดให้เหนือคู่แข่งอย่างบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 คูเป้ และออดี้ เอ5 โดยเชื่อว่าน่าจะเปิดตัวและทำตลาดไม่เกินกลางปีนี้ ส่วนเอส-คลาสรุ่นปรับโฉม ว่ากันว่าน่าจะมาทันปี 2009 แต่บางกระแสก็ระบุว่าอาจจะเลยไปต้นปี 2010 งานนี้ต้องติดตามกันต่อไป
ทางด้านบีเอ็มดับเบิลยู นอกจากแซด4 รุ่นใหม่ที่กลายร่างจากการเป็นโรดสเตอร์พันธุ์แท้มาใช้ชุดหลังคาแข็งพับได้แล้ว โปรเจ็กต์ใหม่ๆ สำหรับปี 2009 ดูจะมุ่งเน้นไปที่ตลาดเอสยูวีเป็นหลัก โดยเฉพาะการเสริมทัพด้วยรุ่นเอ็กซ์1 เพื่อเปิดตลาดกลุ่มใหม่ โดยรายละเอียดของตัวรถยกชุดมาจากเอสยูวีต้นแบบรุ่นคอนเซ็ปต์ เอ็กซ์1 ที่เปิดตัวในปารีส มอเตอร์โชว์ 2008
ขณะที่พี่ใหญ่อย่างเอ็กซ์5 และเอ็กซ์6 จะได้มีโอกาสสวมรหัส M เหมือนเพื่อนๆ ร่วมสายพันธุ์บ้าง โดยหลังจากที่บีเอ็มดับเบิลยูยืนยันว่ารถยนต์ตระกูล M รุ่นใหม่ๆ จะหันมาใช้เครื่องยนต์แบบเทอร์โบแทนที่แบบหายใจเอง หรือ NA แล้ว เอ็กซ์5 และเอ็กซ์6 คือ ผลผลิตแรกจากแนวคิดนี้ โดยในรุ่น M จะมากับเครื่องยนต์วี8 4,400 ซีซี เทอร์โบคู่ที่อัพเกรดแรงม้าขึ้นมาเป็น 550 ตัว และว่ากันว่าเครื่องยนต์บล็อกนี้จะถูกต่อยอดเพื่อนำมาใช้กับ M5 รุ่นใหม่แทนที่ขุมพลังวี10 5,000 ซีซี 500 แรงม้ารุ่นเดิมอีกด้วย
สำหรับออดี้ นอกจากเวอร์ชันเปิดประทุนของรถสปอร์ตขนาดกลางสายพันธุ์ 5 ที่มาทั้งรุ่นธรรมดาอย่าง A และตัวแรงในรหัส S แล้ว งานนี้มีข่าวว่าค่าย 4 ห่วงยังวุ่นอยู่กับการเสริมทางเลือกให้กับ A5 ด้วยตัวถังใหม่ในชื่อสปอร์ตแบ็ค ด้วยตัวถังแบบ 5 ประตูท้ายลาด และจะมีขายทั้งรุ่นธรรมดารวมถึงตัวแรงในรหัส S และ RS โดยที่รุ่นเอ4 เองก็เตรียมเปิดตัวทางเลือกใหม่ในแบบแวกอนยกสูงหรือที่เรียกกันว่าออลโรดออกมาขายในตลาดด้วยเช่นกัน
ส่วนแบรนด์หรูญี่ปุ่นอย่างเล็กซัสก็มีหลากหลายทางเลือกในการทำตลาด เริ่มจากการเก็บของเก่ากินอย่างการส่งโฉมใหม่ของ RX และเวอร์ชันเปิดประทุนของ IS ในชื่อ IS250C ลงทำตลาดอย่างเป็นทางการหลังจากที่เผยโฉมยั่วน้ำลายมาแล้วในปารีส มอเตอร์โชว์ 2008 และตามด้วยการแตกทัพสายพันธุ์ใหม่ในรหัส HS
สายพันธุ์นี้เป็นรถยนต์ครอบครัวที่ทำตลาดคั่นกลางระหว่าง IS และ GS ซึ่งมีน่าจะเข้ามาแทนที่รุ่น ES ซึ่งแชร์พื้นฐานเดียวกับโตโยต้า คัมรี่ โดยจะมีทั้งเครื่องยนต์ธรรมดา และการขับเคลื่อนแบบไฮบริดที่ยกชุดมาจากโตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด มีขายทั้งตัวถังซีดานและแวกอน โดยการเปิดตัวคันจริงจะมีขึ้นในดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ กลางเดือนมกราคมนี้
