ชัยนาท - ชลประทานเตือนพื้นที่เหนือเขื่อน-ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เฝ้าระวังน้ำสูงขึ้นอีก 30-90 เซนติเมตร เนื่องจากต้องทำการหน่วงน้ำเหนือเขื่อน เพิ่มระบายน้ำท้ายเขื่อน หลังแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ชาวบ้านเร่งทำกระสอบทรายกั้นน้ำคลองบางเสวย ป้องกันน้ำท่วมหมู่บ้าน
วันนี้(2 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่มีฝนตกหนักทางพื้นที่ตอนบนลุ่มเจ้าพระยา และฝนที่ตกในพื้นที่จังหวัดชัยนาท ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และ ลำน้ำสาขา มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยวันนี้น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลผ่านสถานี C2. จ.นครสวรรค์ มีปริมาณ 2,713 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเดิม 40 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ที่จังหวัดชัยนาท มีปริมาณ 2,736 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเดิม 25 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสมตามสถานการณ์ วันนี้ กรมชลประทาน จะปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จากอัตรา 2,300 เป็น 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะเริ่มปรับตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป เพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 15 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงแจ้งเตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่จังหวัดชัยนาท ถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เฝ้าระวังระดับน้ำที่จะสูงขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 30 เซนติเมตร
ส่วนพื้นที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา บริเวณ อ.เมืองชัยนาท อ.วัดสิงห์ อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท และ อ.เมือง จ.อุทัยธานี ให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่จะเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 90 เซนติเมตร เนื่องจากกรมชลประทานจะใช้พื้นที่ว่างเหนือเขื่อน ทำการหน่วงน้ำไว้ชั่วคราว ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา กลับมาถูกน้ำท่วมซ้ำเป็นรอบที่ 2
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดชัยนาท ได้ขยายวงกว้างมากขึ้น มีน้ำล้นตลิ่งเพิ่มขึ้นอีกหลายจุด ชาวบ้านต้องเร่งทำคันกระสอบทรายกั้นน้ำ เพื่อป้องกันน้ำท่วมหมู่บ้าน โดยชาวบ้านที่ ม.5 ต.โพนางดำตก อ.สรรพยา เร่งทำคันกระสอบทรายกั้นน้ำยาวเกือบ 200 เมตร เพื่อกั้นน้ำจากคลองบางเสวย ที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งน้ำได้ล้นตลิ่ง และไหลล้นบานประตูระบายน้ำบางเสวยอย่างต่อเนื่อง
นายพนม โพธิ์ยา ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.โพนางดำตก บอกว่า ตอนนี้ต้องเร่งทำคันกระสอบทรายกั้นไม่ให้น้ำจากคลองบางเสวย ไหลเข้าท่วมพื้นที่ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดต่ำสุดของหมู่บ้าน หากน้ำทะลักเข้าจุดนี้ได้ ก็จะทำให้บ้านเรือนกว่า 200 หลัง ถูกน้ำท่วมทันที