xs
xsm
sm
md
lg

"ชมพู่ อารยา" นางร้ายป้ายแดง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จากนางเอกวิก 7 สี มาพลิกเป็นนางร้ายสุดเซ็กซี่ ตอนนี้ชื่อของ ชมพู่ - อารยา เอ ฮาร์เก็ต แซงโค้งนางเอกหลายคนแบบตามไม่ทันทีเดียว นอกจากนี้ชีวิตนอกจอของเธอก็กำลังไปได้สวยกับนักแข่งสังกัดทีม โตโยต้า รายการ Vios One Make Race Lady Club จนถึงวันนี้เป็นหลายปีที่ชมพู่พยายามฝึกฝนฝีมือตัวเองจนกระทั่งประสบความสำเร็จขึ้นแท่นเป็นครั้งแรกในอันดับที่ 3 เมื่อปีที่ผ่านมา

ถามถึงการตัดสินใจมาลงแข่งรถนั้น ชมพู่บอกว่าเป็นความบังเอิญมากกว่าเพราะจากการชักชวนของเพื่อนๆมาดูการแข่งรถแล้วลองมาขับดูรู้สึกว่ามีทั้งความสนุกและความตื่นเต้นจนได้รับคำเชิญมาสังกัดทีมโตโยต้า

“จริงๆไม่ได้หวังอะไรมากมาย แต่ถือว่าเป็นโอกาสที่เราไม่ควรปล่อยไปง่ายๆ เพราะว่ารายการแข่งรถสำหรับผู้หญิงในบ้านเรานั้นมีไม่มาก ซึ่งเราก็ไม่ได้หวังว่าจะได้ที่ 1 แค่มีความพยายามแล้วเราจะได้รู้ว่าคำว่าดีที่สุดของเรานั้นทำได้แค่ไหน เป็นการพิสูจน์ตัวเองอย่างหนึ่งด้วยค่ะ”

ชมพู่ยังบอกอีกว่าการได้มาเป็นนักแข่งนั้นสอนประสบการณ์ให้เธอหลายอย่างที่หาไม่ได้ที่อื่น รวมถึงได้เรียนรู้พฤติกรรมการขับรถระหว่างผู้ชายและผู้หญิงที่ก่อนหน้ามาลงแข่งเธอคิดว่าคงจะขับรถสู้ไม่ไหว

"จริงๆผู้หญิงขับรถดีกว่าผู้ชายก็มีนะคะ อย่างการแข่งขันในสนามหลายรายการผู้หญิงชนะผู้ชายก็มี แต่บนท้องถนนเราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรขึ้นชมไม่อยากบอกว่าใครขับรถดีกว่ากัน แต่อยากให้มีสติและไม่ประมาทมากกว่าเพราะบางครั้งอุบัติเหตุที่เกิดมากจากความประมาทหรือความเคยชินไม่ได้อยู่ที่ขับรถไม่เก่งค่ะ"

แต่การแข่งขันรถทำให้ชมพู่ต้องดูแลและออกกำลังกายเป็นพิเศษ โดยไปเอาดีในการเล่นโยคะ "ช่วงนี้ชมกำลังบ้าโยค่ะ ถือว่าเป็นการออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงด้วย เพราะก่อนหน้านี้ชมจะปวดหลังบ่อย ไปหาหมอแล้วเค้าบอกว่าชมเป็นโรคกระดูกสันหลังไม่ตรง มันงอเป็นรูปตัวเอสเลยนะ แต่เค้าบอกว่าไม่ได้ร้ายแรงถึงขนาดเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตอะไร แต่จะทำให้เราปวดเมื่อยง่าย"

ด้วยสาเหตุนี้ด้วยทำให้สาวชมพู่จำเป็นต้องต้องเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันไปเลยเพื่อให้สุภาพดีขึ้น โดยเปลี่ยนมาเป็นโตโยต้า อัลพาร์ด รถแบบอเนกประสงค์ ซึ่งงานนี้ชมพู่บอกว่าคงต้องเปลี่ยนพฤติกรรมในการขับรถใหม่

"ปีนี้ชมก็ลุกขึ้นมาดูแลตัวเองมากขึ้น เป็นคนใหม่พอสมควร เมื่อก่อนจะอ้างเรื่องเวลา เดี๋ยวนี้จะบ้าพลังมาก พกตารางเวลาตลอด ว่าง 3-4 ชม. ก็จะไปออกกำลังกายแล้ว กลัวว่าหลังค่อมไปกว่านี้ อีกอย่างพอเปลี่ยนรถก็เอาคนขับรถมาเองเลยคราวนี้เราเลยได้นั่งสบายๆ แต่เวลาที่ต้องขับรถไปไหนมาไหนเองก็ต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอๆว่าให้ต้องนั่งให้ถูกท่าจะได้ไม่ปวดหลัง เพราะชมจะเป็นคนชอบนั่งตัวเอียงๆซึ่งอยากบอกคนขับรถทุกๆคนว่าเรื่องท่านั่งนั้นสำคัญกว่าคิดค่ะ"
กำลังโหลดความคิดเห็น