รถยนต์สายพันธุ์เจเนซิสของฮุนไดไม่เพียงแต่ ‘เป็นครั้งแรก’ ที่แบรนด์เกาหลีพยายามพัฒนารถยนต์เพื่อเทียบชั้นกับความหรูจากเยอรมนีเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทางด้านภาพ ลักษณ์อีกครั้งของฮุนได จากรถยนต์ราคาประหยัดที่เปี่ยมด้วยคุณภาพมาสู่ความหรูที่ถ้าเกาหลีคิดจะทำ ก็ทำได้แบบทัดเทียมกับคนอื่น
แน่นอนตัวถังซีดานเปิดตัวออกมาแล้วเมื่อต้นปี 2008 พร้อมกับเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย แต่ก็ยังน้อยไปถนัดใจเมื่อเปรียบเทียบกับกระแสถัดมา ซึ่งฮุนไดเปิดโปรเจ็กต์ที่ 2 จากสายพันธุ์เจเนซิสด้วยตัวถังสปอร์ตคูเป้ 2 ประตูที่เร้าใจด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และเครื่องยนต์ทรงสมรรถนะ 300 แรงม้าอัพ
เจเนซิส คูเป้เผยโฉมครั้งแรกในฐานะรถยนต์ต้นแบบที่ทีมงานฮุนไดแห่งสหรัฐอเมริกาซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่เมืองออเรนจ์ เคาน์ตี้ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย พัฒนาขึ้นมาเพื่อจัดแสดงในแอลเอ มอเตอร์โชว์ ปลายปี 2007 และใช้เวลาไม่นานในการกลายเป็นผลผลิตจริงที่สัมผัสได้ เพราะฮุนไดเพิ่งนำออกอวดโฉมในนิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ 2008 ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
โปรเจ็กต์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาเพื่อคนอเมริกันเพียงกลุ่มเดียว แม้ว่าจะเปิดตัวครั้งแรกที่นี่ก็ตาม เพราะฮุนไดตั้งใจจะนำ ‘ผลลิตครั้งแรกของตัวเองที่ก้าวขาข้ามมายังดินแดนแห่งซูเปอร์คาร์’ ทำตลาดทั่วโลก และแน่นอนว่า เป็นพี่ใหญ่ที่ทำตลาดเหนือกว่าทิบูรอน หรือคูเป้ ซึ่งเป็นสปอร์ตรุ่นเดียวของฮุนไดที่มีอยู่ในตลาดตอนนี้
การพัฒนาของตัวถังอยู่บนพื้นตัวถังแบบเครื่องยนต์วางด้านหน้า และขับเคลื่อนล้อหลัง โดยปรับปรุงมาจากพื้นตัวถังของเจเนซิสรุ่นซีดานด้วยการหั่นระยะฐานล้อให้สั้นลงอีก 116 มิลลิเมตรลงมาอยู่ที่ 2,820 มิลลิเมตร
รายละเอียดของตัวถังแม้ว่าจะมี้เส้นสายและภาพรวมดูคล้ายกับทิบูรอน แต่เป็นการออกแบบใหม่หมดภายใต้การควบคุมของทีมงานฮุนไดในเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาภายใต้รูปแบบสปอร์ตคูเป้ 2+2 ที่นั่ง ซึ่งตัวถังมีความยาว 4,630 มิลลิเมตร กว้าง 1,865 มิลลิเมตร สูง 1,380 มิลลิเมตร พร้อมกับเสริมหล่อด้วยล้อแม็กจาก 18 หรือ 19 นิ้วจากโรงงานแล้วแต่รุ่นเครื่องยนต์
แม้จะบอกว่านี่คือซูเปอร์คาร์ แต่ฮุนไดก็ยังไม่ลืมผลิตเวอร์ชันราคาประหยัดสำหรับเอาใจลูกค้าที่งบฯ น้อย เพราะจริงอยู่ที่รุ่นท็อปจะแรงและเร้าใจด้วยเครื่องยนต์วี6 ทวินแคม 3,800 ซีซีบล็อกใหม่ ที่มีกำลังสูงสุด 310 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 36.3 กก.-ม. ที่ 4,700 รอบ/นาที พร้มอัตราเร่งจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมงต่ำกว่า 6 วินาที แต่ก็ยังมีเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 2,000 ซีซี เทอร์โบมาให้เลือกใช้