ความแรงสำหรับปี 2009
ตามโปรแกรมการพัฒนาแล้ว ในปีนี้ แฟนๆ ความแรงทั้งหลายจะได้มีโอกาสสัมผัสกับความเร้าใจของสปอร์ตระดับซูเปอร์คาร์หลายรุ่น โดยเฉพาะแฟนๆ ของเฟอร์รารี่จะได้พบกับผลผลิตในโปรเจ็กต์ 142 ซึ่งยังไม่มีชื่อรุ่นอย่างเป็นทางการ แต่เป็นที่รู้จักกันดีว่าจะเป็นตัวแทนของ F430 โดยจะใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบแบบไดเร็กต์อินเจ็กชันวี8 บล็อกใหม่ล่าสุดเป็นขุมพลัง
จากนั้นตามด้วยผลผลิตในรหัส FX70 ซึ่งจะเป็นการเข้ามาแทนที่สุดยอดซูเปอร์คาร์อย่างเอ็นโซ่ เฟอร์รารี่ โดยตัวรถจะได้รับการออกแบบจากสำนักพินิฟารินา ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่มีการเปิดเผยออกมาในตอนนี้ โดยกระแสข่าวก่อนหน้านี้ระบุว่าเฟอร์รารี่จะเปิดตัวในปี 2010 แต่ดูเหมือนว่ากำหนดการจะถูกร่นให้เร็วขึ้นแล้วในตอนนี้
ส่วนความเคลื่อนไหวของพอร์ช นอกจากการทำตลาดของพานาเมอรา ซีดานมาดสปอร์ตรุ่นแรกของบริษัทแล้ว อีกโปรเจ็กต์ที่เตรียมเอาไว้คือ การอัพเกรดความสวยของเวอร์ชัน 911 เทอร์โบ ซึ่งเป็นไปตามเพื่อนร่วมสายพันธุ์ 911 ที่ทยอยปรับโฉมกันมาแล้วตั้งแต่ปี 2008 โดยไฮไลต์ของตัวรถนอกจากหน้าตาที่สดใหม่ขึ้นแล้ว ยังอยู่ที่การเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่มาเป็นแบบเบนซินไดเร็กต์อินเจ็กชันเทอร์โบ
สำหรับ GT-R ของนิสสัน หลังจากที่ในยุโรปและญี่ปุ่นมากับเวอร์ชันใหม่ที่เพิ่มเรี่ยวแรงอีก 5 แรงม้า คราวนี้จะถึงคิวของ V Spec ตัวแรงที่นิสสันตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะพัฒนาให้มีสมรรถนะที่เร้าใจสุดๆ ชนิดที่วิ่งในสนามนอร์ธคอร์สของนูร์บูร์กริงด้วยเวลาต่อรอบต่ำกว่า 7.25 นาที หรือเร็วกว่าที่รุ่นธรรมดาทำได้ 18 วินาที
ซึ่งนั่นหมายความว่านอกจากตัวรถจะต้องเบากว่ารุ่นมาตรฐานด้วยการใช้คาร์บอนไฟเบอร์ในการผลิตชิ้นส่วนตัวถังบางจุดตามแนวคิดของ V Spec แล้ว เครื่องยนต์วี6 เทอร์โบคู่จะต้องมีกำลังขยับจาก 480 มาเป็นมากกว่า 550 แรงม้าในรุ่นนี้
ทางออดี้กับความเคลื่อนไหวของรุ่น R8 นอกจากการเปิดตัวเวอร์ชันใหม่ที่วางเครื่องยนต์วี10 5,200 ซีซี 525 แรงม้าที่จะเปิดตัวในดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์แล้ว ก็ยังมีรุ่นเปิดประทุนหรือโรดสเตอร์ของ R8 รอเอาไว้ด้วยในช่วงปลายปีนี้ โดยรายละเอียดยังไม่เปิดเผยออกมาในตอนนี้
