xs
xsm
sm
md
lg

ของดีจากผู้มาเยือน "ดีทรอยต์ 08"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เฟอร์รารี่ 430 สไปเดอร์ Bio-Fuel มีการปรับเครื่องยนต์วี 8 ให้ใช้เบนซิน E85 ได้
ที่ผ่านมาความโดดเด่นของงานดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ไม่ได้มีเฉพาะพลังแห่งการสร้างสรรค์จากแบรนด์อเมริกันที่ถูกถ่ายทอดผ่านรถยนต์ใหม่รุ่นต่างๆ ที่นำมาจัดแสดงในงานนี้เท่านั้น แต่ทว่าบรรดาบริษัทรถยนต์จากต่างแดนล้วนให้ความสนใจกับงานที่ดีทรอยต์อย่างมาก ซึ่งเหตุผลก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า ความยิ่งใหญ่ของตลาดรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาซึ่งมียอดจำหน่ายสูงกว่า 17 ล้านคันต่อปี และเป็นชิ้นเค๊กที่ยั่วยวนใจชวนให้กระโดดเข้ามาร่วมแจม

จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่รถยนต์ใหม่ๆ ประเภทแกะกล่องจากแบรนด์รถยนต์แถบเอเชียหรือยุโรป จะจอดอวดโฉมกันเกลื่อนละลานตาชนิดที่ถ้านั่งนับจำนวนแล้ว อาจจะมากกว่าของใหม่ที่แบรนด์รถยนต์อเมริกันมีมาแสดงเสียอีก....ส่วนในปีนี้จะมีอะไรบ้างลองมาดูกัน


ญี่ปุ่นคึกคัก นำทัพโดยโตโยต้า

ความสำคัญของตลาดรถยนต์อเมริกันในมุมมองของผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นแล้ว ถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก ดีไม่ดีในตอนนี้อาจจะมากกว่าตลาดในบ้านตัวเองซึ่งแต่ละปีนับวันจะมีแต่สภาพหดตัวยอดขายลดลงอย่างต่อเนื่อง

แน่นอนว่าโตโยต้ายังเป็นพี่ใหญ่ในการสร้างสีสันบนเวทีในดีทรอยต์ และนอกจากต้นแบบที่เป็นปิกอัพยุคหน้าอย่าง A-BAT ซึ่งเป็นผลงานของศูนย์ออกแบบ Calty ในแคลิฟอร์เนียแล้ว ผู้ผลิตรถยนต์หมายเลข 1 ของโลกยังมีของใหม่สำหรับเปิดตัวในเมืองลุงแซมอีกด้วย กับเอสยูวีขนาดกลางรุ่นใหม่ในชื่อเวนซ่า (Venza) ซึ่งพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับรถยนต์ครอบครัวอย่างคัมรี่

ตัวถังของเวนซ่าเน้นความสปอร์ตและปราดเปรียว โดยเฉพาะเสาหลังคาหลังซึ่วมีลักษณะลาดเทลงไปทางด้านหน้าชวนให้นึกถึงความสปอร์ตของรุ่นแฮร์ริเออร์ ส่วนเครื่องยนต์มีทั้งแบบ 4 สูบ 2,700 ซีซีรุ่นใหม่ซึ่งยังไม่เปิดเผยรายละเอียดทางเทคนิค และวี6 3,500 ซีซี 268 แรงม้าของคัมรี่จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

สำหรับฮอนด้าในปีนี้เน้นไปที่เอสยูวีรุ่นใหญ่อย่างไพล็อตซึ่งถึงคิวในการเปลี่ยนโฉมแล้ว และเปิดตัวไพล็อต คอนเซ็ปต์พร้อมเครื่องยนต์วี6 3,500 ซีซีของแอคคอร์ด ซึ่งจะเป็นต้นแบบสำหรับพัฒนาให้กลายเป็นรุ่นจำหน่ายจริงที่คาดว่าจะเปิดตัวกลางปีนี้ พร้อมกับเปิดเผยข่าวว่ารถยนต์ไฮบริดราคาประหยัดจะเริ่มขายในปี 2009 กับราคาประมาณ 22,600 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 746,000 บาท และตั้งเป้าของยอดจำหน่ายทั่วโลกสำหรับปีแรกที่วางขายเอาไว้ที่ 200,000 คันต่อปี โดยครึ่งหนึ่งอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของรถยนต์ไฮบริด

