xs
xsm
sm
md
lg

Ford Focus RS แรงสุดขั้วจากสนามแข่ง WRC

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นอกจากรหัส ST แล้ว ฟอร์ดยังมีอีกทางเลือกแห่งการขับเคลื่อนที่เร้าใจแบบสุดขั้วสำหรับใช้ในการทำตลาดอีกด้วย ซึ่งใครที่เป็นแฟนผลผลิตจากฟอร์ดฝั่งยุโรปตัวยงคงรู้จักกับรหัส RS กันเป็นอย่างดี ซึ่งที่ผ่านมารหัสนี้อาจถูกใช้กับรถยนต์หลายรุ่นหลายสายพันธุ์ แต่ในปัจจุบันรหัส RS ถูกใช้กับรถยนต์ตระกูลโฟกัสเป็นหลัก ซึ่งในตอนนี้โฟกัส อาร์เอสใหม่ได้ถูกเผยโฉมต้นแบบออกมาแล้ว และพร้อมขายในช่วงต้นปีหน้า

อาร์เอส เป็นรหัสที่ถูกใช้มานานตั้งแต่ทศวรรษที่ 1970 โดยใช้เทคโนโลยีจากสนามแข่งมาพัฒนาสู่การใช้งานบนถนน แม้ว่าชื่อย่อจะมาจาก Rally Sports แต่รถยนต์ที่แปะโลโก้ RS ก็มีทั้งรุ่นเอสคอร์ต, คาปรี, เซียร์รา และเฟียสตา ซึ่งถูกใช้ในการแข่งขันแรลลี่ และทางเรียบอย่างทัวริงคาร์ในช่วงทศวรรษที่ 1970-1990

ก่อนที่ฟอร์ด ยุโรปจะหันมาเน้นกับการแข่งทางฝุ่นรายการแรลลี่โลกมากขึ้นตลอดทศวรรษที่ 1990 ทำให้ RS กลายเป็นตัวแรงที่ได้รับการพัฒนาจากเทคโนโลยีของสนามแข่งแรลลี่โลก และเมื่อโฟกัสเปิดตัวออกมา ก็กลายเป็นรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับมอเตอร์สปอร์ตประเภทนี้โดยตรง เพราะว่าฟอร์ดใช้เป็นตัวแข่งแทนที่รุ่นเอสคอร์ตมาโดยตลอดนับจากปลายทศวรรษที่ 1990

ในโฟกัสรุ่นที่แล้ว ฟอร์ดส่งรหัสอาร์เอสออกมาวาดลวดลายในตลาดเมื่อปี 2002 และได้รับความตอบรับที่ดีจากลูกค้า ซึ่งแม้ว่าหน้าตาจะดูแล้วไม่ต่างจากโฟกัสรุ่นธรรมดามาก แต่กับความเร้าใจระดับ 200 แรงม้าของเครื่องยนต์เทอร์โบบวกกับการอัพเกรดภายในแบบสุดสปอร์ต ทำให้ถูกใจนักซิ่งในยุโรปอย่างมาก จนทำให้ฟอร์ดต้องคลอดเวอร์ชันที่ 2 ของโฟกัส อาร์เอสออกมายั่วน้ำลายเป็นระลอกต่อมา

การพัฒนาของรุ่นใหม่มีขึ้นบนตัวถังแฮทช์แบ็ก 3 ประตูพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ได้รับการอัพเกรดความภายใต้การดูแลของโจสต์ คาปิโต ผู้อำนวยการฝ่ายรถยนต์สมรรถนะสูงที่ทำตลาดยุโรป แน่นอนว่าชิ้นส่วนตัวถังภายนอกได้รับการปรับปรุงและดัดแปลงใหม่ โป่งซุ้มล้อทั้ง 4 ด้านถูกดึงออกเพื่อเพิ่มความดุดันและรองรับกับการขยายความกว้างช่วงล้อหน้าและหลังที่เพิ่มขึ้นประมาณ 40 มิลลิเมตร และล้อแม็กขนาด 19 นิ้วจับคู่กับยางขนาด 235/35ZR19