ส่วนโปรเจ็กต์เพิ่มมัดกล้ามให้กับสปอร์ตซีดานรุ่น XF ที่จะมีคำว่า R พ่วงท้ายมาด้วยของจากัวร์นั้น มีขายแน่ในปีนี้หลังจากที่เขย่าอารมณ์กับการนำออกแล่นเป็นครั้งแรกในงาน Goodwood FOS กลางปี 2008 ที่ประเทศอังกฤษ และว่ากันว่าเครื่องยนต์วี8 5,000 ซีซี 500 แรงม้าเป็นบล็อกใหม่ที่พัฒนาร่วมกับทางพันธมิตรอย่างแลนด์โรเวอร์ภายใต้การดูแลจากเจ้าของใหม่อย่างทาทา มอเตอร์
สำหรับคนที่ชอบสปอร์ตอเมริกัน นอกจากการทำตลาดของคามาโรแล้ว ทางด้านฟอร์ด มัสแตงก็จะมีเวอร์ชันพิเศษของแคร์โรล เชลบี้ออกมาทำตลาดควบคู่กับรุ่นปรับโฉมมาตรฐานที่เปิดตัวในแอลเอ มอเตอร์โชว์ เดือนพฤศจิกายน 2008 โดยเป็นรุ่น GT500 ที่มาพร้อมกันทั้งตัวถังคูเป้และเปิดประทุนกับความแรงแบบเอาเรื่อง เพราะว่าเครื่องยนต์วี8 5,400 ซีซีฝังซูเปอร์ชาร์จมาพร้อมกับกำลัง 540 แรงม้า
ขณะที่ทางด้านแคดิลแล็กจะส่งเวอร์ชันคูเป้ของ CTS ลงทำตลาด โดยสปอร์ตรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาจากต้นแบบที่เปิดตัวเมื่อต้นปี 2009 และจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อ CTC พร้อมทางเลือกของเครื่องยนต์ทั้งแบบธรรมดา และตัวแรงในรหัส CTC-V แบบวี8 550 แรงม้า
หลากหลายทางเลือกของการเดินทาง
สำหรับรถยนต์ในกลุ่มต่างๆ มีรุ่นใหม่ๆ ถูกเตรียมเอาไว้สำหรับปีนี้ โดยในกลุ่ม A-Segment หรือซูเปอร์มินิซึ่งเป็นรถยนต์คลาสเล็กของยุโรปนั้น ก็มีทั้งเชฟโรเลต บีทซึ่งเป็นผลผลิตใหม่ล่าสุดที่สานต่อจากต้นแบบลงทำตลาดในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับการเปิดตัวรุ่นใหม่ของมาทิซ
ตามด้วยโมเดลเชนจ์ของมิตซูบิชิ i โดยจะมีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1,000 ซีซี และรุ่นขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าเป็นอีกทางเลือก ส่วนทางพินินฟารินาก็จะสานต่อให้รถยนต์ต้นแบบรุ่น BO กลายเป็นความจริงและถูกส่งเขย่าตลาดในปลายปี 2009 ด้วยการขับเคลื่อนผ่านพลังไฟฟ้าจากความร่วมมือของ Ballore แห่งฝรั่งเศส
สิ่งที่น่าสนใจของกลุ่มนี้อยู่ที่การเตรียมเปิดตัว World Car คันใหม่ของโลกจากค่ายเฟียตภายใต้ชื่อ Uno ซึ่งจะเป็นรถยนต์ป้ายแดงที่มีราคาถูกและมีดีไซน์ที่โดนใจ ซึ่งว่ากันว่าจะใช้งานออกแบบของต้นแบบที่เปิดตัวในปี 1999 ด้วยชื่ออีโคเบสิก และแชร์พื้นฐานร่วมกับรุ่น 500 พร้อมกับวางเครื่องยนต์ 900 ซีซีเทอร์โบเป็นขุมพลัง ขณะที่โฟล์คสวาเกนจะส่งรุ่นโปโลใหม่ออกทำตลาดในช่วงปลายปี โดยที่ฝาแฝดของรถยนต์รุ่นนี้ที่เปลี่ยนมาใช้ชื่อออดี้ เอ1 ในการทำตลาดจะตามมาในช่วงต้นปี 2010
