สำหรับเศรษฐีที่ยังนึกไม่ออกว่าจะขับรถสปอร์ตอะไรที่ดูสวยและโดดเด่นไม่เหมือนใคร วันนี้เรามีอีกทางเลือกมานำเสนอ กับรถสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่ายที่ใครๆ ก็งงว่ามีรากเหง้ามาจากไหน ซึ่งถ้าไม่ซีเรียสกับเรื่องตรงนี้ และคิดเสียว่าเป็นการจ่ายเงินเพื่อความไม่เหมือนใคร รถสปอร์ตรุ่นใหม่อย่างสปาดา ทีเอส โคดาทรอนก้า ถือว่าน่าจะรองรับกับความต้องการตรงนี้ได้อย่างแท้จริง
สปาดาเป็นแบรนด์รถสปอร์ตของสปาดาสตูดิโอ ซึ่งเป็นสำนักออกแบบอีกรายหนึ่งในแดนมะกะโรนีที่มีเปาโล สปาดาเป็นผู้ก่อตั้งร่วมกับเออร์โคเล่ สปาดาพ่อของเขา โดมิซิเอโน่ บอสชี่และโวจเท็ค โซโคโลวสกี้ ซึ่งผลงานของเปาโลที่ผ่านมาอาจจะไม่โด่งดังแบบเปรี้ยงปร้าง แต่เครดิตที่เขาได้รับก็คือ การเป็นนักออกแบบรถยนต์ให้กับสมาร์ทและฮอนด้า ขณะที่พ่อของเขาเคยผ่านการทำงานร่วมกับสำนักออกแบบอย่างซากาโต้และบีเอ็มดับเบิลยูมาแล้ว
ตัวรถเป็นผลผลิตที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาจากต้นแบบที่เคยเปิดตัวออกมาเมื่อปีที่แล้ว และทางสปาดาใช้เวลา 3 เดือนในการทดสอบและพัฒนาให้เป็นจริง ซึ่งคำว่าทีเอสที่ใช้นำหน้าย่อมาจาก Turismo Sportivo ซึ่งเป็นชื่อดั้งเดิมของตัวต้นแบบ ส่วนโคดาทรอนก้าเป็นภาษาอิตาลีที่มาจากคำว่า Coda กับ Tronca ที่สื่อให้เห็นถึงรูปทรงของตัวถังด้านท้ายที่ยกสูงขึ้นมาเป็นหางแหลมจนหลายคนบอกว่าเหมือนกับ Bat Mobile ผสมกับซูเปอร์คาร์อย่างเอ็นโซ่ เฟอร์รารี่ยังไงยังงั้น
แต่ไม่ว่าจะดูสวยล้ำขนาดไหน แต่งานออกแบบโดยรวมทางเออร์โคเล่บอกว่ายืนอยู่บนแนวคิดของประโยชน์ใช้สอยอย่างแท้จริง เพราะทุกรายละเอียดที่เห็นอยู่นี้สร้างสรรค์ให้ตัวรถเกิดความปราดเปรียวและเพรียวลม ไม่ได้เน้นแค่การดึงดูดความสนใจจากทุกสายตาบนถนนแต่เพียงอย่างเดียว
ตัวรถใช้พื้นฐานเดียวกับเชฟโรเลต คอร์เว็ต ซี6 แต่ขึ้นรูปตัวถังใหม่ในแบบสเปซเฟรมด้วยท่ออะลูมิเนียมผสมผสานกับการใช้คาร์บอนไฟเบอร์ในการผลิตชิ้นส่วนตัวถังเพื่อลดน้ำหนักให้กับตัวรถอยู่ที่ 1,360 กิโลกรัม ขณะที่ความยาวตัวถังอยู่ที่ 4,659 มิลลิเมตร และสูงเพียง 1,235 มิลลิเมตรเท่านั้น
ในด้านสมรรถนะมาแบบเหลือๆ สำหรับคนที่ชอบความแรง เพราะว่าเครื่องยนต์วี8 7,000 ซีซี พร้อมซูเปอร์ชาร์จ ใช้อ่างน้ำมันเครื่องแบบ Dry Sump เหมือนกับรถแข่ง สามารถรีดกำลังออกมาได้ 630 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 68.1 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะสู่ล้อหลัง
ใครที่ชอบทั้งตีนต้นและตีนปลายคงสะใจ เพราะว่าอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใช้เวลาเพียง 3.4 วินาที และที่เกียร์ 6 ซึ่งเครื่องยนต์หมุนจนสุดที่ 7,000 รอบต่อนาทีเข็มวัดความเร็วกระดิกขึ้นมาอยู่ในระดับ 340 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากนั้นเพื่อรับกระแสโลกร้อนและราคาน้ำมันแพง ยังมีชุด Converter Kit แยกขายสำหรับแปลงเครื่องยนต์ให้สามารถใช้เชื้อเพลิง E85 ได้โดยที่แรงม้าและแรงบิดไม่ตก ให้ความเร้าใจเหมือนใช้น้ำมันเบนซิน