ในรุ่น 4 สูบมีกำลังขับเคลื่อน 223 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 29.9 กก.-ก. ที่ 2,500 รอบ/นาทีจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ หรือธรรมดา 6 จังหวะ ส่วนรุ่นวี6 ไม่ว่าจะเป็นเกียร์แบบไหนก็มี 6 จังหวะเท่ากัน ส่วนความเร็วปลายในรุ่น 4 สูบอยู่ที่ 220 กิโลเมตร/ชั่วโมง และ 240 กิโลเมตร/ชั่วโมงสำหรับรุ่นวี6
ระบบกันสะเทือนหน้าและหลังยังอิงอยู่บนพื้นฐานของรุ่นซีดาน ด้านหน้าเป็นแม็กเฟอร์สันสตรัต และด้านหลังแบบมัลติลิงก์ยึด 5 จุด โดยข่าวที่ออกมาก่อนหน้านั้นว่าจะมีระบบช่วงล่างแบบปรับระดับได้มาให้เป็นออพชั่นกลายเป็นข่าวลือไปชั่วครู่ เพราะว่าฮุนไดเผยรายละเอียดออกมาในระลอกแรกโดยที่ไม่มีรายชื่อของระบบนี้อยู่ในแคตาล็อค ส่วนจะตามมาในภายหลังหรือไม่นั้นก็ยังไม่มีการเปิดเผย
การทำตลาดของเจเนซิส คูเป้จะเริ่มในเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาปลายปีนี้ หรืออย่างช้าไม่เกินต้นปีหน้า ส่วนตลาดยุโรปจะเริ่มทยอยขายในเดือนมีนาคม 2009 ทั้งรุ่นพวงมาลัยซ้ายและขวา ส่วนราคาแม้ว่าจะยังไม่เผิดเผย แต่ว่ากันว่าในรุ่น 2.0t จะไม่เกิน 20,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 660,000 บาท แต่ถ้าเป็นรุ่นวี6 จะขยับขึ้นไปเป็น 26,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 858,000 บาท ใกล้เคียงกับราคาของมัสแตง สปอร์ตสำหรับคนงบฯ น้อยจากค่ายฟอร์ด
แน่นอนตัวถังซีดานเปิดตัวออกมาแล้วเมื่อต้นปี 2008 พร้อมกับเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย แต่ก็ยังน้อยไปถนัดใจเมื่อเปรียบเทียบกับกระแสถัดมา ซึ่งฮุนไดเปิดโปรเจ็กต์ที่ 2 จากสายพันธุ์เจเนซิสด้วยตัวถังสปอร์ตคูเป้ 2 ประตูที่เร้าใจด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และเครื่องยนต์ทรงสมรรถนะ 300 แรงม้าอัพ
เจเนซิส คูเป้เผยโฉมครั้งแรกในฐานะรถยนต์ต้นแบบที่ทีมงานฮุนไดแห่งสหรัฐอเมริกาซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่เมืองออเรนจ์ เคาน์ตี้ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย พัฒนาขึ้นมาเพื่อจัดแสดงในแอลเอ มอเตอร์โชว์ ปลายปี 2007 และใช้เวลาไม่นานในการกลายเป็นผลผลิตจริงที่สัมผัสได้ เพราะฮุนไดเพิ่งนำออกอวดโฉมในนิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ 2008 ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
โปรเจ็กต์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาเพื่อคนอเมริกันเพียงกลุ่มเดียว แม้ว่าจะเปิดตัวครั้งแรกที่นี่ก็ตาม เพราะฮุนไดตั้งใจจะนำ ‘ผลลิตครั้งแรกของตัวเองที่ก้าวขาข้ามมายังดินแดนแห่งซูเปอร์คาร์’ ทำตลาดทั่วโลก และแน่นอนว่า เป็นพี่ใหญ่ที่ทำตลาดเหนือกว่าทิบูรอน หรือคูเป้ ซึ่งเป็นสปอร์ตรุ่นเดียวของฮุนไดที่มีอยู่ในตลาดตอนนี้
