สมุทรสงคราม - อบจ.สมุทรสงครามทุ่มงบ 86 ล้านบาท รื้อสะพาน–ซ่อมถนนทรุด เร่งเดินหน้า 3 โครงการใหญ่ แก้ปัญหาความปลอดภัยชาวบ้าน
วันนี้ (29 พ.ย.) นายเจษฎา ญาณประภาศิริ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมนายอานนท์ ตันติดำรงกุล นายกเทศมนตรีเมืองสมุทรสงคราม สมาชิกสภาเทศบาล สมาชิกสภา อบจ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวมกว่า 40 คน ลงพื้นที่ชุมชนวัดประทุมคณาวาส เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม เพื่อตรวจสอบสภาพสะพานผาสุก หรือที่ชาวบ้านเรียก “สะพานวัดประทุม” รวมถึงถนนไชยพร ตั้งแต่จุดตรวจ 200 ปีถึงสี่แยกแสงวณิช หลังถูกน้ำทะเลหนุนท่วมเป็นประจำจนเกิดการทรุดโทรมอย่างหนัก
พื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำเค็ม ส่งผลให้โครงสร้างคอนกรีตเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ โดยเฉพาะสะพานผาสุกที่สร้างมากว่า 50 ปี ปัจจุบันผุกร่อน แผ่นปูนหลุดล่อนหลายจุด แม้เคยซ่อมแซมครั้งล่าสุดเมื่อ 18 ปีก่อนด้วยงบประมาณ 7 ล้านบาท แต่ก็เสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านจึงร้องเรียนถึงความเสี่ยงอันตรายของผู้สัญจรหากไม่เร่งบูรณะ
นายเจษฎา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าจำเป็นต้องรื้อสะพานผาสุกและสร้างใหม่ทั้งระบบ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและรถทุกชนิดที่สัญจรผ่าน เนื่องจากมีปริมาณการใช้งานสูงและเสี่ยงต่อการทรุดตัว ขณะที่ถนนหลายช่วงก็ได้รับความเสียหายจากน้ำทะเลหนุนที่สูงถึง 50–60 เซนติเมตร ส่งผลให้รถเล็กและรถไฟฟ้า (EV) ไม่สามารถผ่านได้ ประชาชนสองฝั่งถนนหลายร้อยครัวเรือนเดือดร้อนอย่างหนัก
จากการสำรวจร่วมกันของ อบจ. และเทศบาล พบว่ามีหลายจุดที่ต้องซ่อมแซมโดยเร่งด่วน จึงจัดทำแผนดำเนินการ 3 โครงการใหญ่ ได้แก่ 1 โครงการปรับปรุงถนนจากสามแยกบางแสม ผ่านโรงเรียนวัดประทุมคณาวาส พร้อมรื้อและสร้างสะพานผาสุกใหม่ รวมถึงยกระดับถนนถึงจุดตรวจ 200 ปี 2.โครงการปรับปรุงถนนหน้าวัดประทุมคณาวาสถึงสี่แยกแสงวณิช เชื่อมต่อถนนปากท่อสายเก่า 3.โครงการปรับปรุงถนนในซอยทวีสุข คลองกะซ้า
ทั้งสามโครงการใช้งบประมาณรวม ประมาณ 86 ล้านบาท โดยพิจารณาใช้เงินเหลือจ่ายหรือเงินสะสมของ อบจ. ซึ่งต้องผ่านการพิจารณาของสภา หากได้รับอนุมัติ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปี 2569
ด้านนายอานนท์ ตันติดำรงกุล นายกเทศมนตรีเมืองสมุทรสงคราม กล่าวว่า โครงการทั้งหมดเกินศักยภาพงบประมาณของเทศบาล จึงต้องขอการสนับสนุนจาก อบจ. ซึ่งให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี การลงพื้นที่ครั้งนี้ทำให้สมาชิกสภาเห็นสภาพจริง และเชื่อว่าจะร่วมกันผลักดันเพื่อแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนโดยเร็วที่สุด.