ฝากระโปรงหน้าเจาะช่องสำหรับระบายอากาศ ขณะที่กันชนหน้าและหลังได้รับการออกแบบใหม่เพื่อความสวยและประโยชน์ใช้สอยทั้งในด้านการระบายอากาศให้อินเตอร์คูลเลอร์ และการสร้างแรงกดให้กับตัวถังขณะที่แล่นด้วยความเร็วสูง ขณะที่ระบบเบรกมีการขยายดิสก์หน้าให้มีขนาด 336 มิลลิเมตร และดิสก์หลังเพิ่มเป็น 300 มิลลิเมตร

ภายในได้รับการเสริมความสวยและสปอร์ตด้วยเบาะนั่งบักเก็ตซีตรุ่นใหม่จาก Recaro โทนสีเดียวกับตัวถัง แผงคอนโซลกลางและแผงหน้าปัดตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์และอะลูมิเนียม เช่นเดียวกับแป้นคลัตช์ เบรก และคันเร่ง
ถ้าถามถึงเอกลักษณ์ของรถยนต์ในรหัส RS คำตอบที่ได้คือ ไม่มีรูปแบบตายตัว

เพราะรถยนต์ที่สวมรหัสนี้มาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1970 มีทั้งแบบเครื่องยนต์วางกลางลำ และด้านหน้าซึ่งใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ล้อหลังไปจนถึง 4 ล้อ เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ก็มีทั้งแบบหายใจเอง หรือ NA และแบบเทอร์โบ โดยในอาร์เอสรุ่นนี้ ฟอร์ดเลือกอัพเกรดต่อเนื่องจากรุ่น ST ด้วยการนำเครื่องยนต์แบบ 5 สูบเรียงมาขยับความเร้าใจ

งานนี้ไม่ได้เป็นแค่การปรับบูสต์เทอร์โบเพื่อเพิ่มความแรง แต่ยังมีการปรับปรุงรายละเอียดของชิ้นส่วนเครื่องยนต์ด้วย เช่น เพิ่มประสิทธิภาพของอินเตอร์คูลเลอร์ ออกแบบแคมชาฟต์และหัวลูกสูบใหม่ เปลี่ยนท่อร่วมทั้งไอดีและไอเสียใหม่เพื่อให้สามารถสร้างพลังในการขับเคลื่อน ทำให้ขุมพลัง 5 สูบ 2,500 ซีซี เทอร์โบจากเดิมมีแรงม้าอยู่ในระดับ 225 ตัวขยับขึ้นมาเป็น 300 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 41.8 กก.-ม. ส่งกำลังสู่ล้อหน้าด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะใช้เวลาต่ำกว่า 6 วินาทีในการทะยานจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง

การกระจายกำลังสู่ล้อหน้าจะมีลิมิเต็ด สลิป หรือ LSD รุ่นใหม่ซึ่งทำหน้าที่ปรับเปลี่ยนการกระจายแรงบิดสู่ล้อฝั่งซ้ายและขวาให้มีความสมดุลเพื่อการยึดเกาะ เพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้งและบังคับควบคุมรถ อีกทั้งยังระบบที่เรียกว่า ‘RevoKnuckle’ ถูกใช้ในระบบช่วงล่าง ซึ่งได้รับการออกแบบให้ลดแรงสั่นสะเทือนและอาการ Torque Steer ซึ่งเกิดขึ้นเวลากดคันเร่งแรงๆ กับรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า

ฟอร์ดวางคิวเปิดตัวโฟกัส อาร์เอสใหม่ในงานบริติช อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ที่ประเทศอังกฤษ ก่อนเริ่มวางขายในต้นปีหน้าทั้งรุ่นพวงมาลัยซ้ายและขวา ส่วนราคาขายยังไม่เปิดเผย แต่เชื่อว่าราคาไม่ถูกแน่ๆ แต่จะแพงกว่ารหัส ST ที่ขายอยู่ในตอนนี้ที่อังกฤษประมาณ 18,000 ปอนด์ หรือ 1.26 ล้านบาทเท่าไร ยังไม่มีใครรู้








กำลังโหลดความคิดเห็น