ไม่น้อยหน้าแบรนด์พี่อย่างฮุนไดที่เปิดตัวรถสปอร์ตขับเคลื่อนล้อหลังรุ่นใหม่อย่างเจเนซิส คูเป้ในงานนิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ 2008 เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพราะทางด้านเกียก็จัดการเร้าอารมณ์บรรดาแฟนๆ ด้วยความโฉบเฉี่ยวและปราดเปรียวของสปอร์ตคูเป้ต้นแบบขนาดคอมแพ็กต์รุ่นใหม่ในชื่อ Koup พร้อมกับยืนยันว่าเตรียมส่งขายเอาใจวัยรุ่นมะกันแข่งกับฮอนด้า ซีวิค คูเป้แน่ในต้นปีหน้า
Koup ถือเป็นผลผลิตที่มาจากการสร้างสรรค์โดยศูนย์ออกแบบของเกียในสหรัฐอเมริกาซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่เมืองเออร์ไวน์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ในการนำเสนอรถสปอร์ตขนาดคอมแพ็กต์ซึ่งเป็นกลุ่มที่เกียไม่เคยทำมาก่อน โดยมีเป้าหมายในการประชันกับคู่ปรับในตลาดอย่างไซออน TC ของค่ายโตโยต้า และฮอนด้า ซีวิค คูเป้
‘เกีย Koup แสดงให้เห็นถึงอนาคตของแบรนด์เกียและพลวัตรของตัวรถที่แสดงออกบนเส้นสายและรูปทรงบนเรือนร่างแบบคูเป้แสดงให้เห็นถึงปรัญชาหลักในการพัฒนารถยนต์ของเราได้เป็นอย่างดี’ ทอม เคิร์นสื นักออกแบบของเกียในเออร์ไวน์กล่าว’เราพยายามออกแบบโดยสร้างสรรค์ให้ตัวรถมีความโฉบเฉี่ยวและเร้าอารมณ์ และที่สำคัญตัวรถได้มีการติดตั้งเทคโนโลยีอันล้ำสมัยหลายอย่างด้วยกัน’
ในรุ่นต้นแบบมีการนำคาร์บอนไฟเบอร์มาใช้ในการผลิตชิ้นส่วนตัวถังหลายจุด โดยเฉพาะการตกแต่งตามจุดต่างๆ เช่น บนกันชนหน้า-หลัง หรือสเกิร์ตด้านข้าง ขณะที่ภายในห้องโดยสารแต่งเติมความสปอร์ตอย่างเต็มที่ด้วยชุดมาตรวัดที่มีรูปทรงล้ำสมัย และเบาะนั่งทรงสปอร์ตแบบบักเก็ตซีท ซึ่งภาพรวมของห้องโดยสารได้รับการออกแบบโดยอิงอยู่บนพื้นฐานของค็อกพิตของเครื่องบินขับไล่
นอกจากนั้นยังติดตั้งระบบอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น เครื่องเสียงชั้นเยี่ยมพร้อมลำโพง 8 ตัว ระบบ Blurtooth แบบ Built-in และระบบนำทางด้วยดาวเทียมพร้อมระบบ MOD หรือ Map on Demand ซึ่งจะใช้ระบบ Telematics ในการเชื่อมต่อกับศูนย์บริการส่วนกลางในการดาวน์โหลดหรือการขอข้อมูล ซึ่งเกียเปิดเผยว่า เทคโนโลยีจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับการให้บริการด้านข้อมูลในระหว่างขับรถในสหรัฐอเมริกา
เครื่องยนต์ที่วางอยู่ในฝากระโปรงของรุ่นต้นแบบ แรงสะใจกับสำหรับคนเท้าขวาหนัก เพราะมากับขุมพลังรหัส Theta II ที่ได้รับการอัพเกรดเพิ่มความแรง ซึ่งขุมพลังแบบ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 2,000 ซีซีบล็อกนี้มากับระบบเบนซินไดเร็กต์อินเจ็กชัน หรือ GDI เสริมด้วยเทอร์โบใบเขื่อง รีดกำลังออกมาได้ 290 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 39.3 กก.-ม. ที่ 2,500-4,500 รอบ/นาที
ตัวรถเป็นแบบขับเคลื่อนล้อหน้า และใช้ระบบช่วงล่างหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบดูอัลลิงค์ พร้อมกับติดตั้งระบบควบคุมการทำงานของโช้กอัพ หรือ CDC-Continuous Damping Control ซึ่งผู้ขับสามารถเพิ่มระดับความหนืดได้ตามความต้องการจากปุ่มควบคุมในห้องโดยสาร เพื่อปรับช่วงล่างให้สอดคล้องกับสภาพการใช้งาน ส่วนระบบเบรกก็มากับดิสก์อันเขื่องแบบเจาะช่องระบายความร้อนทั้งด้านหน้าและหลังของเบรมโบ เสริมหล่อด้วยล้อ 19 นิ้ว
ในด้านระบบความปลอดภัย นอกจากถุงลมนิรภัยที่มาแบบครบครันแล้ว เกียยังติดตั้งระบบควบคุมการทรงตัว หรือ Electronic Stability Control (ESC) มาให้พร้อมกับระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยางด้วยการแสดงผลทางหน้าจอในรถยนต์ หรือ Tire Pressure Monitoring System (TPMS) มาให้ด้วย ซึ่งระบบนี้จะเป็นมาตรฐานใหม่ที่ผู้ผลิตรถยนต์ที่ขายในสหรัฐอเมริกากำลังนำมาติดตั้งให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ในเรื่องของการผลิตจริงมีความเป็นไปได้สูงเกิน 90% เพราะทางผู้บริหารของเกียก็แย้มออกมาคร่าวๆ เพียงแต่ยังไม่คอนเฟิร์มแบบเต็มที่ และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เราน่าจะได้เห็นความสปอร์ตของเกียออกมาโลดแล่นในตลาดไม่เกินต้นปีหน้า เพียงแต่ว่าจะมีขายทั่วโลก หรือว่าจำกัดตัวเองอยู่เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น