ข่าวในประเทศ – บีเอ็มดับเบิลยู เปิดตัวซีรีส์3 และเอ็กซ์3 เครื่องดีเซลรุกตลาดเมืองไทย ขูความประหยัดดันยอดขายพุ่ง หลังปีที่แล้วยอดขายหล่นวูบ พร้อมการันตีใช้น้ำมัน B2 B5 ได้แน่นอน เผยมอเตอร์โชว์เตรียมพบทีเด็ดเพียบทั้งแพคเกจพิเศษและรถนำเข้าสุดหรู
นายมิคาเอล คอร์ดิส ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้ทำการแนะนำรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์3 และเอ็กซ์3 ในแบบเครื่องยนต์ดีเซล รุ่น 320d และเอ็กซ์3 2.0d ซึ่งใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นล่าสุดของบีเอ็มดับเบิลยู โดยเป็นเครื่องยนต์แบบคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจคชั่น เจนเนอเรชั่นที่ 3 พร้อมหัวฉีด
PIEZO ที่ให้แรงอัดมากถึง 1,800 บาร์ ทำให้รถยนต์ทั้ง 2 รุ่นนี้มีทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน ให้มีกำลังสูงสุดถึง 177 แรงม้า และ แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 1,750-3,000 รอบ/นาที
ส่วนราคาจำหน่ายรถยนต์นั่งบีเอ็มดับเบิลยู 320d ตั้งไว้ที่ 2.849 ล้านบาท และรถคอมแพ็คเอสยูวีรุ่นเอ็กซ์3 ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 3.299 ล้านบาท
“บริษัทฯ เรามีรถเครื่องดีเซลทำตลาดอยู่ก่อนหน้าคือรุ่น 520dราคา
ประมาณ 3.6 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีด้วยยอดจำหน่ายถึง 250 คันในปีที่แล้ว และเป็นยอดขายมากกว่าครึ่งหนึ่งของรถรุ่นซีรีส์5 ทั้งหมดด้วย และรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลของบีเอ็มดับเบิลยูทุกรุ่นสามารถใช้น้ำมัน B2 และ B5 ได้อย่างไร้ปัญหา” นายมิคาเอลกล่าว
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยูมียอดขายในตลาดเมืองไทยลดลง ด้วยยอดจำหน่ายรวม 1,741 คัน ต่ำลงจากปี 2549 ที่ทำได้ประมาณ 2,800 คัน เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจการเมืองไม่นิ่ง และวิกฤตน้ำมันแพงทำให้ตลาดรถยนต์หรูหดตัวลงอย่างมาก มาในปีนี้บีเอ็มดับเบิลยูมุ่งมั่นอย่างมากว่า รถเครื่องยนต์ดีเซลจะมาช่วยผลักดันยอดขายให้กลับมาดีดังเดิมได้
สำหรับใช่วงงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2008 ที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ ทางบริษัทฯมีแผนการนำเสนอเครื่องยนต์ดีเซลแบบเป็นแพ็คเกจ พร้อมกับการนำรถกันกระสุนและ รถยนต์ประกอบเสร็จหรือซีบียู สมรรถนะสูงของบีเอ็มดับเบิลยูมาจัดแสดง อาทิเช่น เอ็ม3คูเป้ ซีรีส์ 630i เป็นต้น
ปัจจุบัน กว่า 40% ของยอดจำหน่ายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูทั่วโลกเป็นรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล และเมื่อปีที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถขายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูเครื่องยนต์ดีเซลได้มากกว่าผู้ผลิตรถยนต์พรีเมี่ยมรายอื่น โดยในยุโรป ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์5 กว่า 90% และกว่า 60% ของลูกค้าซีรี่ส์ 3 จะสั่งซื้อรถรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลทั้งสิ้น
นายมิคาเอล คอร์ดิส ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้ทำการแนะนำรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์3 และเอ็กซ์3 ในแบบเครื่องยนต์ดีเซล รุ่น 320d และเอ็กซ์3 2.0d ซึ่งใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นล่าสุดของบีเอ็มดับเบิลยู โดยเป็นเครื่องยนต์แบบคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจคชั่น เจนเนอเรชั่นที่ 3 พร้อมหัวฉีด
PIEZO ที่ให้แรงอัดมากถึง 1,800 บาร์ ทำให้รถยนต์ทั้ง 2 รุ่นนี้มีทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน ให้มีกำลังสูงสุดถึง 177 แรงม้า และ แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 1,750-3,000 รอบ/นาที
ส่วนราคาจำหน่ายรถยนต์นั่งบีเอ็มดับเบิลยู 320d ตั้งไว้ที่ 2.849 ล้านบาท และรถคอมแพ็คเอสยูวีรุ่นเอ็กซ์3 ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 3.299 ล้านบาท
“บริษัทฯ เรามีรถเครื่องดีเซลทำตลาดอยู่ก่อนหน้าคือรุ่น 520dราคา
ประมาณ 3.6 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีด้วยยอดจำหน่ายถึง 250 คันในปีที่แล้ว และเป็นยอดขายมากกว่าครึ่งหนึ่งของรถรุ่นซีรีส์5 ทั้งหมดด้วย และรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลของบีเอ็มดับเบิลยูทุกรุ่นสามารถใช้น้ำมัน B2 และ B5 ได้อย่างไร้ปัญหา” นายมิคาเอลกล่าว
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยูมียอดขายในตลาดเมืองไทยลดลง ด้วยยอดจำหน่ายรวม 1,741 คัน ต่ำลงจากปี 2549 ที่ทำได้ประมาณ 2,800 คัน เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจการเมืองไม่นิ่ง และวิกฤตน้ำมันแพงทำให้ตลาดรถยนต์หรูหดตัวลงอย่างมาก มาในปีนี้บีเอ็มดับเบิลยูมุ่งมั่นอย่างมากว่า รถเครื่องยนต์ดีเซลจะมาช่วยผลักดันยอดขายให้กลับมาดีดังเดิมได้
สำหรับใช่วงงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2008 ที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ ทางบริษัทฯมีแผนการนำเสนอเครื่องยนต์ดีเซลแบบเป็นแพ็คเกจ พร้อมกับการนำรถกันกระสุนและ รถยนต์ประกอบเสร็จหรือซีบียู สมรรถนะสูงของบีเอ็มดับเบิลยูมาจัดแสดง อาทิเช่น เอ็ม3คูเป้ ซีรีส์ 630i เป็นต้น
ปัจจุบัน กว่า 40% ของยอดจำหน่ายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูทั่วโลกเป็นรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล และเมื่อปีที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถขายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูเครื่องยนต์ดีเซลได้มากกว่าผู้ผลิตรถยนต์พรีเมี่ยมรายอื่น โดยในยุโรป ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์5 กว่า 90% และกว่า 60% ของลูกค้าซีรี่ส์ 3 จะสั่งซื้อรถรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลทั้งสิ้น