เพื่อรับมือกับคู่แข่งจากฝั่งเยอรมนีทั้งบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3, ออดี้ เอ4 และเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาสที่มีความสดใหม่กว่า ทางด้านเล็กซัส แบรนด์ระดับหรูของโตโยต้าจัดการเพิ่มความสดใหม่ให้กับรถยนต์ขนาดคอมแพ็กต์ระดับหรูสายพันธุ์ IS ด้วยการไมเนอร์เชนจ์หรือปรับโฉม โดยเปิดตัวและทำตลาดแล้วในสหรัฐอเมริกา ก่อนเริ่มทยอยรุกตลาดในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก รวมถึงเมืองไทย
IS เป็นรถยนต์ที่เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นคู่ปรับเดียวกับรถยนต์ระดับหรูขนาดคอมแพ็กต์ของแบรนด์เยอรมัน รุ่นแรกเปิดตัวออกมาในปี 1999 และยึดคอนเซ็ปต์ดั้งเดิมของเล็กซัส คือ การนำรถยนต์ของโตโยต้าที่มีขายเฉพาะในญี่ปุ่นมาตีตราและเปลี่ยนชื่อรุ่นใหม่ ซึ่งในกรณีของ IS คือ เป็นคันเดียวกับโตโยต้า อัลเทสซ่า
แต่สำหรับรุ่นใหม่แนวคิดนี้เปลี่ยนไป เพราะว่ารถยนต์ของเล็กซัสรุ่นใหม่ๆ ที่ถูกส่งกลับมาบุกญี่ปุ่นจะไม่ได้หยิบยืมรถยนต์ของโตโยต้ามาเปลี่ยนโลโก้ขายอีกต่อไปแล้ว ซึ่งนั่นก็ทำให้รถยนต์ของโตโยต้าที่เดิมทีถูกใช้ขายผ่านแบรนด์เล็กซัสด้วยต่างเลิกทำตลาดเมื่อถึงเวลาที่ต้องมีการเปลี่ยนโฉม เช่น โตโยต้า อริสโต้ (GS) หรือเซลซิเออร์ (LS)
ทั้งนี้ก็เพราะเล็กซัสหันมาเปิดตลาดญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2005 ทำให้ต้องยกเลิกแนวคิดในการพัฒนารถยนต์รูปแบบนี้ไป เพราะจะทำให้เกิดความเสียเปรียบเวลาที่ต้องแข่งขันกับแบรนด์หรูจากแดนไส้กรอกในบ้านตัวเอง
สำหรับการปรับโฉมในครั้งนี้ IS มาพร้อมกับการเพิ่มความดุดันทั้งด้านหน้าและหลังด้วยกันชนหน้า กระจังหน้าลายใหม่ ส่วนด้านท้ายออกแบบไฟท้ายใหม่ให้แตกต่างจากเวอร์ชันแรกที่เปิดตัวในปี 2005 อย่างชัดเจน
เครื่องยนต์สำหรับทำตลาดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นกลุ่มหลักยังมี 2 แบบในรุ่น IS250 และ IS350 ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินไดเร็กต์อินเจ็กชัน วี6 2,500 และ 3,500 ซีซีในรหัส 4GR-FSE และ 2GR-FSE ซึ่งมีกำลังขับเคลื่อน 204 และ 306 แรงม้าเหมือนเดิม มีทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลังและ 4 ล้อตลอดเวลาพร้อมเกียร์ธรรมดาหรืออัตโนมัติ 6 จังหวะ
ส่วนในยุโรปนอกจากรุ่น IS250 แล้ว ก็มีอีกทางเลือกเป็นรุ่นเทอร์โบดีเซลซึ่งเป็นรหัส IS220D กับเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,200 ซีซี 175 แรงม้า ที่ให้ทั้งความประหยัดน้ำมันและมีระดับมลพิษในไอเสียต่ำ สำหรับในบางตลาด เช่น เอเชีย ตะวันออกกลาง ฮ่องกง ไต้หวัน รวมถึงประเทศไทย จะมีอีกทางเลือกเป็นรุ่น IS300 กับเครื่องยนต์วี6 รหัส 3GR-FE แบบไม่มีระบบไดเร็กต์อินเจ็กชัน 228 แรงม้าขายควบคู่กับรุ่น IS250 ด้วย