มาสด้ามากับความสปอร์ตอย่างเต็มที่เพราะมีทั้งไมเนอร์เชนจ์ของอาร์เอ็กซ์-8 สปอร์ต 4 ประตูที่เริ่มขายมาตั้งแต่ปี 2004 และต้นแบบรุ่น Furai ในสไตล์รถแข่งทางเรียบ โดยทางมาสด้าบอกว่า โปรเจ็กต์นี้เป็นความร่วมมือกับคูเรจ ในการนำรถแข่งรายการอเมริกัน เลอ มังส์ ซีรีส์ หรือ AMLS รุ่น C65 มาดัดแปลง และอิงการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกจากแนวคิดนากาเระอันโด่งดังของมาสด้าที่เปิดตัวออกมาเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ส่วนเครื่องยนต์ของ Furai เป็นโรตารี่ 3 โรเตอร์รีดกำลังออกมาได้ 450 แรงม้า ชวนให้นึกถึงตัวแข่ง 787B ที่พามาสด้าคว้าแชมป์เลอมังส์ในปี 1991 จริงๆ

มิตซูบิชิเป็นอีกค่ายที่เน้นความสปอร์ต โดยนอกจากการเปิดตัวแลนเซอร์ อีโวลูชัน 10 แล้ว ก็มีต้นแบบรุ่น RA-Concept ที่ใช้พื้นฐานของช่วงล่าง เกียร์ ระบบขับเคลื่อนร่วมกับอีโว 10 แต่เปลี่ยนมาวางเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 2,200 ซีซี ส่วนอีกคันเป็นเวอร์ชันแรลลี่ อาร์ตของแลนเซอร์ใหม่ ซึ่งทางมิตซูบิชิตั้งใจจะส่งขายแทรกกลางระหว่างแลนเซอร์ 2,000 ซีซี กับอีโวลูชัน 10 เพราะว่ารุ่นนี้ยกเครื่องยนต์ 4B11T 2,000 ซีซี เทอร์โบ เกียร์ธรรมดาแบบคลัตช์ไฟฟ้า 6 จังหวะ แต่ปรับลดกำลังลงเหลือ 235 แรงม้าเท่านั้น ส่วนรูปลักษณ์ภายนอกก็ไม่ได้แต่งเปรี้ยวเต็มยศเหมือนกับตัวอีโว 10 เหมือนกับแลนเซอร์ใส่สเกิร์ตพร้อมล้อ 18 นิ้วจากโรงงานมากกว่า

ในส่วนของแบรนด์อื่นก็ไม่มีอะไรมาเซอร์ไพรส์หน้างาน เพราะส่วนใหญ่เผยโฉมให้เห็นแล้วในอินเตอร์เนต เช่น ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ใหม่ที่สเปกอเมริกันมากับเครื่องยนต์ 2,500 ซีซี รุ่นธรรมดามีกำลังสูงสุด 170 แรงม้า ส่วนรุ่นเทอร์โบขยับความแรงขึ้นมาเป็น 224 แรงม้า ตามด้วยนิสสันกับต้นแบบรุ่นฟอรั่ม โดยที่ซูซูกิยกขบวนของเก่าจากโตเกียว มอเตอร์โชว์มาจัดแสดงอย่างปิกอัพรุ่น X-Head
สำหรับแบรนด์หรูอย่างเล็กซัสก็มีต้นแบบรุ่นเปิดประทุนของ LF-A มาจัดแสดง โดยที่อาคูราของฮอนด้าไม่มีอะไรใหม่ นอกจากบอกว่าในปี 2009 จะนำเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลรุ่นใหม่ i-DTEC เข้ามาขาย ส่วนจะวางไว้ใต้ฝากระโปรงของรถยนต์รุ่นไหนนั้น ขออุบเอาไว้ก่อน

