ข่าวต่างประเทศ - ฮอนด้า มอเตอร์สประกาศเตรียมลดกำลังการผลิตรถยนต์ของโรงงานในอเมริกาเหนืออีกรอบหลังเกิดวิกฤตด้านเศรษฐกิจซึ่งส่งผลกระทบกันถ้วนหน้า อีกทั้งยังขอทบทวนโปรเจ็กต์ในการนำเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลสุดไฮเทคเข้ามาเปิดตลาดเมืองลุงแซม เพราะมีแนวโน้มว่าราคาของน้ำมันดีเซลในสหรัฐอเมริกาจะแพงกว่าน้ำมันเบนซิน ถึงแม้ว่ารถยนต์ประเภทนี้จะมีจุดเด่นในเรื่องความประหยัดน้ำมันมากกว่าก็ตาม
ปีธุรกิจนี้จะสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2009 ฮอนด้าประกาศปรับลดกำลังการผลิตรถยนต์ในตลาดอเมริกาเหนือจากเดิม 1.47 ล้านคันเหลือเพียง 1.29 ล้านคัน ซึ่งเท่ากับว่าโรงงานในอเมริกาเหนือทั้งสหรัฐอเมริกา, แคนาดา และเม็กซิโกจะลดกำลังการผลิตช่วง 3 เดือนที่เหลือก่อนครบปีธุรกิจถึงเกือบ 119,000 คันเลยทีเดียว
สำหรับตลาดเครื่องยนต์ดีเซลในสหรัฐอเมริกาที่ดูเหมือนว่ามีแนวโน้มที่สดใสช่วงแรกของปี 2008 กลับกลายเป็นว่าตอนนี้สร้างปัญหาให้กับฮอนด้าแล้ว เมื่อราคาน้ำมันดีเซลในอนาคตมีแนวโน้มว่าจะแพงจากเบนซินค่อนข้างมากจนส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของลูกค้า ซึ่งปัจจุบัน ราคาน้ำมันดีเซลในตลาดแพงกว่าเบนซินประมาณ 40-50%
"ตอนนี้เราต้องประเมินและทบทวนถึงโครงการนี้กันใหม่ เพราะว่าปัจจุบัน ราคาน้ำมันดีเซลก็แพงกว่าเบนซินอยู่แล้ว แต่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต อีกทั้งเครื่องยนต์ดีเซลเองยังจะต้องติดตั้งอุปกรณ์บำบัดไอเสียเพื่อให้มีมลพิษที่ต่ำ ซึ่งต้นทุนตรงนี้ก็มีแนวโน้มว่าจะแพงขึ้นด้วยเช่นกัน และส่งผลกระทบทั้งเรื่องต้นทุนที่จะเอื้อประโยชน์ในการตั้งราคาขายและค่าใช้จ่ายระหว่างการใช้งาน"โฆษกของฮอนด้ากล่าว
ตอนแรกฮอนด้าวางแผนนำเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลแบบ 4 สูบที่ได้รับการพัฒนาเพื่อใช้กับโมเดลที่อยู่ในยุโรปมาใช้กับรถยนต์แบรนด์อาคูราภายในปี 2009 และจากนั้นก็จะมีเครื่องยนต์แบบวี6 ตามออกมาอีก เพื่อใช้กับเอสยูวีและมินิแวน แต่จากการที่เกิดปัญหานี้ ทำให้มีแนวโน้มว่าคนอเมริกันอาจจะหมดสิทธิ์สัมผัสกับเทคโนโลยีดีเซลของฮอนด้า
ปีธุรกิจนี้จะสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2009 ฮอนด้าประกาศปรับลดกำลังการผลิตรถยนต์ในตลาดอเมริกาเหนือจากเดิม 1.47 ล้านคันเหลือเพียง 1.29 ล้านคัน ซึ่งเท่ากับว่าโรงงานในอเมริกาเหนือทั้งสหรัฐอเมริกา, แคนาดา และเม็กซิโกจะลดกำลังการผลิตช่วง 3 เดือนที่เหลือก่อนครบปีธุรกิจถึงเกือบ 119,000 คันเลยทีเดียว
สำหรับตลาดเครื่องยนต์ดีเซลในสหรัฐอเมริกาที่ดูเหมือนว่ามีแนวโน้มที่สดใสช่วงแรกของปี 2008 กลับกลายเป็นว่าตอนนี้สร้างปัญหาให้กับฮอนด้าแล้ว เมื่อราคาน้ำมันดีเซลในอนาคตมีแนวโน้มว่าจะแพงจากเบนซินค่อนข้างมากจนส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของลูกค้า ซึ่งปัจจุบัน ราคาน้ำมันดีเซลในตลาดแพงกว่าเบนซินประมาณ 40-50%
"ตอนนี้เราต้องประเมินและทบทวนถึงโครงการนี้กันใหม่ เพราะว่าปัจจุบัน ราคาน้ำมันดีเซลก็แพงกว่าเบนซินอยู่แล้ว แต่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต อีกทั้งเครื่องยนต์ดีเซลเองยังจะต้องติดตั้งอุปกรณ์บำบัดไอเสียเพื่อให้มีมลพิษที่ต่ำ ซึ่งต้นทุนตรงนี้ก็มีแนวโน้มว่าจะแพงขึ้นด้วยเช่นกัน และส่งผลกระทบทั้งเรื่องต้นทุนที่จะเอื้อประโยชน์ในการตั้งราคาขายและค่าใช้จ่ายระหว่างการใช้งาน"โฆษกของฮอนด้ากล่าว
ตอนแรกฮอนด้าวางแผนนำเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลแบบ 4 สูบที่ได้รับการพัฒนาเพื่อใช้กับโมเดลที่อยู่ในยุโรปมาใช้กับรถยนต์แบรนด์อาคูราภายในปี 2009 และจากนั้นก็จะมีเครื่องยนต์แบบวี6 ตามออกมาอีก เพื่อใช้กับเอสยูวีและมินิแวน แต่จากการที่เกิดปัญหานี้ ทำให้มีแนวโน้มว่าคนอเมริกันอาจจะหมดสิทธิ์สัมผัสกับเทคโนโลยีดีเซลของฮอนด้า