สาวใหญ่ เหยื่อ BMW สุดทน เดินขึ้นโรงพักท่าข้าม แจ้งความดำเนินคดี บริษัท ยูโรป้ามอเตอร์ ผู้แทนจำหน่ายรถ BMW และ นายกำพล พิพัฒน์อนันต์กุล ประธานบริษัท ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง
จากกรณีที่ น.ส.พิณพรรณ วีระวิทย์ อายุ 43 ปี เจ้าของธุรกิจติดตั้งสัญญากันขโมย อยู่บ้านเลขที่ 3/4 หมู่ 4 แขวงบางบอน เขตบางบอน กทม.ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ซื้อรถเก๋ง BMW รุ่น X 3 สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียนป้ายแดง พ 2067 กทม.ผ่านการสั่งจองภายในงานมอเตอร์โชว์ ที่ไบเทค บางนา และทำการออกรถมาใช้ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.2550 ณ ศูนย์บริการ BMW ถนนพระราม 2 แต่เมื่อนำรถออกมาใช้งานได้เพียง 1 อาทิตย์ ก็ต้องประสบปัญหาหลายอย่างอาทิ สีรถลอก พวงมาลัยลอก ศูนย์รถเอียง คอนโซลในห้องโดยสารลอก ประตูด้านหลังเปิดเองขณะขับขี่ และอื่นๆ รวม 19 รายการ จนต้องส่งรถกลับเข้าไปซ่อมที่ศูนย์ถึง 2 ครั้ง ใช้เวลาการซ่อมแต่ละครั้งนานนับเดือน ที่สำคัญ ยังพบความไม่ชอบมาพากลอีกหลายอย่างเกี่ยวกับรถคันนี้ จึงได้เดินทางมาร้องทุกข์กับ นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย เพื่อให้นำเสนอข่าวไว้เป็นอุทาหรณ์กับประชาชนทั่วไป และเรียกร้องให้ผู้แทนจำหน่ายรถ BMW ออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามที่นำเสนอเป็นข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (21 เม.ย.) น.ส.พิณพรรณ ผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ขจรศักดิ์ ตระการไทย ร้อยเวร สน.ท่าข้าม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัท ยูโรป้ามอเตอร์ ผู้แทนจำหน่ายรถ BMW และ นายกำพล พิพัฒน์อนันต์กุล ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานบริษัท ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันฉ้อโกง” จากกรณีที่รถมีปัญหา แล้วทางบริษัทปฏิเสธความรับผิดชอบเรื่อยมา โดย น.ส.พิณพรรณ ได้นำหลักฐานสำคัญ 2 ชิ้น มายื่นประกอบการแจ้งความในครั้งนี้ด้วย คือ 1.บัตร Bmw Mobility Service และ บัตร Bmw Service Card ที่ทางบริษัทออกให้ไว้ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.2549 ทั้งที่ น.ส.พรรณพิณ เพิ่งจะออกรถมาใช้ในวันที่ 14 พ.ค.2550 การที่บริษัทออกบัตรดังกล่าวไว้ล่วงหน้านานถึง 1 ปี 3 เดือน ทำให้ น.ส.พิณพรรณ ถูกทวงค่าธรรมเนียมราย 2 ปี จำนวนกว่า 100,000 บาท จากทางฝ่ายเร่งรัดหนี้สินของบริษัทแล้ว ทั้งที่เจ้าตัวเพิ่งใช้รถได้เพียง 11 เดือน
หลักฐานชิ้นที่ 2 คือ โบรชัวร์ของทางบริษัท ที่ระบุข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับตัวรถ BMW รุ่น X 3 ซึ่งก่อนที่ น.ส.พิณพรรณ จะตัดสินใจจองรถคันนี้ ได้ทำการศึกษาข้อมูลจากโบรชัวร์ดังกล่าว ผ่านการแนะนำของพนักงานขายภายในงานมอเตอร์โชว์ แต่เมื่อได้นำรถออกมาใช้จริง กลับพบว่า ข้อมูลหลายรายการไม่ตรงกันกับโบรชัวร์ เช่น เกียร์ กระบอกสูบ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ปริมาตรถังบรรจุน้ำมัน กระจกไฟฟ้า ฯลฯ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า อาจถูกบริษัทหลอกลวงด้วยการแสดงข้อมูลเท็จ เพื่อให้ลูกค้าหลงเชื่อจนตัดสินใจซื้อรถรุ่นนี้มาขับ
