แม่สอด-ทหารเมียนมาเปิดฉากโจมตีกะเหรี่ยง KNU อย่างหนักในเมียวดี กระสุนปืน ค.ช้ามน้ำเมยตกลงมาในฝั่งไทย บ้านเรือนหลายหลังและรถยนต์เสียหาย ลุงวัย 68 ปีถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ 1 คน ชาวจีนหนีตายมาฝั่งไทยบาดเจ็บ 4 คน
วันนี้ (5 ธ.ค.) สถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารเมียนมาและกองพลที่ 6 สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ที่บ้านมินลาป่าน อ.เมียวดี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ตรงกันขัามบ้านแม่โกนเกน หมู่ 9 ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังคงดุเดือดอย่างต่อเนื่องหลังจากกองทัพเมียนมาพยามบุกยึดฐานที่มั่นของ KNU ในเขตนี้ให้ได้มานานนับสัปดาห์ ล่าสุดได้มีการใช้อากาศยานไร้คนขับหรือโดรนบินเข้าทิ้งระเบิดใส่ฐานที่มั่นของ KNU ทำให้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นชายแดน จากนั้นมีการระดมกำลังบุกภาคพื้นดินบุกโจมตีทำให้เกิดการยิงปะทะกันในระยะประชิดอย่างหนัก และทั้ง 2 ฝ่ายมีการใช้ปืน ค.60 และ ค.81 โจมตีใส่กัน
ผลของการสู้รบทำให้มีลูกกระสุนปืน ค.81 จำนวน 1 ลูกตกลงมาใส่บ้านเลขที่ 343 หมู่บ้านแม่โกนเกนจนได้รับความเสียและสะเก็ดระเบิดได้กระเด็นไปถูกบริเวณไหล่ซ้ายของนายสม จำปา อายุ 68 ปีเจ้าของบ้านที่กำลังนั่งจักดอกไม้ไผ่อยู่ที่ใต้ถุนบ้านจนได้รับบาดเจ็บเลือดออกบริเวณบาดแผลไม่หยุด หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าทหารกองกำลังนเรศวรและหน่วยกู้ชีพกู้ภัยได้รีบนำส่งโรงพยาบาลแม่สอดอย่างเร่งด่วน
นายยศกร ใจมะนา อายุ 18 ปี หลานชายของนายสม กล่าวว่าช่วงที่มีการสู้รบกันในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านตนกำลังนั่งรับประทานอาหารกลางวันอยู่ในบ้านใกล้กัน จากนั้นได้ยินเสียงระเบิดและมีกระสุนปืนตกลงมาใส่บ้านของนายสมซึ่งนอกจากจะทำให้ได้รับบาดเจ็บแล้ว ที่บ้านเลขที่ 240 ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกันยังมีสะเก็ดระเบิดตกใส่กระโปรงหน้ารถเก๋งสีขาวจนเป็นรูขณะที่เจ้าของบ้านกำลังล้างรถอยู่อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีบานเรือน กระจกหน้าต่าง รั้ว เสาและบานประตูบ้านของชาวบ้านหลายหลังได้รับความเสียหาย
"เหตุการณ์ช่วงนี้ทำให้คนไทยเราเดือดร้อนทุกวัน พวกเขาไม่มีการหยุดยิงเลย คนแก่ชาวบ้านเด็กเล็กได้รับผลกระทบกันหมด จึงอยากให้ถ้าสู้รบกันก็ขออย่าให้ล้ำเข้ามาในเขตแดนไทยด้วย" ชาวบ้านกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่าขณะมีการสู้รับในฝั่ง จ.เมียวดี ได้มีชายชาวสัญชาติจีนจำนวน 4 คนที่อยู่ใกล้บริเวณการสู้รบในฝั่งประเทศเมียนมาถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะ 1 คนและใบหู 1 คน ที่ข้อมือซ้าย 1 คน และขาซ้ายอีก 1 คน ทำให้ต่างได้รับบาดเจ็บแต่ยังมีแรงว่ายข้ามแม่น้ำเมยเพื่อหนีตายมาถึงฝั่งไทย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ราชมนู กองกำลังนเรศวร ได้ให้การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมโดยหาเสื้อผ้าให้เปลี่ยนและพาไปรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแล้ว
ด้านนายสัญญา เพชรเศษ นายอำเภอแม่สอด ได้เดินทางเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่บ้านแม่โกนเกน โดยให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนอยู่ในที่ปลอดภัยโดยเฉพาะช่วงที่มีการสู้รบกันหนัก นอกจากนี้ได้เตรียมพื้นที่ปลอดภัยไว้รองรับ ทั้งนี้หลังมีกระสุนปืน ค.ตกลงมาในฝั่งไทยทหารไทยได้ใช้อาวุธปืน ค.ขนาด 120 ยิงกระสุนสังหารตอบโต้ไปยังฝั่งเมียนมาพร้อมกับกระสุนควันเพื่อเตือนไม่ให้มีการยิงล้ำเข้ามายังประเทศไทยอีก.


