เชียงใหม่ - รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคเหนือ(นบ.ยส.35) ประชุมฝ่ายความมั่นคง หารือแนวทางปฏิบัติงานและปรับแผนการสกัดกั้นยาเสพติด หวังเพิ่มประสิทธิภาพการประสานงานระหว่างหน่วยงานช่วงเทศกาลท่องเที่ยว เผยล่าสุดในรอบ 1 เดือน ยึดยาบ้ากว่า 42 ล้านเม็ด พร้อมยาเสพติดอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก
พลโทชายแดน กฤษณสุวรรณ แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคเหนือ(นบ.ยส.35 ) เป็นประธานประชุมฝ่ายความมั่นคง ที่ นบ.ยส.35 จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 6 พ.ย.68 เพื่อรับทราบผลการปฏิบัติงานในห้องที่ผ่านมาและมอบแนวทางการปฏิบัติงานในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวของภาคเหนือ เพื่อให้การปฏิบัติงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยรองผู้บัญชาการ นบ.ยส.35 กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวของภาคเหนือที่มักจะมีนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่มากขึ้น ประกอบกับปัจจุบันแนวโน้มของการลักลอบลำเลียงยาเสพติดยังคงมีปริมาณมาก เนื่องจากพบว่ามีกลุ่มผลิตกลุ่มใหม่ตามพื้นที่ชายแดนเพิ่มขึ้น และยังคงมีความพยายามในการลักลอบลำเลียงในแบบต่าง ๆ ส่งผลให้ฝ่ายความมั่นคงต้องปฏิบัติงานด้วยความเข้มข้น โดยมุ่งเน้นการปรับแผนการสกัดกั้นยาเสพติดตามสถานการณ์ที่ปรับเปลี่ยน เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการประสานงานระหว่างหน่วยงานในพื้นที่ โดยเฉพาะการจัดกำลังลาดตระเวน การตั้งจุดตรวจในพื้นที่ล่อแหลม และการตรวจค้นรถโดยสารสาธารณะ รวมทั้งการขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งตรวจสอบการขนส่งสินค้าผ่านโลจิสติกส์ในพื้นที่รอบอำเภอชายแดน
ทั้งนี้ในห้วงเดือนที่ผ่านมาหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคเหนือได้สกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยมีเหตุการณ์สำคัญ 26 เหตุการณ์ มีการปะทะกับกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด 7 ครั้ง ตรวจยึดจับกุม 19 ครั้ง สามารถตรวจยึดยาบ้าได้กว่า 42.51 ล้านเม็ด, ไอซ์ 572 กก., เฮโรอีน 140 กก., คีตามีน 155 กก. จับกุมผู้ต้องหา 21 ราย,กลุ่มขบวนการเสียชีวิต 8 ศพ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบในห้วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา พบว่า สามารถตรวจยึดยาบ้าเพิ่มมากขึ้น จำนวน 11.8 ล้านเม็ดเศษ คิดเป็นร้อยละ 38.57 อย่างไรก็ตาม นบ.ยส.35 ยังคงจัดกำลังทหารร่วมกับฝ่ายความมั่นคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อปิดช่องว่างตามแนวชายแดน และที่สำคัญประชาชนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันยาเสพติดได้ ด้วยการแจ้งเบาะแสได้ที่ศูนย์รับแจ้งข่าวยาเสพติด โทร. 1386 (สายด่วน ป.ป.ส.) หรือแจ้งผ่านเพจ หน่วย นบ.ยส.35 โดยส่งข้อความได้ตลอด 24 ชั่วโมง


