xs
xsm
sm
md
lg

สำรวจรถใหม่ปลายปี(1)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ช่วงนี้ความเคลื่อนไหวในตลาดรถยนต์ทั่วโลกมีอะไรใหม่ๆ ออกมาให้ติดตามอย่างต่อเนื่อง เพราะเสร็จสิ้นงานโชว์ที่เพิ่งขึ้นชั้นมาอยู่ในความสนใจของบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกอย่างมอสโคว มอเตอร์โชว์แล้ว ก็ยังมีอีก 2 งาน คือ ปารีส มอเตอร์โชว์และแอลเอ มอเตอร์โชว์ จ่อคิวรอเป็นเวทีสำหรับเปิดตัวผลผลิตรุ่นใหม่ๆ ในช่วงเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน ผู้ผลิตรถยนต์ก็เลยขยันกันเป็นพิเศษ มีของใหม่มาให้ติดตามกันเพียบ ส่วนจะมีอะไรบ้าง ลองมาดูกัน
ฮุนไดเจาะตลาดซับคอมแพ็กต์ในยุโรปครั้งใหม่ด้วยรุ่น i20
ฮุนได : รุกตลาดอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากเปลี่ยนใจนำเอสยูวีรุ่นเวอราครูซซึ่งเป็นผลผลิตที่ในตอนแรกตั้งใจว่าจะผลิตขายเฉพาะในอเมริกาเหนือและในบ้านตัวเองมาส่งขายในยุโรปด้วยชื่อ i55 แล้ว ฮุนไดยังมีรถยนต์อีกรุ่นเตรียมเปิดตัวเพื่อจับตลาดซับคอมแพ็กต์ หรือ B-Segment

รถยนต์รุ่นใหม่จะใช้ชื่อ i20 ซึ่งจะขายในยุโรปแทรกกลางระหว่าง i10 สำหรับตลาดซูเปอร์มินิ หรือ A-Segment และ i30 สำหรับตลาดคอมแพ็กต์ หรือ B-Segment โดย i20 เป็นผลผลิตใหม่ที่มาจากการสร้างสรรค์โดยศูนย์ออกแบบของฮุนไดยุโรปที่ตั้งอยู่ในเมืองรุสเซลไฮม์ ประเทศเยอรมนี

ตัวถังมาในแบบ 5 ประตูที่มีความยาวและระยะฐานล้อมากกว่ารุ่นเก็ตซ์ ซึ่งเป็นผลผลิตดั้งเดิมที่ฮุนไดส่งขายอยู่ในตลาดยุโรป ขณะที่รูปลักษณ์ออกแบบได้อย่างสวยและล้ำสมัยภายใต้รูปแบบของตัวถังที่เน้นความอเนกประสงค์เหมือนกับฮอนด้า ฟิต/แจ๊ซ

ส่วนรายละเอียดของเครื่องยนต์ยังไม่เปิดเผย นอกจากบอกว่ารุ่นต้นแบบที่ชื่อ i20 i-Blue Concept ที่พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับรุ่นจำหน่ายจริงจะใช้เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลรุ่นประหยัดและมลพิษต่ำ 1,400 ซีซี 90 แรงม้า ที่มีระดับการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสียเพียง 99 กรัมต่อ 1 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเครื่องยนต์บล็อกนี้จะนำมาวางในรุ่นจำหน่ายจริงหรือเปล่า
ในสหรัฐอเมริกามีขายมาหลายเดือนแล้วภายใต้ชื่ออาคูรา อาร์แอล ส่วนในตลาดโลก ฮอนด้าเพิ่งจะเปิดตัวรุ่นปรับโฉมหรือไมเนอร์เชนจ์ของลีเจนด์ออกมาในงานมอสโคว์ มอเตอร์โชว์ และจะเริ่มขายปลายปีนี้
ฮอนด้า : ในขณะที่ซีวิคปรับโฉมในสหรัฐอเมริกาแล้ว และเวอร์ชันญี่ปุ่นก็มีภาพแคตาล็อกหลุดออกมาให้รับทราบกันแล้วตามหน้าอินเตอร์เนต แต่ฮอนด้าก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เกี่ยวกับซีวิค ไมเนอร์เชนจ์สำหรับตลาดยุโรปและญี่ปุ่นออกมาในตอนนี้ และยกหน้าที่ในการกระตุ้นตลาดให้กับซีดานไซส์ใหญ่อย่างลีเจนด์