โดย น.ส.พิณพรรณ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตนรู้สึกปวดหัวกับรถคันนี้มาก ทุกวันนี้ทางบริษัทยังไม่จดทะเบียนเป็นป้ายดำให้เลย จะไปขายต่อใครก็ไม่ได้ เคยเดินทางไปร้อง สคบ.มาแล้ว และมีการนัดไกล่เกลี่ยกันแล้วถึง 3 ครั้ง แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ตนจึงตัดสินใจเดินทางมาแจ้งความในวันนี้เพื่อเอาผิดกับทางบริษัท และผู้บริหารของ BMW อย่างถึงที่สุด เนื่องจากต้องทนเดือดร้อนมานานแล้ว ช่วงแรกมีการแจ้งซ่อมไป 19 รายการ แต่ตอนนี้เริ่มมีปัญหาใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาให้ปวดหัวอีก เช่น กุญแจรถกดปลดล็อกไม่ได้ อะไหล่หลุดเป็นประจำ ฝาครอบถุงลมนิรภัยพองตัว และสีลอกเพิ่มเติม ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใครได้อีกแล้ว
“ดิฉันอยากให้คดีนี้เป็นอุทาหรณ์แก่ผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อรถ BMW หากท่านคิดว่าชีวิตไม่มีค่า และไม่มีอนาคตแล้วก็รีบไปซื้อเถิด แต่ต้องเตรียมคุณสมบัติความหน้าหนาไปด้วย เพราะท่านต้องไปร้องขอให้ศูนย์บริการซ่อม หรือแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้บ่อยๆ ในภายหลัง และเมื่อนำรถออกมาใช้แล้วก็ให้หาผ้ายันต์ หรือกระเทียมกันผีฝรั่งมาติดรถเอาไว้ด้วย เพราะทางบริษัทเค้าเล่นของ สามารถล่วงรู้ได้ล่วงหน้าว่าเราจะไปเป็นลูกค้า ดูอย่างกรณีตนซึ่งบริษัทออกไปเซอร์วิสมาให้ล่วงหน้านานถึง 1 ปี 3 เดือน ข้อสุดท้ายที่อยากจะแนะนำ ก็คือ หากตัดสินใจซื้อรถยี่ห้อนี้มาแล้วให้รีบไปซื้อบ้านพักที่อยู่ใกล้ๆ ศูนย์บริการเพื่อความสะดวกในการ เข้า-ออก เมื่อถึงเวลาส่งรถซ่อม” น.ส.พิณพรรณ กล่าว
ด้าน ร.ต.ท.ขจรศักดิ์ กล่าวว่า หลังรับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหาย ขั้นตอนต่อไป ก็คือ การดำเนินการคัดสำเนาทะเบียนราษฎรของ นายกำพล ประธานบริษัท ยูโรป้ามอเตอร์ ว่า มีภูมิลำเนาอยู่ที่ใด จากนั้นตนก็จะออกหมายเรียกมาพบเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา และสอบปากคำในเบื้องต้น แต่หาก นายกำพล ไม่ยอมมาตามนัดก็จะถูกออกหมายจับต่อไป
จากกรณีที่ น.ส.พิณพรรณ วีระวิทย์ อายุ 43 ปี เจ้าของธุรกิจติดตั้งสัญญากันขโมย อยู่บ้านเลขที่ 3/4 หมู่ 4 แขวงบางบอน เขตบางบอน กทม.ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ซื้อรถเก๋ง BMW รุ่น X 3 สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียนป้ายแดง พ 2067 กทม.ผ่านการสั่งจองภายในงานมอเตอร์โชว์ ที่ไบเทค บางนา และทำการออกรถมาใช้ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.2550 ณ ศูนย์บริการ BMW ถนนพระราม 2 แต่เมื่อนำรถออกมาใช้งานได้เพียง 1 อาทิตย์ ก็ต้องประสบปัญหาหลายอย่างอาทิ สีรถลอก พวงมาลัยลอก ศูนย์รถเอียง คอนโซลในห้องโดยสารลอก ประตูด้านหลังเปิดเองขณะขับขี่ และอื่นๆ รวม 19 รายการ จนต้องส่งรถกลับเข้าไปซ่อมที่ศูนย์ถึง 2 ครั้ง ใช้เวลาการซ่อมแต่ละครั้งนานนับเดือน ที่สำคัญ ยังพบความไม่ชอบมาพากลอีกหลายอย่างเกี่ยวกับรถคันนี้ จึงได้เดินทางมาร้องทุกข์กับ นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย เพื่อให้นำเสนอข่าวไว้เป็นอุทาหรณ์กับประชาชนทั่วไป และเรียกร้องให้ผู้แทนจำหน่ายรถ BMW ออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามที่นำเสนอเป็นข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (21 เม.ย.) น.ส.พิณพรรณ ผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ขจรศักดิ์ ตระการไทย ร้อยเวร สน.ท่าข้าม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัท ยูโรป้ามอเตอร์ ผู้แทนจำหน่ายรถ BMW และ นายกำพล พิพัฒน์อนันต์กุล ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานบริษัท ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันฉ้อโกง” จากกรณีที่รถมีปัญหา แล้วทางบริษัทปฏิเสธความรับผิดชอบเรื่อยมา โดย น.