ในกลุ่มของรถยนต์ขนาดคอมแพ็กต์ ตัวเลือกใหม่ๆ ที่น่าสนใจ นอกจากการเริ่มทำตลาดของมาสด้า 3 ทั้งตัวถังแฮทช์แบ็กและซีดานแล้วยังอยู่ที่การเจาะตลาดความแรงในรหัส MPS ซึ่งยังยึดตัวถังแฮทช์แบ็กในการทำตลาดพร้อมความเร้าใจของเครื่องยนต์เทอร์โบ 260 แรงม้า ส่วนตัวถังที่ 3 ของมาสด้า 3 ใหม่ตามที่เคยมีข่าวก่อนหน้านี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ออกมาในตอนนี้
ขณะที่เชฟโรเลต ครูซซึ่งในเมืองไทยโดนโรคเลื่อนเล่นงานไปแล้ว แต่สำหรับสหรัฐอเมริกาและยุโรป รถยนต์รุ่นนี้จะยังทำตลาดตามกำหนดการเดิม โดยรุ่นซีดานจะเริ่มขายมีนาคมนี้ ส่วนแฮทช์แบ็ก 5 ประตูจะตามมาในปลายปีนี้ โดยอีกรุ่นที่น่าสนใจคือการกลับมาทำตลาดรถยนต์เล็กของอัลฟาด้วยการเปิดตัวรุ่น 149 ตัวแทนของ 147 พร้อมรูปลักษณ์และรายละเอียดการออกแบบที่ว่ากันว่าลอกแบบมาจาก Mi.To แต่ได้รับการพัฒนาบนพื้นตัวถังรุ่นใหม่ และจะเปิดตัวในแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์
ขยับไปที่กลุ่มรถยนต์ครอบครัวหรือ D-Segment ไฮไลต์เด่นอยู่ที่การเปิดตัวโมเดลเชนจ์ของเลกาซี่ใหม่จากค่ายซูบารุ ซึ่งจะอุ่นเครื่องกันก่อนที่งานดีทรอยต์ด้วยเวอร์ชันต้นแบบแล้วจากนั้นก็ถึงเวลาของรุ่นจำหน่ายจริงที่น่าจะเปิดตัวไม่เกินกลางปีนี้ ส่วนทางอัลฟาก็จะมีการขยับขยายตลาดให้กับรุ่น 159 ด้วยการปรับโฉม หรือไมเนอร์เชนจ์ เช่นเดียวกับโฟล์คสวาเกน พัสสาท
ในกลุ่มของเอสยูวีและเอ็มพีวี ทางด้านเชฟโรเลตวางแผนเจาะตลาดด้วยทางเลือกใหม่บนพื้นฐานเดียวกับครูซด้วยรุ่นออร์แลนโด และตามด้วยโมเดลเชนจ์ของเอควิน็อกซ์สำหรับเจาะตลาดสหรัฐอเมริกาพร้อมเครื่องยนต์ 2,400 ซีซี 182 แรงม้ารุ่นใหม่ และ 3,000 ซีซีแบบวี6 255 แรงม้า
และที่ฮือฮาไม่น้อย คือ โปรเจ็กต์ใหม่ของฮอนด้าในการเจาะตลาดเอสยูวีด้วยการจับเอาแอคคอร์ด แวกอนมายกสูงพร้อมกับติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา และจะทำตลาดด้วยชื่อแอคคอร์ด ครอสโอเวอร์ เพียงแต่ว่าข่าวนี้ยังไม่มีการยืนยันมาจากทางฮอนด้า แต่ถ้าทุกอย่างเป็นความจริง น่าจะได้เห็นตัวรถคันจริงไม่เกินงานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ช่วงปลายปีนี้
ตลาดหรูคึกคัก อี-คลาสนำทัพ
ไฮไลต์เด่นสำหรับตลาดรถยนต์หรูคือการเตรียมเปิดตัวของอี-คลาสใหม่ในรหัส W212 ที่มีคิวอวดโฉมและทำตลาดในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้เพิ่งฉลองความสำเร็จไปหมาดๆ เมื่ออี-คลาสที่กำลังจะตกรุ่น คือ รหัส W211 เพิ่งทำยอดขายสะสมทั่วโลกนับจากเริ่มทำตลาดในปี 2002 ครบ 1.5 ล้านคัน ซึ่งคิวแรกจะเป็นซีดาน จากนั้นจะตามติดทันทีด้วยแวกอน โดยตัวถังแวกอนแม้จะเปิดตัวในปี 2009 แต่กว่าจะเริ่มขายและส่งมอบได้ก็ต้องรอจนถึงปี 2010