การพัฒนาของตัวถังอยู่บนพื้นตัวถังแบบเครื่องยนต์วางด้านหน้า และขับเคลื่อนล้อหลัง โดยปรับปรุงมาจากพื้นตัวถังของเจเนซิสรุ่นซีดานด้วยการหั่นระยะฐานล้อให้สั้นลงอีก 116 มิลลิเมตรลงมาอยู่ที่ 2,820 มิลลิเมตร
รายละเอียดของตัวถังแม้ว่าจะมี้เส้นสายและภาพรวมดูคล้ายกับทิบูรอน แต่เป็นการออกแบบใหม่หมดภายใต้การควบคุมของทีมงานฮุนไดในเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาภายใต้รูปแบบสปอร์ตคูเป้ 2+2 ที่นั่ง ซึ่งตัวถังมีความยาว 4,630 มิลลิเมตร กว้าง 1,865 มิลลิเมตร สูง 1,380 มิลลิเมตร พร้อมกับเสริมหล่อด้วยล้อแม็กจาก 18 หรือ 19 นิ้วจากโรงงานแล้วแต่รุ่นเครื่องยนต์
แม้จะบอกว่านี่คือซูเปอร์คาร์ แต่ฮุนไดก็ยังไม่ลืมผลิตเวอร์ชันราคาประหยัดสำหรับเอาใจลูกค้าที่งบฯ น้อย เพราะจริงอยู่ที่รุ่นท็อปจะแรงและเร้าใจด้วยเครื่องยนต์วี6 ทวินแคม 3,800 ซีซีบล็อกใหม่ ที่มีกำลังสูงสุด 310 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 36.3 กก.-ม. ที่ 4,700 รอบ/นาที พร้มอัตราเร่งจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมงต่ำกว่า 6 วินาที แต่ก็ยังมีเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 2,000 ซีซี เทอร์โบมาให้เลือกใช้
ในรุ่น 4 สูบมีกำลังขับเคลื่อน 223 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 29.9 กก.-ก. ที่ 2,500 รอบ/นาทีจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ หรือธรรมดา 6 จังหวะ ส่วนรุ่นวี6 ไม่ว่าจะเป็นเกียร์แบบไหนก็มี 6 จังหวะเท่ากัน ส่วนความเร็วปลายในรุ่น 4 สูบอยู่ที่ 220 กิโลเมตร/ชั่วโมง และ 240 กิโลเมตร/ชั่วโมงสำหรับรุ่นวี6
ระบบกันสะเทือนหน้าและหลังยังอิงอยู่บนพื้นฐานของรุ่นซีดาน ด้านหน้าเป็นแม็กเฟอร์สันสตรัต และด้านหลังแบบมัลติลิงก์ยึด 5 จุด โดยข่าวที่ออกมาก่อนหน้านั้นว่าจะมีระบบช่วงล่างแบบปรับระดับได้มาให้เป็นออพชั่นกลายเป็นข่าวลือไปชั่วครู่ เพราะว่าฮุนไดเผยรายละเอียดออกมาในระลอกแรกโดยที่ไม่มีรายชื่อของระบบนี้อยู่ในแคตาล็อค ส่วนจะตามมาในภายหลังหรือไม่นั้นก็ยังไม่มีการเปิดเผย
การทำตลาดของเจเนซิส คูเป้จะเริ่มในเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาปลายปีนี้ หรืออย่างช้าไม่เกินต้นปีหน้า ส่วนตลาดยุโรปจะเริ่มทยอยขายในเดือนมีนาคม 2009 ทั้งรุ่นพวงมาลัยซ้ายและขวา ส่วนราคาแม้ว่าจะยังไม่เผิดเผย แต่ว่ากันว่าในรุ่น 2.0t จะไม่เกิน 20,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 660,000 บาท แต่ถ้าเป็นรุ่นวี6 จะขยับขึ้นไปเป็น 26,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 858,000 บาท ใกล้เคียงกับราคาของมัสแตง สปอร์ตสำหรับคนงบฯ น้อยจากค่ายฟอร์ด