ส.พิณพรรณ ได้นำหลักฐานสำคัญ 2 ชิ้น มายื่นประกอบการแจ้งความในครั้งนี้ด้วย คือ 1.บัตร Bmw Mobility Service และ บัตร Bmw Service Card ที่ทางบริษัทออกให้ไว้ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.2549 ทั้งที่ น.ส.พรรณพิณ เพิ่งจะออกรถมาใช้ในวันที่ 14 พ.ค.2550 การที่บริษัทออกบัตรดังกล่าวไว้ล่วงหน้านานถึง 1 ปี 3 เดือน ทำให้ น.ส.พิณพรรณ ถูกทวงค่าธรรมเนียมราย 2 ปี จำนวนกว่า 100,000 บาท จากทางฝ่ายเร่งรัดหนี้สินของบริษัทแล้ว ทั้งที่เจ้าตัวเพิ่งใช้รถได้เพียง 11 เดือน
หลักฐานชิ้นที่ 2 คือ โบรชัวร์ของทางบริษัท ที่ระบุข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับตัวรถ BMW รุ่น X 3 ซึ่งก่อนที่ น.ส.พิณพรรณ จะตัดสินใจจองรถคันนี้ ได้ทำการศึกษาข้อมูลจากโบรชัวร์ดังกล่าว ผ่านการแนะนำของพนักงานขายภายในงานมอเตอร์โชว์ แต่เมื่อได้นำรถออกมาใช้จริง กลับพบว่า ข้อมูลหลายรายการไม่ตรงกันกับโบรชัวร์ เช่น เกียร์ กระบอกสูบ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ปริมาตรถังบรรจุน้ำมัน กระจกไฟฟ้า ฯลฯ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า อาจถูกบริษัทหลอกลวงด้วยการแสดงข้อมูลเท็จ เพื่อให้ลูกค้าหลงเชื่อจนตัดสินใจซื้อรถรุ่นนี้มาขับ
โดย น.ส.พิณพรรณ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตนรู้สึกปวดหัวกับรถคันนี้มาก ทุกวันนี้ทางบริษัทยังไม่จดทะเบียนเป็นป้ายดำให้เลย จะไปขายต่อใครก็ไม่ได้ เคยเดินทางไปร้อง สคบ.มาแล้ว และมีการนัดไกล่เกลี่ยกันแล้วถึง 3 ครั้ง แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ตนจึงตัดสินใจเดินทางมาแจ้งความในวันนี้เพื่อเอาผิดกับทางบริษัท และผู้บริหารของ BMW อย่างถึงที่สุด เนื่องจากต้องทนเดือดร้อนมานานแล้ว ช่วงแรกมีการแจ้งซ่อมไป 19 รายการ แต่ตอนนี้เริ่มมีปัญหาใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาให้ปวดหัวอีก เช่น กุญแจรถกดปลดล็อกไม่ได้ อะไหล่หลุดเป็นประจำ ฝาครอบถุงลมนิรภัยพองตัว และสีลอกเพิ่มเติม ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใครได้อีกแล้ว
“ดิฉันอยากให้คดีนี้เป็นอุทาหรณ์แก่ผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อรถ BMW หากท่านคิดว่าชีวิตไม่มีค่า และไม่มีอนาคตแล้วก็รีบไปซื้อเถิด แต่ต้องเตรียมคุณสมบัติความหน้าหนาไปด้วย เพราะท่านต้องไปร้องขอให้ศูนย์บริการซ่อม หรือแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้บ่อยๆ ในภายหลัง และเมื่อนำรถออกมาใช้แล้วก็ให้หาผ้ายันต์ หรือกระเทียมกันผีฝรั่งมาติดรถเอาไว้ด้วย เพราะทางบริษัทเค้าเล่นของ สามารถล่วงรู้ได้ล่วงหน้าว่าเราจะไปเป็นลูกค้า ดูอย่างกรณีตนซึ่งบริษัทออกไปเซอร์วิสมาให้ล่วงหน้านานถึง 1 ปี 3 เดือน ข้อสุดท้ายที่อยากจะแนะนำ ก็คือ หากตัดสินใจซื้อรถยี่ห้อนี้มาแล้วให้รีบไปซื้อบ้านพักที่อยู่ใกล้ๆ ศูนย์บริการเพื่อความสะดวกในการ เข้า-ออก เมื่อถึงเวลาส่งรถซ่อม” น.ส.พิณพรรณ กล่าว
ด้าน ร.ต.ท.ขจรศักดิ์ กล่าวว่า หลังรับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหาย ขั้นตอนต่อไป ก็คือ การดำเนินการคัดสำเนาทะเบียนราษฎรของ นายกำพล ประธานบริษัท ยูโรป้ามอเตอร์ ว่า มีภูมิลำเนาอยู่ที่ใด จากนั้นตนก็จะออกหมายเรียกมาพบเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา และสอบปากคำในเบื้องต้น แต่หาก นายกำพล ไม่ยอมมาตามนัดก็จะถูกออกหมายจับต่อไป