อีกรุ่นของค่ายดาว 3 แฉกที่เตรียมส่งมาเขย่าตลาดคือ เจนเนอเรชันที่ 3 ของซีแอลเค หรือคูเป้ที่อิงหน้าตาของอี-คลาส และใช้พื้นฐานของรถยนต์ขนาดคอมแพ็กต์รุ่นซี-คลาส เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในการทำตลาดให้เหนือคู่แข่งอย่างบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 คูเป้ และออดี้ เอ5 โดยเชื่อว่าน่าจะเปิดตัวและทำตลาดไม่เกินกลางปีนี้ ส่วนเอส-คลาสรุ่นปรับโฉม ว่ากันว่าน่าจะมาทันปี 2009 แต่บางกระแสก็ระบุว่าอาจจะเลยไปต้นปี 2010 งานนี้ต้องติดตามกันต่อไป
ทางด้านบีเอ็มดับเบิลยู นอกจากแซด4 รุ่นใหม่ที่กลายร่างจากการเป็นโรดสเตอร์พันธุ์แท้มาใช้ชุดหลังคาแข็งพับได้แล้ว โปรเจ็กต์ใหม่ๆ สำหรับปี 2009 ดูจะมุ่งเน้นไปที่ตลาดเอสยูวีเป็นหลัก โดยเฉพาะการเสริมทัพด้วยรุ่นเอ็กซ์1 เพื่อเปิดตลาดกลุ่มใหม่ โดยรายละเอียดของตัวรถยกชุดมาจากเอสยูวีต้นแบบรุ่นคอนเซ็ปต์ เอ็กซ์1 ที่เปิดตัวในปารีส มอเตอร์โชว์ 2008
ขณะที่พี่ใหญ่อย่างเอ็กซ์5 และเอ็กซ์6 จะได้มีโอกาสสวมรหัส M เหมือนเพื่อนๆ ร่วมสายพันธุ์บ้าง โดยหลังจากที่บีเอ็มดับเบิลยูยืนยันว่ารถยนต์ตระกูล M รุ่นใหม่ๆ จะหันมาใช้เครื่องยนต์แบบเทอร์โบแทนที่แบบหายใจเอง หรือ NA แล้ว เอ็กซ์5 และเอ็กซ์6 คือ ผลผลิตแรกจากแนวคิดนี้ โดยในรุ่น M จะมากับเครื่องยนต์วี8 4,400 ซีซี เทอร์โบคู่ที่อัพเกรดแรงม้าขึ้นมาเป็น 550 ตัว และว่ากันว่าเครื่องยนต์บล็อกนี้จะถูกต่อยอดเพื่อนำมาใช้กับ M5 รุ่นใหม่แทนที่ขุมพลังวี10 5,000 ซีซี 500 แรงม้ารุ่นเดิมอีกด้วย
สำหรับออดี้ นอกจากเวอร์ชันเปิดประทุนของรถสปอร์ตขนาดกลางสายพันธุ์ 5 ที่มาทั้งรุ่นธรรมดาอย่าง A และตัวแรงในรหัส S แล้ว งานนี้มีข่าวว่าค่าย 4 ห่วงยังวุ่นอยู่กับการเสริมทางเลือกให้กับ A5 ด้วยตัวถังใหม่ในชื่อสปอร์ตแบ็ค ด้วยตัวถังแบบ 5 ประตูท้ายลาด และจะมีขายทั้งรุ่นธรรมดารวมถึงตัวแรงในรหัส S และ RS โดยที่รุ่นเอ4 เองก็เตรียมเปิดตัวทางเลือกใหม่ในแบบแวกอนยกสูงหรือที่เรียกกันว่าออลโรดออกมาขายในตลาดด้วยเช่นกัน
ส่วนแบรนด์หรูญี่ปุ่นอย่างเล็กซัสก็มีหลากหลายทางเลือกในการทำตลาด เริ่มจากการเก็บของเก่ากินอย่างการส่งโฉมใหม่ของ RX และเวอร์ชันเปิดประทุนของ IS ในชื่อ IS250C ลงทำตลาดอย่างเป็นทางการหลังจากที่เผยโฉมยั่วน้ำลายมาแล้วในปารีส มอเตอร์โชว์ 2008 และตามด้วยการแตกทัพสายพันธุ์ใหม่ในรหัส HS
