"ฮอนด้า ครอสโรด"เหลี่ยมเล็ก แรงสมตัว

อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนชื่นชอบความแปลกไม่เหมือนใคร “ครอสโรด” รถเอนกประสงค์ 7 ที่นั่งรูปทรงเหลี่ยม จากการนำเข้ามาทำตลาดของค่าย เอส.อี.ซี.กรุ๊ป ผู้นำเข้าอิสระรายใหญ่ของไทย เพื่ออุดทุกช่องว่างของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย

ซึ่งหากจะจัดกลุ่มดูจากรูปทรงน่าจะอยู่ในหมวดของรถเอสยูวี แต่ด้วยการขับเคลื่อน 2 ล้อ และมี 7 ที่นั่งเราจึงจัดให้อยู่ในหมวดของรถเอนกประสงค์ดูเข้าเค้ากว่า โดยครอสโรดเป็นอนุกรมรองลงมาจากซีอาร์-วี ทั้งมิติตัวถัง, ขนาดของเครื่องยนต์ และราคา ตามการจำแนกของแคตาล็อกรถยนต์ฮอนด้าในญี่ปุ่น

ทั้งนี้โดยส่วนตัวผู้เขียนเอง เคยสัมผัสกับเจ้าครอสโรดเมื่อครั้งไปทดสอบรถของฮอนด้าที่ประเทศญี่ปุ่น และยังคงความประทับใจอยู่ เมื่อได้มาสัมผัสกับตัวจริงอีกหนในเมืองไทย จึงไม่พลาดจะทดสอบแบบเต็มใจตามความต้องการทั้งการวิ่งในเมืองและนอกเมือง ครอสโรดคันที่เราทดสอบนี้เป็นรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ขับเคลื่อน 2 ล้อ ตัวท๊อปในประเทศญี่ปุ่น

ภายนอก
เห็นครั้งแรกรู้สึกเหมือนกับรถใหญ่ แต่เมื่อเราลองขับไปจอดเทียบกับฮอนด้า แจ๊ส พบว่า ส่วนสูงแทบจะไม่ต่างกัน รวมถึงความยาวของตัวถังก็ยาวกว่าเล็กน้อย แต่รู้สึกกว้างกว่า และเมื่อพิจารณาถึงสเปคมิติตัวถังแล้ว ครอสโรดมีความยาว 4,285 มิลลิเมตร กว้าง 1,755 มิลลิเมตรและสูง 1,670 มิลลิเมตร โดยรวมใหญ่กว่าแจ๊สไม่มากแต่จะเล็กกว่าซีอาร์-วีอย่างชัดเจน

เจ้าครอสโรดที่เอสอีซี นำเข้ามาจำหน่ายคันนี้ ได้รับการตกแต่งด้วยชุดแต่งรอบคันจากโรงงาน และมีสีขาวเป็นตัวนำในการทำตลาด หากต้องการสีอื่นอาจจะต้องสั่งเป็นกรณีพิเศษ ครอสโรดมาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/60R17

ภายใน
เปิดประตู เดินเข้ามาในห้องโดยสารความรู้สึกแรกต้องบอกตรงๆ ว่า “นี่มัน ซีวิค นี่หว่า” เนื่องจากไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัย เกียร์ หรือปุ่มปรับต่างๆ มองยังไงก็เหมือนกับของที่ประจำการอยู่ในฮอนด้า ซีวิค ซึ่งเรื่องนี้มองได้ทั้งสองมุม มุมหนึ่งคือการลดต้นทุนการผลิตของผู้ผลิต ส่วนอีกมุม เป็นการรวมเอาชิ้นส่วนดีอยู่แล้วมารวมไว้ในรถ

ในแง่ของการใช้งาน เรานิยามสั้นๆ คำว่า “ง่าย” ด้วยการจัดวางตำแหน่งปุ่มฟังก์ชั่นต่างๆ อย่างลงตัว ส่วนรูปแบบความสวยงามนั้นแล้วแต่ความชอบของใครของมัน แต่ถ้าถามความเห็นของผู้เขียนขอตอบว่า “ถูกใจอย่างแรง” คือหากอนาคตฮอนด้า ออโตโมบิล กล้าตัดสินใจเลือกทำตลาดเจ้าครอสโรดในเมืองไทย เราว่ามีโอกาสแจ้งเกิดได้หากตั้งราคาขายต่ำกว่าซีอาร์-วีเหมือนเช่นจำหน่ายในญี่ปุ่น

