ในบรรดาผู้ประกอบการนำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์อิสระ หรือ“เกรย์มาร์เก็ต”คงต้องยกให้ เอส.อี.ซี กรุ๊ป เป็นเจ้าพ่อ เนื่องจากอยู่ในแวดวงนี้มานาน ดำเนินธุรกิจอย่างช่ำชอง บวกกับเงินทุนหนา สายป่านยาว แต่กระนั้นในระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้ถือกำเนิดผู้เล่นหน้าใหม่ๆมากมาย ซึ่งมีทั้งบริษัทที่คลุกคลีอยู่ในวงการรถยนต์อยู่เดิมแตกแยกธุรกิจออกมา ไปจนถึงน้องใหม่ที่หาญกล้าเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งเค้กอันหอมหวน
ล่าสุดกับ บริษัท เทดดี้ ออโต้เซลส์ จำกัด นำโดยสองคู่หู ชูเกียรติ ศรีทองเสถียร ประธานบริหาร และสุรชัย จันทรโรจน์วานิช รองประธานบริหาร ผู้ที่วันนี้จะมาบอกถึงความเป็นมาเป็นไป และกลยุทธ์ในการลุยตลาดที่นับวันจะทวีความดุเดือด
จุดเริ่ม เทดดี้ ออโต้เซลส์
บริษัทก่อตั้งโดยคุณชูเกียรติ ศรีทองเสถียร ประธานบริหาร เริ่มดำเนินกิจการเมื่อกลางปี 2550 ที่ผ่านมา โดยมุ่งหวังให้ เทดดี้ ออโต้เซลส์ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภค ที่ชอบรถยนต์นำเข้าคุณภาพดี มาตรฐานสากล พร้อมสร้างความแตกต่างด้วยแบรนด์ เทดดี้ แบร์ ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนของการมอบความรัก ความเอาใจใส่ ความห่วงใย เช่นเดียวกับการดูแลลูกค้าของเราที่จะได้รับการบริการอย่างใกล้ชิด เหมือนกับครอบครัวเดียวกัน
รถที่จะนำเข้ามาทำตลาด
บริษัทจะนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศหลากหลายรูปแบบ เพื่อเหมาะสมและตรงตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุด โดยแบ่งสินค้าออกเป็นกลุ่ม 5 กลุ่มได้แก่ Teddy power จะเป็นพวก สปอร์ตคาร์ ซูเปอร์คาร์ และ Teddy Eco รถประหยัดพลังงาน รถไฮบริด รวมถึง Teddy Trend รถพิเศษ ที่เน้นความเป็นตัวของตัวเอง นำสมัย ส่วน Teddy Utility จะเป็นเอสยูวี อเนกประสงค์ และ Teddy Executive รถนั่งซีดานหรูหรามีระดับ
ลูกค้าจะมั่นใจได้อย่างไร
บริษัทมีนโยบายสร้างความพึงพอใจให้ผู้บริโภคเป็นสำคัญ ด้วยการนำเข้ารถยนต์คุณภาพสูง ออปชั่นครบ การบริการหลังการขายได้มาตรฐาน โดยช่างผู้ชำนาญงานที่ได้รับการอบรมจากประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงเครื่องมือมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ
"สำหรับโชว์รูม-ศูนย์บริการ มาพร้อมคอนเซ็ปด์ บูทิค ออโต้ โชว์รูม โดยลูกค้าจะรู้สึกอบอุ่น สบาย ผ่อนคลาย มีสไตล์ ขณะเดียวกันยังสร้างความมั่นใจด้านบริการหลังการขายด้วย รถช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงกรณีถ้าลูกค้านำรถมาซ่อมเกิน 7 วัน ไม่ว่าจะเกิดจากเหตุผลใด บริษัทจะเตรียมรถสำรองไว้ให้ใช้ เป็นต้น ทั้งนี้บริษัทยังรับบริการรถยนต์นำเข้าทุกยี่ห้อไม่สังกัดค่าย และไม่เรียกเก็บค่าแรกเข้าอีกด้วย"
แผนขยายโชว์รูม-ศูนย์บริการ
ปัจจุบันบริษัท มีโชว์รูมศูนย์บริการ 2 แห่ง คือสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่บนถนนรามอินทรา กม.2 (ติดกับห้างคาร์ฟูร์รามอินทรา) และสาขาถนนวิภาวดี ใกล้กับสำนักงานใหญ่การบินไทย ซึ่งภายในสองปีนี้บริษัทมีแผนขยายเพิ่มอีก 2 แห่ง ที่ถนนพระราม 2 และบางนา คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท
เป้าหมายยอดขายปีนี้