สายพันธุ์นี้เป็นรถยนต์ครอบครัวที่ทำตลาดคั่นกลางระหว่าง IS และ GS ซึ่งมีน่าจะเข้ามาแทนที่รุ่น ES ซึ่งแชร์พื้นฐานเดียวกับโตโยต้า คัมรี่ โดยจะมีทั้งเครื่องยนต์ธรรมดา และการขับเคลื่อนแบบไฮบริดที่ยกชุดมาจากโตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด มีขายทั้งตัวถังซีดานและแวกอน โดยการเปิดตัวคันจริงจะมีขึ้นในดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ กลางเดือนมกราคมนี้
ความแรงสำหรับปี 2009
ตามโปรแกรมการพัฒนาแล้ว ในปีนี้ แฟนๆ ความแรงทั้งหลายจะได้มีโอกาสสัมผัสกับความเร้าใจของสปอร์ตระดับซูเปอร์คาร์หลายรุ่น โดยเฉพาะแฟนๆ ของเฟอร์รารี่จะได้พบกับผลผลิตในโปรเจ็กต์ 142 ซึ่งยังไม่มีชื่อรุ่นอย่างเป็นทางการ แต่เป็นที่รู้จักกันดีว่าจะเป็นตัวแทนของ F430 โดยจะใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบแบบไดเร็กต์อินเจ็กชันวี8 บล็อกใหม่ล่าสุดเป็นขุมพลัง
จากนั้นตามด้วยผลผลิตในรหัส FX70 ซึ่งจะเป็นการเข้ามาแทนที่สุดยอดซูเปอร์คาร์อย่างเอ็นโซ่ เฟอร์รารี่ โดยตัวรถจะได้รับการออกแบบจากสำนักพินิฟารินา ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่มีการเปิดเผยออกมาในตอนนี้ โดยกระแสข่าวก่อนหน้านี้ระบุว่าเฟอร์รารี่จะเปิดตัวในปี 2010 แต่ดูเหมือนว่ากำหนดการจะถูกร่นให้เร็วขึ้นแล้วในตอนนี้
ส่วนความเคลื่อนไหวของพอร์ช นอกจากการทำตลาดของพานาเมอรา ซีดานมาดสปอร์ตรุ่นแรกของบริษัทแล้ว อีกโปรเจ็กต์ที่เตรียมเอาไว้คือ การอัพเกรดความสวยของเวอร์ชัน 911 เทอร์โบ ซึ่งเป็นไปตามเพื่อนร่วมสายพันธุ์ 911 ที่ทยอยปรับโฉมกันมาแล้วตั้งแต่ปี 2008 โดยไฮไลต์ของตัวรถนอกจากหน้าตาที่สดใหม่ขึ้นแล้ว ยังอยู่ที่การเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่มาเป็นแบบเบนซินไดเร็กต์อินเจ็กชันเทอร์โบ
สำหรับ GT-R ของนิสสัน หลังจากที่ในยุโรปและญี่ปุ่นมากับเวอร์ชันใหม่ที่เพิ่มเรี่ยวแรงอีก 5 แรงม้า คราวนี้จะถึงคิวของ V Spec ตัวแรงที่นิสสันตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะพัฒนาให้มีสมรรถนะที่เร้าใจสุดๆ ชนิดที่วิ่งในสนามนอร์ธคอร์สของนูร์บูร์กริงด้วยเวลาต่อรอบต่ำกว่า 7.25 นาที หรือเร็วกว่าที่รุ่นธรรมดาทำได้ 18 วินาที
ซึ่งนั่นหมายความว่านอกจากตัวรถจะต้องเบากว่ารุ่นมาตรฐานด้วยการใช้คาร์บอนไฟเบอร์ในการผลิตชิ้นส่วนตัวถังบางจุดตามแนวคิดของ V Spec แล้ว เครื่องยนต์วี6 เทอร์โบคู่จะต้องมีกำลังขยับจาก 480 มาเป็นมากกว่า 550 แรงม้าในรุ่นนี้
