ตาก - ศึกกะเหรี่ยง-เมียนมาปะทุหนักริมชายแดนแม่สอด ใช้ปืน ค.60-ค.120 และโดรนทิ้งระเบิดต่อเนื่องตั้งแต่ 30 พ.ย. เสียงปืนดังเข้าฝั่งไทย กองกำลังนเรศวรสั่งปิดท่าข้ามทุกจุด 7 วัน เหลือเพียงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 เปิดใช้งานตามปกติ
วันนี้ (1 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย‐เมียนมาบริเวณ อ.แม่สอด จ.ตาก ยังคงตึงเครียดอย่างหนัก หลังเกิดการสู้รบระหว่างกองกำลังเคเอ็นยู (KNU) กองพลที่ 6 กับทหารเมียนมา กองพล 22 ในเขตบ้านมินละป่าน อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ฝั่งตรงข้ามบ้านแม่โกนเกน หมู่ 4 ต.มหาวัน อ.แม่สอด
การปะทะลุกลามต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายระดมยิงอาวุธหนัก ทั้งปืน ค.60, ค.120 และโดรนติดระเบิด โจมตีฐานที่มั่นป่าสัก บ้านมินลาป่านเป็นระยะ เสียงระเบิดดังสะเทือนข้ามแดนได้ยินถึงพื้นที่ฝั่งไทยหลายช่วงตลอดคืน
รายงานระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบตัวเลขความสูญเสีย และยังไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อฝั่งไทย
โดยกองกำลังนเรศวรมีคำสั่งปิดท่าข้ามทุกจุดชั่วคราวเป็นเวลา 7 วันเพื่อสกัดการเคลื่อนย้ายคนระหว่างประเทศในช่วงสถานการณ์รุนแรง แต่ยังคงเปิดให้ผ่านเข้า-ออกได้เฉพาะ สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 (บ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด) ตามปกติ
ด้าน พล.ต.ไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมด้วย นายสัญญา เพชรเศษ นายอำเภอแม่สอด ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยมีทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ตำรวจตระเวนชายแดน กองร้อย ตชด.346 ตรึงกำลังแนวพรมแดนเต็มพื้นที่ พร้อมตอบโต้ทันที หากมีกระสุนจากการสู้รบล้ำแดนเข้ามาอีก
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมามีกระสุนปืน ค.ยิงล้ำเข้ามาฝั่งไทย จำนวน 5 นัด ทำให้ชาวเมียนมาที่อาศัยในไทยบาดเจ็บ 2 ราย


