ศรีสะเกษ- ชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน อ.กันทรลักษ์ ศรีสะเกษ ตึงเครียดหนัก ทหารกัมพูชายิงยั่วยุต่อเนื่องมีเสียงปืนระเบิดตลอดทั้งคืน ชาวบ้านชายแดนกันทรลักษ์ผวาปะทะรอบ 2 อพยพหนีตายแล้วกว่า 200 ครอบครัว โดยไม่รอคำสั่งทางการ เผยหอบลูกหลานน้อยนั่งซาเล้งเผ่นออกจากพื้นที่ชายแดน ขณะ ร.ร.ชายแดนเร่งจัดสอบเร็วขึ้น หวั่นสู้รบกระทบอนาคตเด็ก
วันนี้ ( 25 ก.ย.68) สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดเหตุยิงปืนยั่วยุจากฝั่งกัมพูชา บริเวณ “ภูผีตา–ยาย” ทำให้ชาวบ้านแนวชายแดนตื่นตระหนก ไม่รอประกาศทางการ ต่างอพยพออกจากหมู่บ้านทันที โดยมีทั้งผู้สูงอายุ เด็ก และทารก ถูกขนย้ายด้วยรถซาเล็ง–มอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง หอบหิ้วที่นอน หมอน มุ้ง ผ้าห่ม และของใช้จำเป็นหนีตายออกจากพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนกว่า 100–200 ครอบครัวจากหมู่บ้านตามแนวชายแดน ต.เสาธงชัย และใกล้เคียง ได้พากันอพยพเข้ามายังเขตตัวอำเภอกันทรลักษ์ โดยไม่รอคำสั่งผู้ใหญ่บ้านหรือเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเสียงปืนดังชัดเจนจากฝั่งชายแดนกัมพูชา ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัย
นายเชือน ติงชาติ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 256 บ้านภูมิชรอล ม.2 ต.เสาธงชัย เล่าว่า เมื่อบ่ายวานนี้ได้ยินเสียงปืนดังสนั่นจากเขตชายแดน แม้จะเป็นปืนเล็ก ไม่ใช่ปืนใหญ่ แต่เสียงก็ดังชัดมาก ทำให้ตนกับเมียและหลานอายุ 5 เดือน ต้องรีบขนของขึ้นรถซาเล็งหนีไปอยู่ในตัวอำเภอกันทรลักษ์ทันที คืนหนึ่งเต็ม ๆ เพราะชาวบ้านกว่า 100 ครอบครัวอพยพออกไปพร้อมกัน เช้านี้สงบแล้วจึงกลับบ้าน แต่ถ้ามีการยิงอีกก็พร้อมหนีอีกทันที
แม้สถานการณ์ไม่ปกติ แต่ที่โรงเรียนภูมิชรอลวิทยา ได้เปิดเรียนตามปกติ เช้าวันนี้มีการเข้าแถวเคารพธงชาติและสวดมนต์ โดยครูและนักเรียนต่างอยู่ในอาการหวาดระแวง แต่จำเป็นต้องจัดการเรียนการสอนและสอบปลายภาคให้เร็วขึ้น เนื่องจากกำหนดเดิมคือวันที่ 24–26 กันยายน 2568
นายทัศพร คำปลิว ผู้อำนวยการโรงเรียนภูมิชรอลวิทยา เปิดเผยว่า โรงเรียนต้องเร่งสอบปลายภาคให้เสร็จภายในวันที่ 24–25 กันยายนนี้ เพื่อไม่ให้กระทบกับนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนชั้น ม.6 ที่จำเป็นต้องใช้ผลคะแนนสอบในการสมัครเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา หรือไปประกอบอาชีพ
“เราเตรียมแผนสำรองไว้ หากสถานการณ์ชายแดนตึงเครียดจนไม่สามารถสอบได้ ก็จะเปลี่ยนรูปแบบเป็นการสอบออนไลน์ ขณะเดียวกัน หากเกิดการปะทะโดยฉับพลัน เรามีแผนเผชิญเหตุให้นักเรียนหลบเข้าไปในบังเกอร์ของโรงเรียนที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งปลอดภัย และหากมีการแจ้งเตือนล่วงหน้า เราจะเร่งเคลื่อนย้ายนักเรียนด้วยรถรับส่งของโรงเรียนไปยังบ้านผู้ปกครอง” ผอ.โรงเรียน กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า แม้บรรยากาศในหมู่บ้านชายแดนจะกลับเข้าสู่ความสงบในเช้าวันนี้ แต่ชาวบ้านจำนวนมากยังคงจัดเตรียมสิ่งของจำเป็นและรถยนต์ให้พร้อมอพยพทุกเมื่อหากมีเสียงปืนอีกครั้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและทหารประจำการชายแดนยังคงเพิ่มความเข้มงวดและสอดส่องตลอดแนวชายแดน กับการยั่วยุของฝ่ายกัมพูชาและเหตุการณ์บานปลาย
ล่าสุดทางเพจ “กองทัพบกทันกระแส” โพสต์ข้อความระบุว่า วันที่ 25 ก.ย. กัมพูชายังไม่ละทิ้งแนวทางการเผชิญหน้าไทย ยั่วยุตลอดคืน พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 มีเสียงปืน มีเสียงระเบิด พบการเข้าใกล้ลวดหนามและยิงเช็คระยะ กัมพูชาละเมิดข้อตกลงและแสดงการเป็นปรปักษ์