ทางออดี้กับความเคลื่อนไหวของรุ่น R8 นอกจากการเปิดตัวเวอร์ชันใหม่ที่วางเครื่องยนต์วี10 5,200 ซีซี 525 แรงม้าที่จะเปิดตัวในดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์แล้ว ก็ยังมีรุ่นเปิดประทุนหรือโรดสเตอร์ของ R8 รอเอาไว้ด้วยในช่วงปลายปีนี้ โดยรายละเอียดยังไม่เปิดเผยออกมาในตอนนี้
ส่วนโปรเจ็กต์เพิ่มมัดกล้ามให้กับสปอร์ตซีดานรุ่น XF ที่จะมีคำว่า R พ่วงท้ายมาด้วยของจากัวร์นั้น มีขายแน่ในปีนี้หลังจากที่เขย่าอารมณ์กับการนำออกแล่นเป็นครั้งแรกในงาน Goodwood FOS กลางปี 2008 ที่ประเทศอังกฤษ และว่ากันว่าเครื่องยนต์วี8 5,000 ซีซี 500 แรงม้าเป็นบล็อกใหม่ที่พัฒนาร่วมกับทางพันธมิตรอย่างแลนด์โรเวอร์ภายใต้การดูแลจากเจ้าของใหม่อย่างทาทา มอเตอร์
สำหรับคนที่ชอบสปอร์ตอเมริกัน นอกจากการทำตลาดของคามาโรแล้ว ทางด้านฟอร์ด มัสแตงก็จะมีเวอร์ชันพิเศษของแคร์โรล เชลบี้ออกมาทำตลาดควบคู่กับรุ่นปรับโฉมมาตรฐานที่เปิดตัวในแอลเอ มอเตอร์โชว์ เดือนพฤศจิกายน 2008 โดยเป็นรุ่น GT500 ที่มาพร้อมกันทั้งตัวถังคูเป้และเปิดประทุนกับความแรงแบบเอาเรื่อง เพราะว่าเครื่องยนต์วี8 5,400 ซีซีฝังซูเปอร์ชาร์จมาพร้อมกับกำลัง 540 แรงม้า
ขณะที่ทางด้านแคดิลแล็กจะส่งเวอร์ชันคูเป้ของ CTS ลงทำตลาด โดยสปอร์ตรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาจากต้นแบบที่เปิดตัวเมื่อต้นปี 2009 และจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อ CTC พร้อมทางเลือกของเครื่องยนต์ทั้งแบบธรรมดา และตัวแรงในรหัส CTC-V แบบวี8 550 แรงม้า
หลากหลายทางเลือกของการเดินทาง
สำหรับรถยนต์ในกลุ่มต่างๆ มีรุ่นใหม่ๆ ถูกเตรียมเอาไว้สำหรับปีนี้ โดยในกลุ่ม A-Segment หรือซูเปอร์มินิซึ่งเป็นรถยนต์คลาสเล็กของยุโรปนั้น ก็มีทั้งเชฟโรเลต บีทซึ่งเป็นผลผลิตใหม่ล่าสุดที่สานต่อจากต้นแบบลงทำตลาดในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับการเปิดตัวรุ่นใหม่ของมาทิซ
ตามด้วยโมเดลเชนจ์ของมิตซูบิชิ i โดยจะมีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1,000 ซีซี และรุ่นขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าเป็นอีกทางเลือก ส่วนทางพินินฟารินาก็จะสานต่อให้รถยนต์ต้นแบบรุ่น BO กลายเป็นความจริงและถูกส่งเขย่าตลาดในปลายปี 2009 ด้วยการขับเคลื่อนผ่านพลังไฟฟ้าจากความร่วมมือของ Ballore แห่งฝรั่งเศส
