ข่าวในประเทศ - “บีเอ็มดับเบิลยู” มั่นใจปีหนูจะเติบโตสวนตลาดรถหรู หลังจากปีที่แล้วปรับระบบองค์กร จนทำให้ยอดขายวูบหนัก ปีนี้ประกาศเดินหน้ารุกครบวงจร เพิ่มสินค้าใหม่หลากหลาย เน้นส่งรถเครื่องยนต์ดีเซล และซีบียูมากขึ้น รวมถึงลุยเจาะตลาดกลุ่มองค์กร พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายและบริการหลังขาย
มิคาเอล คอร์ดิส ประธานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาบีเอ็มดับเบิลยูมียอดขายที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และลดลงจากปีก่อนหน้าพอสมควร เนื่องจากภาพรวมตลาดรถยนต์ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมัน และสภาวะเศรษฐกิจชะลอ ประกอบกับบีเอ็มดับเบิลยูได้มีการปรับปรุงการทำงานทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน ตัวแทนการขาย และสินค้า ทำให้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้
“ในปีนี้บีเอ็มดับเบิลยูมีความพร้อมที่จะรุกตลาดอีกครั้ง เพื่อกลับมาเติบโตในตลาดรถยนต์หรูหรา โดยได้มีการวางแผนงานรุกครอบคลุมทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าใหม่ๆ ที่จะแนะนำสู่ตลาด ระบบการจำหน่าย และบริการหลังการขาย”
โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ของบีเอ็มดับเบิลยู ปีนี้จะเน้นไปที่รถเครื่องยนต์ดีเซลมากขึ้น หลังจากปีที่แล้วได้เปิดตัว บีเอ็มดับเบิลยู 520ดี สู่ตลาดและได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างมาก แม้แต่รุ่น 520ดี เวอร์ชั่นสำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรก็เช่นเดียวกัน และจากความต้องการที่มีมากทำให้ปีนี้บีเอ็มดับเบิลยูจะแนะนำรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งสามารถใช้ได้กับน้ำมันดีเซล B2 และ B5 สู่ตลาดหลายรุ่น โดยในเร็วๆ นี้จะมีการเปิดตัว เพื่อเข้าร่วมงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2008 ที่ไบเทค บางนา
นายคอร์ดิสกลาวว่า นอกจากรถเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ๆ ที่จะแนะนำสู่ตลาดแล้ว ในปีนี้บีเอ็มดับเบิลยูจะเน้นรถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศ (CBU) เข้ามาทำตลาดมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาลูกค้าให้ความสนใจรถซีบียูของบีเอ็มดับเบิลยูมาก แต่ความไม่พร้อมจึงไม่ได้ตอบสนองความต้องการดังกล่าวให้กับลูกค้า
“ปีนี้ถึงเวลาแล้วที่บีเอ็มดับเบิลยูจะรุกตลาดรถซีบียูอย่างจริงจัง โดยในเดือนนี้จะร่วมกับดีลเลอร์จัดงาน CBU Day เพื่อตอกย้ำและแสดงให้ลูกค้าเห็นความหลากหลายของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูที่มีอยู่ในตลาดโลก และพร้อมจะนำเข้ามาตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยล่าสุดได้เปิดตัวรถใหม่บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม3 คูเป้ ราคา 9.9 ล้านบาทสู่ตลาด ขณะที่ตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กร หรือฟลีต บีเอ็มดับเบิลยูจะเน้นมากขึ้นด้วย”
ส่วนการเตรียมความพร้อมเครือข่ายการจำหน่าย เพื่อสนับสนุนการรุกตลาดของบีเอ็มดับเบิลยู ปีนี้ถือว่ามีความพร้อมที่จะบริการลูกค้าเต็มที่ จากปีที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาตัวแทนจำหน่าย หรือดีลเลอร์ ให้มีมาตรฐานเดียวกัน และเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด รวมถึงการนำเทคโนโลยีทันสมัยมาให้บริการลูกค้า เพราะปัจจุบันการดำเนินงานด้านบริการหลังการขาย เป็นหัวใจสำคัญและสร้างผลกำไรให้กับดีลเลอร์มากที่สุด
สำหรับแนวทางการให้บริการลูกค้า บีเอ็มดับเบิลยูมีโปรแกรมบริการต่างๆ แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรม “บีเอ็มดับเบิลยู เซอร์วิส เอ็กซ์คลูซีฟ” หรือ “การให้บริการเคลื่อนที่” (BMW Mobility Service) เพื่อมอบสิทธิประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า
“ผลจากรุกตลาดครอบคลุมทั้งระบบ จึงทำให้บีเอ็มดับเบิลยูมั่นใจว่า ปีนี้จะมียอดขายเติบโต และมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น สวนทิศทางภาพรวมตลาดรถหรูไทยปีนี้ ซึ่งจากการวิเคราะห์ของบีเอ็มดับเบิลยู คาดว่าจะมียอดขายใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา อยู่ที่ประมาณ 7,000 คัน”นายคอร์ดิสกล่าว