ในปี 2550 บริษัททำยอดขายได้รวม 190 คัน ส่วนปีนี้มีความพร้อมมากขึ้น ทั้งยังเตรียมนำรถยนต์รุ่นใหม่เข้ามาเปิดตลาดกว่า 10 รุ่น ซึ่งไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ อัลพาร์ด รุ่นใหม่ ที่จะเข้ามากลางปีนี้ ดังนั้นบริษัทจึงตั้งเป้ายอดขายรวมปี 2551 ไว้ 300-350 คัน ขณะที่ยอดรายได้จะอยู่ประมาณ 800-900 ล้าบาท
ล่าสุดกับ บริษัท เทดดี้ ออโต้เซลส์ จำกัด นำโดยสองคู่หู ชูเกียรติ ศรีทองเสถียร ประธานบริหาร และสุรชัย จันทรโรจน์วานิช รองประธานบริหาร ผู้ที่วันนี้จะมาบอกถึงความเป็นมาเป็นไป และกลยุทธ์ในการลุยตลาดที่นับวันจะทวีความดุเดือด
จุดเริ่ม เทดดี้ ออโต้เซลส์
บริษัทก่อตั้งโดยคุณชูเกียรติ ศรีทองเสถียร ประธานบริหาร เริ่มดำเนินกิจการเมื่อกลางปี 2550 ที่ผ่านมา โดยมุ่งหวังให้ เทดดี้ ออโต้เซลส์ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภค ที่ชอบรถยนต์นำเข้าคุณภาพดี มาตรฐานสากล พร้อมสร้างความแตกต่างด้วยแบรนด์ เทดดี้ แบร์ ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนของการมอบความรัก ความเอาใจใส่ ความห่วงใย เช่นเดียวกับการดูแลลูกค้าของเราที่จะได้รับการบริการอย่างใกล้ชิด เหมือนกับครอบครัวเดียวกัน
รถที่จะนำเข้ามาทำตลาด
บริษัทจะนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศหลากหลายรูปแบบ เพื่อเหมาะสมและตรงตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุด โดยแบ่งสินค้าออกเป็นกลุ่ม 5 กลุ่มได้แก่ Teddy power จะเป็นพวก สปอร์ตคาร์ ซูเปอร์คาร์ และ Teddy Eco รถประหยัดพลังงาน รถไฮบริด รวมถึง Teddy Trend รถพิเศษ ที่เน้นความเป็นตัวของตัวเอง นำสมัย ส่วน Teddy Utility จะเป็นเอสยูวี อเนกประสงค์ และ Teddy Executive รถนั่งซีดานหรูหรามีระดับ
ลูกค้าจะมั่นใจได้อย่างไร
บริษัทมีนโยบายสร้างความพึงพอใจให้ผู้บริโภคเป็นสำคัญ ด้วยการนำเข้ารถยนต์คุณภาพสูง ออปชั่นครบ การบริการหลังการขายได้มาตรฐาน โดยช่างผู้ชำนาญงานที่ได้รับการอบรมจากประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงเครื่องมือมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ
"สำหรับโชว์รูม-ศูนย์บริการ มาพร้อมคอนเซ็ปด์ บูทิค ออโต้ โชว์รูม โดยลูกค้าจะรู้สึกอบอุ่น สบาย ผ่อนคลาย มีสไตล์ ขณะเดียวกันยังสร้างความมั่นใจด้านบริการหลังการขายด้วย รถช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงกรณีถ้าลูกค้านำรถมาซ่อมเกิน 7 วัน ไม่ว่าจะเกิดจากเหตุผลใด บริษัทจะเตรียมรถสำรองไว้ให้ใช้ เป็นต้น ทั้งนี้บริษัทยังรับบริการรถยนต์นำเข้าทุกยี่ห้อไม่สังกัดค่าย และไม่เรียกเก็บค่าแรกเข้าอีกด้วย"
แผนขยายโชว์รูม-ศูนย์บริการ
ปัจจุบันบริษัท มีโชว์รูมศูนย์บริการ 2 แห่ง คือสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่บนถนนรามอินทรา กม.2 (ติดกับห้างคาร์ฟูร์รามอินทรา) และสาขาถนนวิภาวดี ใกล้กับสำนักงานใหญ่การบินไทย ซึ่งภายในสองปีนี้บริษัทมีแผนขยายเพิ่มอีก 2 แห่ง ที่ถนนพระราม 2 และบางนา คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท
เป้าหมายยอดขายปีนี้
ในปี 2550 บริษัททำยอดขายได้รวม 190 คัน ส่วนปีนี้มีความพร้อมมากขึ้น ทั้งยังเตรียมนำรถยนต์รุ่นใหม่เข้ามาเปิดตลาดกว่า 10 รุ่น ซึ่งไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ อัลพาร์ด รุ่นใหม่ ที่จะเข้ามากลางปีนี้ ดังนั้นบริษัทจึงตั้งเป้ายอดขายรวมปี 2551 ไว้ 300-350 คัน ขณะที่ยอดรายได้จะอยู่ประมาณ 800-900 ล้าบาท