สิ่งที่น่าสนใจของกลุ่มนี้อยู่ที่การเตรียมเปิดตัว World Car คันใหม่ของโลกจากค่ายเฟียตภายใต้ชื่อ Uno ซึ่งจะเป็นรถยนต์ป้ายแดงที่มีราคาถูกและมีดีไซน์ที่โดนใจ ซึ่งว่ากันว่าจะใช้งานออกแบบของต้นแบบที่เปิดตัวในปี 1999 ด้วยชื่ออีโคเบสิก และแชร์พื้นฐานร่วมกับรุ่น 500 พร้อมกับวางเครื่องยนต์ 900 ซีซีเทอร์โบเป็นขุมพลัง ขณะที่โฟล์คสวาเกนจะส่งรุ่นโปโลใหม่ออกทำตลาดในช่วงปลายปี โดยที่ฝาแฝดของรถยนต์รุ่นนี้ที่เปลี่ยนมาใช้ชื่อออดี้ เอ1 ในการทำตลาดจะตามมาในช่วงต้นปี 2010
ในกลุ่มของรถยนต์ขนาดคอมแพ็กต์ ตัวเลือกใหม่ๆ ที่น่าสนใจ นอกจากการเริ่มทำตลาดของมาสด้า 3 ทั้งตัวถังแฮทช์แบ็กและซีดานแล้วยังอยู่ที่การเจาะตลาดความแรงในรหัส MPS ซึ่งยังยึดตัวถังแฮทช์แบ็กในการทำตลาดพร้อมความเร้าใจของเครื่องยนต์เทอร์โบ 260 แรงม้า ส่วนตัวถังที่ 3 ของมาสด้า 3 ใหม่ตามที่เคยมีข่าวก่อนหน้านี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ออกมาในตอนนี้
ขณะที่เชฟโรเลต ครูซซึ่งในเมืองไทยโดนโรคเลื่อนเล่นงานไปแล้ว แต่สำหรับสหรัฐอเมริกาและยุโรป รถยนต์รุ่นนี้จะยังทำตลาดตามกำหนดการเดิม โดยรุ่นซีดานจะเริ่มขายมีนาคมนี้ ส่วนแฮทช์แบ็ก 5 ประตูจะตามมาในปลายปีนี้ โดยอีกรุ่นที่น่าสนใจคือการกลับมาทำตลาดรถยนต์เล็กของอัลฟาด้วยการเปิดตัวรุ่น 149 ตัวแทนของ 147 พร้อมรูปลักษณ์และรายละเอียดการออกแบบที่ว่ากันว่าลอกแบบมาจาก Mi.To แต่ได้รับการพัฒนาบนพื้นตัวถังรุ่นใหม่ และจะเปิดตัวในแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์
ขยับไปที่กลุ่มรถยนต์ครอบครัวหรือ D-Segment ไฮไลต์เด่นอยู่ที่การเปิดตัวโมเดลเชนจ์ของเลกาซี่ใหม่จากค่ายซูบารุ ซึ่งจะอุ่นเครื่องกันก่อนที่งานดีทรอยต์ด้วยเวอร์ชันต้นแบบแล้วจากนั้นก็ถึงเวลาของรุ่นจำหน่ายจริงที่น่าจะเปิดตัวไม่เกินกลางปีนี้ ส่วนทางอัลฟาก็จะมีการขยับขยายตลาดให้กับรุ่น 159 ด้วยการปรับโฉม หรือไมเนอร์เชนจ์ เช่นเดียวกับโฟล์คสวาเกน พัสสาท
ในกลุ่มของเอสยูวีและเอ็มพีวี ทางด้านเชฟโรเลตวางแผนเจาะตลาดด้วยทางเลือกใหม่บนพื้นฐานเดียวกับครูซด้วยรุ่นออร์แลนโด และตามด้วยโมเดลเชนจ์ของเอควิน็อกซ์สำหรับเจาะตลาดสหรัฐอเมริกาพร้อมเครื่องยนต์ 2,400 ซีซี 182 แรงม้ารุ่นใหม่ และ 3,000 ซีซีแบบวี6 255 แรงม้า
และที่ฮือฮาไม่น้อย คือ โปรเจ็กต์ใหม่ของฮอนด้าในการเจาะตลาดเอสยูวีด้วยการจับเอาแอคคอร์ด แวกอนมายกสูงพร้อมกับติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา และจะทำตลาดด้วยชื่อแอคคอร์ด ครอสโอเวอร์ เพียงแต่ว่าข่าวนี้ยังไม่มีการยืนยันมาจากทางฮอนด้า แต่ถ้าทุกอย่างเป็นความจริง น่าจะได้เห็นตัวรถคันจริงไม่เกินงานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ช่วงปลายปีนี้