จีน-เกาหลีก็ไม่ยอมน้อยหน้า

นอกจากรถยนต์ญี่ปุ่นแล้ว ฮุนไดและเกียถือเป็นขาประจำของงานโชว์รายการนี้ ซึ่งค่ายแรกเปิดตัวซีดานขับเคลื่อนล้อหลังรุ่นใหม่ในชื่อเจเนซิส เพื่อยกระดับตัวเองขึ้นมาแข่งกับแบรนด์หรูจากยุโรปและญี่ปุ่น โดยเครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งแบบวี6 3,300 ซีซี 266 แรงม้า และ 3,800 ซีซี 306 แรงม้า ส่วนบล็อกใหญ่เป็นแบบวี8 4,600 ซีซี 375 แรงม้าพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ส่วนเกียมากับเอสยูวีใหม่ในชื่อบอร์เรโก้ซึ่งเป็นผลผลิตที่มาจากต้นแบบรุ่นเมซ่า ที่เปิดตัวในดีทรอยต์เมื่อปี 2005 มีทั้งรุ่นวี6 3,800 ซีซี และวี8 4,600 ซีซีบล็อกเดียวกับเจเนซิส และในสหรัฐอเมริกาจะขายด้วยราคา 26,535 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 876,000 บาท
จะว่าไปแล้วรถยนต์ทั้ง 2 รุ่นนี้ไม่ใช่ของใหม่แกะกล่องเสียทีเดียว เพราะว่าก่อนที่งานนี้จะเริ่มขึ้นทั้งเกียและฮุนไดต่างก็เปิดตัวขายไปก่อนแล้วในเกาหลีใต้ โดยออฟโรดของเกียเปลี่ยนมาใช้ชื่อโมแฮฟ


สำหรับแบรนด์รถยนต์จีนแม้ว่าในตอนนี้ยังจะไม่สามารถส่งรถยนต์เข้ามาขายในอเมริกาได้ เพราะยังติดปัญหาในเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัยและระดับมลพิษในไอเสีย แถมในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตรถยนต์จากจีนที่เข้ามาร่วมงานนี้จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก แล้วยังมีหน้าใหม่ๆ โผล่เข้ามาแจม เช่น Changfeng, Chamco หรือในจีนใช้ชื่อว่า Hebei Zhongxing และ Tang Hua
เรียกว่าถึงยังไม่ขาย แต่ขอทำความคุ้นเคยกันก่อน เผื่อได้ขายเมื่อไรจะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำความรู้จักกันนาน

ละลานตากับยานยนต์ยุโรป

ถ้าไม่นับซาบและแลนด์โรเวอร์ที่ยึดการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ร่วมกับบริษัทแม่อย่างจีเอ็มและฟอร์ดแล้ว บริษัทจากยุโรปก็ไม่ยอมน้อยหน้าบรรดาแบรนด์รถยนต์ของเอเชีย และในปีนี้ถือว่ามีของใหม่ๆ มารวมเปิดตัวกันอย่างคับคั่งเลยทีเดียว

บีเอ็มดับเบิลยูและเมอร์เซเดส-เบนซ์ไม่มีของใหม่มาเซอร์ไพรส์ในงาน ที่เปิดเผยออกมาทางอินเตอร์เนตก่อนหน้านี้ มีอะไรบ้างก็มากันตามนั้น และดูเหมือนว่าจะนัดกันบุกตลาดเอสยูวีอย่างไม่ได้นัดหมาย แม้ว่าจะเป็นตลาดคนละกลุ่มก็ตาม

ค่ายใบพัดสีฟ้าเปิดตัวความสปอร์ตของเอ็กซ์6 เอสยูวีที่พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับเอ็กซ์5 แถมยังมากับเครื่องยนต์เบนซินบล็อกใหม่แบบวี8 4,400 ซีซี เทอร์โบ ขณะที่เมอร์เซเดส-เบนซ์แม้ว่าจะยังเป็นต้นแบบ แต่ก็เป็นต้นแบบที่ใกล้เคียงกับรุ่นขายจริงเกือบ 100% แล้ว ซึ่งวิชั่น จีแอลเค-ฟรีไซด์มีคิวเปิดตัวกลางปีนี้ และไลน์ผลิตหลักก็อยู่ในสหรัฐอเมริกา ส่วนเครื่องยนต์จะมีอะไรบ้างนั้นยังไม่เปิดเผย แต่ว่ากันว่าจะมีทางเลือกตามนี้ เบนซินวี6 3,000 ซีซี 231 แรงม้า ตามด้วย 3,500 ซีซี 272 แรงม้า ส่วนเทอร์โบดีเซลมีทั้ง 2,200 ซีซี 187 แรงม้า และวี6 3,000 ซีซี 224 แรงม้า เพื่อเป็นคู่ปรับของบีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์3