ถือเป็นการปรับโฉมตามตลาดสหรัฐอเมริกา ที่จัดการส่งขายในชื่ออาร์แอลผ่านทางแบรนด์อาคูรา โดยจุดที่ต่างจากอาร์แอลแบบสังเกตได้ชัดเจน คือ ลายกระจังหน้า ซึ่งลีเจนด์เปลี่ยนมาใช้แบบซี่วางตัวในแนวนอน พร้อมเครื่องยนต์วี6 ที่ผ่านการเพิ่มความจุอีก 200 ซีซีสวนกระแสราคาน้ำมัน ขยับขึ้นมาเป็น 3,700 ซีซี พร้อมระบบ VTEC ที่แม้ว่าจะเป็นแบบแคมเดี่ยว SOHC แต่ก็มีการควบคุมการทำงานของวาล์วฝั่งไอเสียเพิ่มขึ้นมาด้วย และปรับอัตราส่วนการอัดขยับขึ้นมาเป็น 11.2 : 1


ผลคือทำให้มีกำลังสูงสุดขยับขึ้นมาเป็น 300 แรงม้า ที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 37.4 กก.-ม. ที่ 5,000 รอบ/นาที ซึ่งฮอนด้าเผยว่าแรงบิดในช่วงรอบเครื่องยนต์ปานกลางมีเพิ่มขึ้นจากเครื่องยนต์รุ่นเดิมถึง 20% และเมื่อจับคู่ในการส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะแบบ SH-AWD แล้ว มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงดีขึ้นจากรุ่นเดิม 0.2 วินาทีเป็น 7.0 วินาที

ฝั่งอเมริกามีขายแล้วตั้งแต่กลางปี ส่วนญี่ปุ่นและยุโรปซึ่งจะขายในชื่อลีเจนด์ผ่านแบรนด์ฮอนด้าต้องรออีกสักระยะ และคาดว่าน่าจะเริ่มวางขายภายในปลายปีนี้
ดูแล้วหน้าตาคุ้นมากสำหรับการปัดฝุ่นนำชื่อซาฟรานกลับมาขายใหม่ เพราะเรโนลต์นำนิสสัน เทียนารุ่นแรกมาแปลงหน้าตาใหม่ แต่ยังดีที่ส่งขายเฉพาะในประเทศแถบตะวันออกกลางและยุโรปตะวันออก
เรโนลต์ : ชื่อของ ซาฟราน รถยนต์ระดับหรูของเรโนลต์ถูกปลุกให้คืนชีพอีกครั้งหลังจากสูญพันธุ์ไปจากตลาดแล้วเมื่อปี 2000 เพื่อเปิดทางให้สายพันธุ์ใหม่อย่างเวลซาติส แต่ดูเหมือนว่าการเข้ามาของทางเลือกใหม่กลับไม่ได้ช่วยกระตุ้นความสนใจของลูกค้าได้มากเท่าไร และของใหม่ก็ใช่ว่าจะขายดี

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เรโนลต์ปัดฝุ่นนำชื่อซาฟรานกลับมาอีกครั้งพร้อมกับกลยุทธ์ที่เปลี่ยนไป เพราะว่าซาฟรานใหม่จะถูกส่งเข้าไปเจาะตลาดรถยนต์ในประเทศยุโรปตะวันออกและกลุ่มตะวันออกกลาง ด้วยวิธีที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม เนื่องจากอาศัยรถยนต์ของพันธมิตรที่มีอยู่แล้วมาแต่งหน้าทาปากใหม่

มองแค่หน้าตาก็ทราบได้ทันทีว่า ซาฟรานใหม่ คือ การนำนิสสัน เทียนารุ่นแรกมาปรับเปลี่ยนหน้าตาและส่งขาย แต่ครั้นจะอาศัยความช่วยเหลือจากนิสสันโดยตรงก็ทำไม่ได้ เพราะเทียนารุ่นแรกในไลน์ผลิตของนิสสันถูกปิดไปแล้วเพื่อเปิดทางให้กับรุ่นใหม่ที่เปิดตัวในญี่ปุ่นและจีน

ดังนั้น เรโนลต์ก็เลยต้องหันไปพึ่งทางด้านซัมซุง ซึ่งตามปกติแล้วมักจะนำรถยนต์รุ่นต่างๆ ของนิสสันมายำหน้าตาและส่งขายในเกาหลีใต้ผ่านแบรนด์ของตัวเอง และทางเรโนลต์ถือหุ้นในบริษัทแห่งนี้ถึง 80.1% ทุกอย่างก็เลยเป็นเรื่องง่าย

ซาฟรานใหม่จะขึ้นไลน์ผลิตที่โรงงานในเมืองปูซานของซัมซุงโดยอยู่ในไลน์ผลิตเดียวกับรุ่น SM5 หรือนิสสัน เทียนารุ่นเก่า จากนั้นจะมีการส่งออกมาทำตลาดตามที่ระบุอยู่ข้างบน
กำลังโหลดความคิดเห็น