ด้วยยอดขายสะสมกว่า 455,000 คัน ตลอดระยะเวลา 40 ปี ที่โตโยต้าส่งเก๋งคอมแพกต์ นาม “โคโรลล่า” ทำตลาดในเมืองไทย จากเจเนอเรชันแรกเปิดตัวตั้งแต่ พ.ศ.2509 โดยเป็นการนำเข้าทั้งคันมาจากประเทศญี่ปุ่น จนถึงรุ่นล่าสุดเจเนอเรชั่น 10 ที่ผลิต ณ โรงงานเกตเวย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา และเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
หลังเห็น “ออแลนโด้ บลูม” ดาราดังจากฮอลลีวูดออกมาแนะนำดาวดวงใหม่ พร้อมปรบมือให้อย่างเท่ในโฆษณาเปิดตัวที่คาดว่าจะใช้กันทั้งภูมิภาคอาเซียน...อ้าวนี่“อัลติส ไมเนอร์เชนจ์” รึ? หลายคนคิด เพราะด้วยรูปลักษณ์หน้าตาดูแล้วไม่โดดไปจากเดิมนัก และถ้าหันไปเปิดหนังสือพิมพ์หรือเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ ที่ถึงแม้เราจะบอกว่าเป็นโมเดลเชนจ์สดซิง แต่ด้วยเครื่องยนต์ 1ZZ-FE ขนาด 1.8 ลิตร และ 3ZZ-FE ขนาด 1.6 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และธรรมดา 5 สปีด ระบบกันสะเทือนหลังเป็นคานแข็งเหมือนเดิม อาจทำให้บางคนไม่เปลี่ยนความคิด
เหตุนี้แหละครับที่เราจะมาบอกรายละเอียดเพิ่มเติม หรือความรู้สึกหลังได้สัมผัสทั้งตัวและหัวใจ ในทริปทดสอบที่โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย (TMT) จัดให้บนเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่ง “ผู้จัดการมอเตอริ่ง” ได้รุ่นท็อป 1.8G ราคา 9.69 แสนบาท เป็นพาหนะ
รูปลักษณ์
ตัวถังยาว ใหญ่ กว้าง ขึ้นทุกมิติ แต่ความสูงลดลง 15 มิลลิเมตร ให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (Cd) เพียง 0.29 ขณะที่รูปลักษณ์รวมๆไม่โดดเด่นแปลกตา แต่พยามยามออกแบบให้มีเอกลักษณ์ไปทิศทางเดียวกันกับเก๋งร่วมค่าย ทั้งเส้นสายลายกระโปรงลู่มนรับกับกระจังหน้า โคมไฟโหนกนูน พร้อมไฟตัดหมอก เสริมไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ซึ่งมองดีไซน์ด้านหน้าออกจะเคล้าคลึงไปทางทางคัมรี่อยู่ ไม่น้อย ด้านหลังออกแบบเรียบๆ พร้อมไฟเบรกดวงที่สาม รวมถึงล้ออัลลอยด์ลาย 10 ก้านขนาด 16 นิ้ว
ภายในออกแนวอบอุ่นกับโทนสีเบจ แต้มหรูด้วยลายไม้รอบคัน พวงมาลัยมีปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และครูสคอนโทรล ส่วนชุดเครื่องเสียง ปุ่มปรับอุณหภูมิตรงคอนโซลกลางดูดีมีสกุลใช้งานง่าย พร้อมช่องเก็บของมากมายรอบคัน ทั้งยังกว้างขวางนั่งสบายทุกตำแหน่ง เฮดรูม เลครูมเหลือเฟือ ขณะที่เบาะหลังพับได้ 60:40 เพื่อความอเนกประสงค์
สมรรถนะ
ขุมพลังขนาด 1.8 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVT-i บล็อกเดิมแต่ลดกำลังลงมาเหลือ 132 แรงม้า (เดิม 136 แรงม้า) ซึ่งน่าจะเป็นการปรับเพื่อรองรับมาตรฐานไอเสียยูโร 4 ในอนาคต และคำถามว่าทำไม่ยังใช้เครื่องยนต์เดิม ก็แว่วๆมาว่าเป็นเรื่องการปรับให้รองรับน้ำมัน แก๊สโซฮอล์ อี20 เนื่องจากทางญี่ปุ่นเห็นว่าควรจะใช้บล็อกนี้ไปก่อน ประกอบกับแผนติดก๊าซซีเอ็นจี จากโรงงาน (น่าจะเป็นเครื่อง 1.6) ซึ่งโตโยต้าเล็งไว้เช่นกัน ดังนั้นคำตอบจึงมาจบที่เครื่องยนต์รหัสนี้น่าจะเหมาะสมสุด
อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์ได้เปลี่ยนตัวประมวลผล (ECU) จากเดิม 16 บิต เป็น 32 บิต เพื่อการสั่งการไวขึ้น พร้อมปรับอัตราทดเกียร์ และอัตราทดเฟืองท้ายใหม่ จึงทำให้การถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ไม่ขี้เหร่เท่าไหร่ ซึ่งถ้าดูกันตามสเป็กในโบรชัวร์แล้ว ผมว่าอัลติส 1.8G ทำได้ดีกว่าที่คาด