ขณะที่ความสบายของการนั่ง เบาะหน้าเป็นแนวแบนๆ ไม่ค่อยโอบกระชับ และต้องปรับด้วยมือ โดยรวมจัดว่านั่งสบายในระดับหนึ่ง ส่วนเบาะแถวสองนั่งไม่สบายเลยสำหรับคนที่มีส่วนสูงเกิน 180 ซม.ขึ้นไป เนื่องจากหากพับเบาะหลังแถวสุดท้ายแล้วจะไม่สามารถเอนเบาะนั่งแถวสองได้ ทำให้ต้องนั่งตัวตรง 90 องศาทีเดียว
สำหรับอุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ เช่น เบาะนั่งแบบกันน้ำได้, เบาะตอนที่ 3 สามารถพับเก็บได้ พร้อมด้วย หลังคา Sunroof ตามสมัยนิยม

สมรรถนะ
เจ้า “ครอสโรส” บรรจุขุมพลังขนาด 2.0 ลิตร i-VTEC 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 190 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสองล้อ (2 WD) เห็นตัวเลขสเปคแล้วคงไม่ต้องแปลกใจ เพราะเป็นเครื่องตัวเดียวกับ ซีอาร์-วี รุ่น 2.0 ที่ขายในบ้านเรานั่นเองครับ

สำหรับการเดินทางเราเริ่มต้นด้วยการใช้งานแบบวิ่งนอกเมืองบนถนนลอยฟ้าเส้นบรมราชชนนี วิ่งความเร็วเฉลี่ยประมาณ 120-140 กม./ชม. เจ้าครอสโรดนิ่งเกาะถนนเยี่ยมไม่แพ้รถเอสยูวีรุ่นพี่อย่าง ซีอาร์-วี ส่วนอัตราเร่งความเร็วย่าน 60-80 กม./ชม. ไม่เร้าใจเท่าซีอาร์-วีแต่ถือว่าตอบสนองทันใจสมกับขนาดรูปทรงตัวถังและน้ำหนักรถที่มีถึง 1,530 กิโลกรัม

ส่วนการใช้งานในเมืองมุมมองทัศวิสัยชัดเจนดีเฉกเช่นรถแบบซีดาน การเลี้ยวโค้งในสถานที่แคบๆ การเปลี่ยนเลนแบบฉับพลัน ทำได้คล่องแคล่งเหมือนไม่ใช่รถรูปทรงเอสยูวี การหมุนพวงมาลัยเบามือมากเหมือนขับรถขนาดเล็ก การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่ต้องชมเชย

ด้านความนุ่มนวลของการขับขี่เจ้าครอสโรดทำได้ประทับใจ ซึ่งต้องขอบคุณระบบช่วงล่างหน้าแบบแม็คเฟอร์สัน สตรัท และหลังแบบ ดับเบิ้ลวิชโบน จังหวะเบรกนุ่มนวลขึ้น หัวไม่ทิ่ม เปลี่ยนบุคลิกจากสไตล์ของรถฮอนด้ารุ่นเก่าๆไปสิ้นเชิง

ความปลอดภัยครอสโรด มีให้เพียบอาทิ ระบบควบคุมการทรงตัว (Traction Control System) และระบบควบคุมการลื่นไถลด้านข้าง (Sideslip Control) พร้อมเสริมด้วยระบบ Hill Start Assist ที่คอยเพิ่มแรงเบรกขณะเวลารถเคลื่อนลงมาจากทางชัน แม้ผู้ขับจะปล่อยเท้าออกจากแป้นเบรกแล้วก็ตาม ให้การออกตัวเป็นไปอย่างราบรื่น รวมไปถึงระบบความปลอดภัยมาตรฐาน เบรกเอบีเอสและบีเอ เป็นต้น

เราวิ่งไประยะทางทั้งสิ้น 175.6 กม. อัตราการบริโภคน้ำมันเฉลี่ยตลอดเส้นทางตามการรายงานผลของจอคอมพิวเตอร์ในรถ ระบุตัวเลข 10.1 กม./ลิตร ถือว่าสวยทีเดียวสำหรับรถแบบเอสยูวีเช่นนี้ ขณะที่ตัวเลขอ้างอิงของค่ายเอส.อี.ซี. อยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 13.8 กม./ลิตร

สุดท้าย เอส.อี.ซี.ตั้งราคาค่าตัวของเจ้าครอสโรดไว้ที่ 2.49 ล้านบาท ถามว่าแพงไปไหม เมื่อเทียบกับสมรรถนะที่ได้รับขอตอบแบบเลี่ยงบาลีว่า รถคันนี้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ชอบความแปลกที่ไม่เหมือนใคร เนื่องจากพิกัดอัตราภาษีนำเข้าของบ้านเรายังเป็นกำแพงป้องกันอุตสาหกรรมการประกอบรถยนต์ในประเทศอยู่นั่นเอง