ทีเอส โคดาทรอนก้าถูกเผยโฉมครั้งแรกในงาน Top Marques Monaco ในเมืองมอนติคาร์โล พร้อมกับได้รับเลือกจากเดมอน ฮิลล์ แชมป์โลก F1 ในปี 1996 ชาวอังกฤษให้เป็นรถสปอร์ตที่สวยที่สุดในงาน โดยการผลิตจะเริ่มขึ้นในปลายปีนี้ ส่วนราคายังไม่เปิดเผย แต่คาดว่าคงแพงชนิดที่เฉพาะเศรษฐีตัวจริงเท่านั้นถึงจะสัมผัสได้แบบไม่เสียดาย
สปาดาเป็นแบรนด์รถสปอร์ตของสปาดาสตูดิโอ ซึ่งเป็นสำนักออกแบบอีกรายหนึ่งในแดนมะกะโรนีที่มีเปาโล สปาดาเป็นผู้ก่อตั้งร่วมกับเออร์โคเล่ สปาดาพ่อของเขา โดมิซิเอโน่ บอสชี่และโวจเท็ค โซโคโลวสกี้ ซึ่งผลงานของเปาโลที่ผ่านมาอาจจะไม่โด่งดังแบบเปรี้ยงปร้าง แต่เครดิตที่เขาได้รับก็คือ การเป็นนักออกแบบรถยนต์ให้กับสมาร์ทและฮอนด้า ขณะที่พ่อของเขาเคยผ่านการทำงานร่วมกับสำนักออกแบบอย่างซากาโต้และบีเอ็มดับเบิลยูมาแล้ว
ตัวรถเป็นผลผลิตที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาจากต้นแบบที่เคยเปิดตัวออกมาเมื่อปีที่แล้ว และทางสปาดาใช้เวลา 3 เดือนในการทดสอบและพัฒนาให้เป็นจริง ซึ่งคำว่าทีเอสที่ใช้นำหน้าย่อมาจาก Turismo Sportivo ซึ่งเป็นชื่อดั้งเดิมของตัวต้นแบบ ส่วนโคดาทรอนก้าเป็นภาษาอิตาลีที่มาจากคำว่า Coda กับ Tronca ที่สื่อให้เห็นถึงรูปทรงของตัวถังด้านท้ายที่ยกสูงขึ้นมาเป็นหางแหลมจนหลายคนบอกว่าเหมือนกับ Bat Mobile ผสมกับซูเปอร์คาร์อย่างเอ็นโซ่ เฟอร์รารี่ยังไงยังงั้น
แต่ไม่ว่าจะดูสวยล้ำขนาดไหน แต่งานออกแบบโดยรวมทางเออร์โคเล่บอกว่ายืนอยู่บนแนวคิดของประโยชน์ใช้สอยอย่างแท้จริง เพราะทุกรายละเอียดที่เห็นอยู่นี้สร้างสรรค์ให้ตัวรถเกิดความปราดเปรียวและเพรียวลม ไม่ได้เน้นแค่การดึงดูดความสนใจจากทุกสายตาบนถนนแต่เพียงอย่างเดียว
ตัวรถใช้พื้นฐานเดียวกับเชฟโรเลต คอร์เว็ต ซี6 แต่ขึ้นรูปตัวถังใหม่ในแบบสเปซเฟรมด้วยท่ออะลูมิเนียมผสมผสานกับการใช้คาร์บอนไฟเบอร์ในการผลิตชิ้นส่วนตัวถังเพื่อลดน้ำหนักให้กับตัวรถอยู่ที่ 1,360 กิโลกรัม ขณะที่ความยาวตัวถังอยู่ที่ 4,659 มิลลิเมตร และสูงเพียง 1,235 มิลลิเมตรเท่านั้น
ในด้านสมรรถนะมาแบบเหลือๆ สำหรับคนที่ชอบความแรง เพราะว่าเครื่องยนต์วี8 7,000 ซีซี พร้อมซูเปอร์ชาร์จ ใช้อ่างน้ำมันเครื่องแบบ Dry Sump เหมือนกับรถแข่ง สามารถรีดกำลังออกมาได้ 630 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 68.1 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะสู่ล้อหลัง
ใครที่ชอบทั้งตีนต้นและตีนปลายคงสะใจ เพราะว่าอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใช้เวลาเพียง 3.4 วินาที และที่เกียร์ 6 ซึ่งเครื่องยนต์หมุนจนสุดที่ 7,000 รอบต่อนาทีเข็มวัดความเร็วกระดิกขึ้นมาอยู่ในระดับ 340 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากนั้นเพื่อรับกระแสโลกร้อนและราคาน้ำมันแพง ยังมีชุด Converter Kit แยกขายสำหรับแปลงเครื่องยนต์ให้สามารถใช้เชื้อเพลิง E85 ได้โดยที่แรงม้าและแรงบิดไม่ตก ให้ความเร้าใจเหมือนใช้น้ำมันเบนซิน
ทีเอส โคดาทรอนก้าถูกเผยโฉมครั้งแรกในงาน Top Marques Monaco ในเมืองมอนติคาร์โล พร้อมกับได้รับเลือกจากเดมอน ฮิลล์ แชมป์โลก F1 ในปี 1996 ชาวอังกฤษให้เป็นรถสปอร์ตที่สวยที่สุดในงาน โดยการผลิตจะเริ่มขึ้นในปลายปีนี้ ส่วนราคายังไม่เปิดเผย แต่คาดว่าคงแพงชนิดที่เฉพาะเศรษฐีตัวจริงเท่านั้นถึงจะสัมผัสได้แบบไม่เสียดาย