ถึงแม้อัตราเร่งอาจไม่จี๊ดจ้าดเมื่อเทียบกับซีวิค แต่ไม่ทำให้หงุดหงิดอารมณ์มากมาย ทั้งการออกตัวหรือเร่งแซงช่วงความเร็วกลางๆไม่อุ้ยอ้ายจนน่าเกลียดครับ ส่วนเกียร์ขั้นบันไดพร้อมเล่นเป็นแบบเกียร์ธรรมดาหรือแมนวลชิฟท์ได้ ก็ใช้งานคล่องมือทีเดียว
ด้านอัตราบริโภคน้ำมันอย่างไม่เป็นทางการ โดยอาศัยเล็งจากหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ บอกว่าซดระดับ 12.8 กิโลเมตร/ลิตร เมื่อขับนอกเมืองความเร็วเฉลี่ย 100-120 กม./ชม. ส่วนการขับในเมืองจะอยู่ประมาณ 9-10 กิโลเมตรต่อลิตร
ควบคุม-ช่วงล่าง
การบังคับควบคุมผ่านพวงมาลัยไฟฟ้าถึงแม้จะเฉียบคมแม่นยำ แต่ความรู้สึกยังเบามือเหมือนพวกวีออส กับคัมรี่ ซึ่งข้อดีคือใช้มอเตอร์ไฟฟ้าจึงไม่ทอนกำลังเครื่องยนต์มากนัก และน้ำหนักพวงมาลัยจะแปรผันตามความเร็วของรถ คือถ้าขับที่ความเร็วสูงๆมันจะหน่วงมือขึ้นเพื่อเพิ่มความมั่นใจ
สำหรับ อัลติสใหม่ ยังใช้แพลตฟอร์มเดิม และระบบกันสะเทือนหน้าเป็นอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท หลังเป็นคานแข็ง แต่มีการปรับให้หนึบขึ้นนิดหน่อย พร้อมความสูงของรถต่ำลง ทำให้การทรงตัวดีขึ้น ขับทางตรงยาวๆ ความเร็ว 120-140 กม./ชม. ตัวรถนิ่งใช้ได้ หรือตอนเข้าโค้งสั้นยาวยังให้ความมั่นใจ ขณะเดียวกันการลองนั่งเป็นผู้โดยสารด้านหลัง รู้สึกว่าไม่ย้อยยวบเหมือนรุ่นเดิม
ความปลอดภัย
การทดสอบระยะเบรก (ในห้องทดลอง) จากความเร็ว 100 กม./ชม.ถึงจุดหยุดนิ่ง อัลติสทำได้ 36.79 เมตรก็นับว่าไม่เลวครับ แต่ถ้าถามความรู้สึกในการเหยียบแป้นเบรกให้รถชะลอหยุด ส่วนตัวยังไม่ค่อยประทับใจนัก คือไม่ใช้เบรกไม่อยู่หรือไม่ดี แต่เวลากดน้ำหนักเท้าลงไปแล้วมันยังทำไม่ได้อย่างที่ใจคิด
ด้านอุปกรณ์ความปลอดภัยทั้งก่อนและหลังการชน ถือว่ารุ่น 1.8G ใส่มาให้มากที่สุดในรุ่นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีในสภาพถนนลื่น TRC พร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า
รวบรัดตัดความ...โคโรลล่า อัลติส ใหม่ กับรูปลักษณ์ธรรมดาที่ยังคงกลิ่นอายเดิมๆ ไว้มากโข ส่วน ออปชั่นรวมๆยังมาไม่สะใจ สำหรับการขับอาจไม่เร้าใจเหมือนซีวิคที่ได้เรื่องความปรู๊ดปร๊าดของเครื่องยนต์ หรือสองพันธมิตรโฟกัส มาสด้า 3 ได้ความสนุกมันจากช่วงล่าง ซึ่งอัลติสนั้นบุคลิกจะออกแนวผู้ใหญ่นิ่งเรียบ สะท้อนไปถึงกลุ่มเป้าหมายหลักคือลูกค้าอายุ 35 – 40 ปี โดยโตโยต้าตั้งเป้ายอดขายไว้ 2,600 คัน/เดือน
อย่างที่บอกว่าอัลติส ยังคงหัวใจเดิม พื้นฐานเดิม แต่ถูกปรับปรุงพัฒนาตามความเหมาะสมของสถานการณ์ปัจจุบันและแผนงานในอนาคต และไม่ว่าโตโยต้าจะเรียกทางการตลาดว่ารุ่นนี้เป็นของใหม่ (โมเดลเชนจ์) หรือใครจะมองว่าเป็นแค่คนเดิมแต่งเติมศัลยกรรม แต่ถ้ายอดขายยังทำได้ตามเป้าโตโยต้าคงพอใจ แล้วสุดท้ายบั้นปลายก็เชื่อว่าเราจะเห็น “โคโรลล่า อัลติส” วิ่งกันเกลื่อนถนนและเป็นเก๋งคู่บ้านคู่เมืองไปอีกนาน
ข้อมูลเทคนิค โคโรลล่า อัลติส 1.8G
เครื่องยนต์ | เบนซิน DOHC 4 สูบเรียง 16 วาล์ว |
ความจุกระบอกสูบ(ซีซี) | 1794 |
กำลังสูงสุด(แรงม้า/รตน.) | 132/6,000 |
แรงบิดสูงสุด(นิวตันเมตร/รตน.) | 170/4,200 |
ระบบส่งกำลัง | อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อมแมนวลชิฟท์ |
ความยาว(มม.) | 4,540 |
ความกว้าง(มม.) | 1,760 |
ความสูง(มม.) | 1,465 |
ระยะฐานล้อ(มม.) | 2,600 |
ความจุถังน้ำมัน(ลิตร) | 55 |
ระบบกันสะเทือน หน้า | แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง |
ระบบกันสะเทือน หลัง | ทอร์ชันบีม พร้อมเหล็กกันโคลง |
ขนาดยางหน้า-หลัง | 205/50R16 |
ราคา(บาท) | 969,000 |