โฟล์คสวาเกน กรุ๊ปเป็นอีกค่ายที่มีการขยับตัวเพื่อตลาดอเมริกันอย่างต่อเนื่อง และก็มีไม่บ่อยครั้งนักที่ทั้งออดี้และตัวของโฟล์คฯ เองจะมีรถยนต์ใหม่เปิดตัวที่นี่ ซึ่งออดี้ บริษัทในเครือเผยโฉมทางเลือกแบบสปอร์ตให้กับสปอร์ตรุ่นทีทีทั้งตัวถังคูเป้และเปิดประทุนในชื่อ TT-S กับการรีดกำลังของเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบ FSI จาก 200 แรงม้าเป็น 272 แรงม้า

ส่วนที่เป็นต้นแบบและสร้างความฮือฮาไม่น้อยคือ การนำซูเปอร์คาร์รุ่นอาร์8 มาเปลี่ยนเครื่องยนต์ โดยจัดการถอดเครื่องยนต์เบนซินวี10 ออกแล้วแทนที่ด้วยเทอร์โบดีเซลวี12 6,000 ซีซี 500 แรงม้าจากเอสยูวีรุ่น Q7 ที่ได้รับการยอมรับว่ามีสมรรถนะสูงที่สุดในโลก เพราะมีม้าในคอกมากถึง 500 ตัวเลยทีเดียว

ขณะที่โฟล์คฯ นำรถยนต์ในสายการผลิตรุ่นใหม่มาเปิดตัวกับเวอร์ชัน CC ของพัสสาท ซึ่งเป็นการพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับรถยนต์ครอบครัวยอดนิยมรุ่นนี้ แต่ออกแบบตัวถังทั้งภายนอกและภายในใหม่หมด และมีคิวทำตลาดในปลายปีนี้ พร้อมเครื่องยนต์ 5 รุ่นด้วยกัน เป็นเบนซิน 3 รุ่น คือ 1,800 ซีซี เทอร์โบ 160 แรงม้า, 2,000 ซีซี เทอร์โบ 200 แรงม้า และวี6 3,600 ซีซี 300 แรงม้า ส่วนเทอร์โบดีเซลมี 2 รุ่น คือ 140 และ 170 แรงม้าที่ยังไม่เปิดเผยความจุ ส่วนระบบขับเคลื่อนมีทั้งแบบล้อหน้า และ 4 ล้อตลอดเวลา 4Motion
เกียลุยตลาดเอสยูวีรุ่นใหญ่ด้วยการเปิดตัวบอร์เรโก้หรือที่ขายในเกาหลีใต้ด้วยชื่อโมแฮฟ
มิตซูบิชิเสริมทางเลือกรุ่น 2,000 ซีซีและอีโวลูชัน 10 ด้วยเวอร์ชันแรลลี่อาร์ตของแลนเซอร์กับความแรง 235 แรงม้า
ฟิสเคอร์เปิดแนวรุกตลาดไฮบริดด้วยซีดานมาดสปอร์ต คาร์
โตโยต้าเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับเอสยูวีในตลาดสหรัฐอเมริกาด้วยรุ่นเวนซ่า
ลัมบอร์กินี มูร์ซิเอลาโก้ แอลพี640 กับสีสันแสบทรวงสำหรับตลาดสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ
มาเซราติเพิ่มทางเลือกในแบบสปอร์ตให้กับรุ่นควอตโตรปอร์เต้ด้วยเวอร์ชันตกแต่งพิเศษ
เจเนซิส ซีดานขับเคลื่อนล้อหลังรุ่นใหญ่ของฮุนได










Speed Racer Mach 5 รถยนต์ตัวแรงที่นำมาโปรโมทภาพยนตร์เรื่อง Speed Racer
 Tang Hua Detroit Fish รถยนต์ไฟฟ้าหน้าตาน่ารักจากจีน
กำลังโหลดความคิดเห็น