มิคาเอล คอร์ดิส ประธานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาบีเอ็มดับเบิลยูมียอดขายที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และลดลงจากปีก่อนหน้าพอสมควร เนื่องจากภาพรวมตลาดรถยนต์ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมัน และสภาวะเศรษฐกิจชะลอ ประกอบกับบีเอ็มดับเบิลยูได้มีการปรับปรุงการทำงานทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน ตัวแทนการขาย และสินค้า ทำให้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้
“ในปีนี้บีเอ็มดับเบิลยูมีความพร้อมที่จะรุกตลาดอีกครั้ง เพื่อกลับมาเติบโตในตลาดรถยนต์หรูหรา โดยได้มีการวางแผนงานรุกครอบคลุมทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าใหม่ๆ ที่จะแนะนำสู่ตลาด ระบบการจำหน่าย และบริการหลังการขาย”
โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ของบีเอ็มดับเบิลยู ปีนี้จะเน้นไปที่รถเครื่องยนต์ดีเซลมากขึ้น หลังจากปีที่แล้วได้เปิดตัว บีเอ็มดับเบิลยู 520ดี สู่ตลาดและได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างมาก แม้แต่รุ่น 520ดี เวอร์ชั่นสำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรก็เช่นเดียวกัน และจากความต้องการที่มีมากทำให้ปีนี้บีเอ็มดับเบิลยูจะแนะนำรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งสามารถใช้ได้กับน้ำมันดีเซล B2 และ B5 สู่ตลาดหลายรุ่น โดยในเร็วๆ นี้จะมีการเปิดตัว เพื่อเข้าร่วมงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2008 ที่ไบเทค บางนา
นายคอร์ดิสกลาวว่า นอกจากรถเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ๆ ที่จะแนะนำสู่ตลาดแล้ว ในปีนี้บีเอ็มดับเบิลยูจะเน้นรถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศ (CBU) เข้ามาทำตลาดมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาลูกค้าให้ความสนใจรถซีบียูของบีเอ็มดับเบิลยูมาก แต่ความไม่พร้อมจึงไม่ได้ตอบสนองความต้องการดังกล่าวให้กับลูกค้า
“ปีนี้ถึงเวลาแล้วที่บีเอ็มดับเบิลยูจะรุกตลาดรถซีบียูอย่างจริงจัง โดยในเดือนนี้จะร่วมกับดีลเลอร์จัดงาน CBU Day เพื่อตอกย้ำและแสดงให้ลูกค้าเห็นความหลากหลายของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูที่มีอยู่ในตลาดโลก และพร้อมจะนำเข้ามาตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยล่าสุดได้เปิดตัวรถใหม่บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม3 คูเป้ ราคา 9.9 ล้านบาทสู่ตลาด ขณะที่ตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กร หรือฟลีต บีเอ็มดับเบิลยูจะเน้นมากขึ้นด้วย”
ส่วนการเตรียมความพร้อมเครือข่ายการจำหน่าย เพื่อสนับสนุนการรุกตลาดของบีเอ็มดับเบิลยู ปีนี้ถือว่ามีความพร้อมที่จะบริการลูกค้าเต็มที่ จากปีที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาตัวแทนจำหน่าย หรือดีลเลอร์ ให้มีมาตรฐานเดียวกัน และเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด รวมถึงการนำเทคโนโลยีทันสมัยมาให้บริการลูกค้า เพราะปัจจุบันการดำเนินงานด้านบริการหลังการขาย เป็นหัวใจสำคัญและสร้างผลกำไรให้กับดีลเลอร์มากที่สุด
สำหรับแนวทางการให้บริการลูกค้า บีเอ็มดับเบิลยูมีโปรแกรมบริการต่างๆ แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรม “บีเอ็มดับเบิลยู เซอร์วิส เอ็กซ์คลูซีฟ” หรือ “การให้บริการเคลื่อนที่” (BMW Mobility Service) เพื่อมอบสิทธิประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า
“ผลจากรุกตลาดครอบคลุมทั้งระบบ จึงทำให้บีเอ็มดับเบิลยูมั่นใจว่า ปีนี้จะมียอดขายเติบโต และมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น สวนทิศทางภาพรวมตลาดรถหรูไทยปีนี้ ซึ่งจากการวิเคราะห์ของบีเอ็มดับเบิลยู คาดว่าจะมียอดขายใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา อยู่ที่ประมาณ 7,000 คัน”นายคอร์ดิสกล่าว