ในสหรัฐอเมริกา รุ่นปรับโฉมเริ่มทำตลาดแล้วกับราคาเริ่มต้น 31,555 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.04 ล้านบาท ส่วนยุโรปจะเปิดตัวที่ปารีสนี้พร้อมกับเผยโฉมรุ่นเปิดประทุนของ IS250 ออกมาด้วย ซึ่งก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะโฉบเฉี่ยวมากน้อยแค่ไหน สำหรับเมืองไทยแว่วๆว่า TMT เตรียมเปิดตัว(รุ่นซีดาน)ปลายปีนี้เช่นกัน
IS เป็นรถยนต์ที่เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นคู่ปรับเดียวกับรถยนต์ระดับหรูขนาดคอมแพ็กต์ของแบรนด์เยอรมัน รุ่นแรกเปิดตัวออกมาในปี 1999 และยึดคอนเซ็ปต์ดั้งเดิมของเล็กซัส คือ การนำรถยนต์ของโตโยต้าที่มีขายเฉพาะในญี่ปุ่นมาตีตราและเปลี่ยนชื่อรุ่นใหม่ ซึ่งในกรณีของ IS คือ เป็นคันเดียวกับโตโยต้า อัลเทสซ่า
แต่สำหรับรุ่นใหม่แนวคิดนี้เปลี่ยนไป เพราะว่ารถยนต์ของเล็กซัสรุ่นใหม่ๆ ที่ถูกส่งกลับมาบุกญี่ปุ่นจะไม่ได้หยิบยืมรถยนต์ของโตโยต้ามาเปลี่ยนโลโก้ขายอีกต่อไปแล้ว ซึ่งนั่นก็ทำให้รถยนต์ของโตโยต้าที่เดิมทีถูกใช้ขายผ่านแบรนด์เล็กซัสด้วยต่างเลิกทำตลาดเมื่อถึงเวลาที่ต้องมีการเปลี่ยนโฉม เช่น โตโยต้า อริสโต้ (GS) หรือเซลซิเออร์ (LS)
ทั้งนี้ก็เพราะเล็กซัสหันมาเปิดตลาดญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2005 ทำให้ต้องยกเลิกแนวคิดในการพัฒนารถยนต์รูปแบบนี้ไป เพราะจะทำให้เกิดความเสียเปรียบเวลาที่ต้องแข่งขันกับแบรนด์หรูจากแดนไส้กรอกในบ้านตัวเอง
สำหรับการปรับโฉมในครั้งนี้ IS มาพร้อมกับการเพิ่มความดุดันทั้งด้านหน้าและหลังด้วยกันชนหน้า กระจังหน้าลายใหม่ ส่วนด้านท้ายออกแบบไฟท้ายใหม่ให้แตกต่างจากเวอร์ชันแรกที่เปิดตัวในปี 2005 อย่างชัดเจน
เครื่องยนต์สำหรับทำตลาดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นกลุ่มหลักยังมี 2 แบบในรุ่น IS250 และ IS350 ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินไดเร็กต์อินเจ็กชัน วี6 2,500 และ 3,500 ซีซีในรหัส 4GR-FSE และ 2GR-FSE ซึ่งมีกำลังขับเคลื่อน 204 และ 306 แรงม้าเหมือนเดิม มีทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลังและ 4 ล้อตลอดเวลาพร้อมเกียร์ธรรมดาหรืออัตโนมัติ 6 จังหวะ
ส่วนในยุโรปนอกจากรุ่น IS250 แล้ว ก็มีอีกทางเลือกเป็นรุ่นเทอร์โบดีเซลซึ่งเป็นรหัส IS220D กับเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,200 ซีซี 175 แรงม้า ที่ให้ทั้งความประหยัดน้ำมันและมีระดับมลพิษในไอเสียต่ำ สำหรับในบางตลาด เช่น เอเชีย ตะวันออกกลาง ฮ่องกง ไต้หวัน รวมถึงประเทศไทย จะมีอีกทางเลือกเป็นรุ่น IS300 กับเครื่องยนต์วี6 รหัส 3GR-FE แบบไม่มีระบบไดเร็กต์อินเจ็กชัน 228 แรงม้าขายควบคู่กับรุ่น IS250 ด้วย
ในสหรัฐอเมริกา รุ่นปรับโฉมเริ่มทำตลาดแล้วกับราคาเริ่มต้น 31,555 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.04 ล้านบาท ส่วนยุโรปจะเปิดตัวที่ปารีสนี้พร้อมกับเผยโฉมรุ่นเปิดประทุนของ IS250 ออกมาด้วย ซึ่งก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะโฉบเฉี่ยวมากน้อยแค่ไหน สำหรับเมืองไทยแว่วๆว่า TMT เตรียมเปิดตัว(รุ่นซีดาน)ปลายปีนี้เช่นกัน