อุทัยธานี - ผู้จัดการโรงเรียนเอกชนหนองฉางเผยคืบหน้า..นร.ม.5 ชกครูสาวไม่ยั้ง ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนของสหวิชาชีพ-เด็กยังคงเรียนในระบบออนไลน์ ยืนยันเป็นเด็กเรียนดี เด็กกิจกรรม ไม่อยากให้ขาดโอกาสทางการศึกษา ทั้งผู้ปกครองและเด็กนำพวงมาลัยเข้าขอขมาครูแล้ว
วันนี้ (13 ส.ค. 68) บรรยากาศภายในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ที่เกิดเหตุนักเรียนชายชั้น ม.5 ทำร้ายครูสาวเนื่องจากไม่พอใจผลคะแนนสอบกลางภาค วิชาคณิตศาสตร์ จนครูสาวได้รับบาดเจ็บจากการถูกชก เตะ ถีบ ตีเข่า เบ้าตาช้ำ ศีรษะบวม ซี่โครงอักเสบ หลังปิดวันหยุดยาวมานานถึง 4 วัน นักเรียน 2,000 คนต่างก็มาเรียนกันเป็นปกติ
นายสมบุญ ทิพย์รังศรี ผู้จัดการโรงเรียน เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุดังกล่าวในวันที่ 5 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา
เวลาประมาณ 11 โมงกว่า ทางโรงเรียนก็ได้เชิญทีมบริหารและส่วนที่เกี่ยวข้องมาเพื่อขอทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น และแจ้งผู้ปกครองนักเรียนที่ก่อเหตุชกครูให้มารับนักเรียนกลับบ้านไปก่อน และได้ส่งการบ้านหรือส่งการบ้านทางออนไลน์ไปที่บ้าน
จากนั้นก็ปิดเรียนหยุดยาววันแม่ถึง 4 วัน เมื่อเปิดเรียนในวันนี้ก็ยังคงให้เรียนระบบออนไลน์อยู่ที่บ้าน เพราะทางโรงเรียนไม่อยากให้ขาดโอกาสทางการศึกษา และยืนยันว่านักเรียนคนดังกล่าวนั้นเป็นเด็กดีมาตลอด แต่ด้วยสภาพทางร่างกายและจิตใจของเด็กเราก็ไม่ทราบได้ว่าเป็นอย่างไร ส่วนในระบบการศึกษานั้นเราก็ดูแลตามที่เห็นสมควร
ส่วนคุณครูพรทิพย์หรือครูหนูเล็ก ซึ่งได้นำตัวส่งโรงพยาบาลหนองฉางทันที และทางนายสมบูรณ์ก็ได้ไปประสานงานกับทางโรงพยาบาลขอให้แพทย์เอกซเรย์ตรวจทั้งทางร่างกายและจิตใจ จากนั้นครูก็ได้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
และด้วยโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนเอกชนในระบบโครงการกุศลของพระพุทธศาสนา ทางโรงเรียนก็ได้ส่งเรื่องถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เพื่อยกเว้นค่าใช้จ่ายในการรักษาโดยการเบิกจ่ายตรงจากสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดอุทัยธานี ครูที่บาดเจ็บไม่ต้องสำรองจ่ายเงิน ซึ่งเป็นไปตามระเบียบ ครูพรทิพย์ก็ได้รักษาตัวจนสุขภาพดีขึ้น ทางคณะครูก็ได้ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลกัน ซึ่งได้มอบเงินส่วนตัวเพื่อไว้ใช้จ่ายด้วย
ส่วนมาตรการต่อจากนี้จะต้องเข้มงวดขึ้นในเรื่องของระบบติดตามนักเรียนโดยการวางสายสอดส่องนักเรียนก็คือครูประจำชั้น และมีหัวหน้าสายระดับชั้น หัวหน้าอาคารสถานที่ ซึ่งก็ได้ประชุมเพื่อป้องกันอีกด้วย โดยต้องติดตามนักเรียนอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนที่ผ่านมาอีก
“เด็กที่ก่อเหตุทางโรงเรียนยังคงยืนยันว่าจัดการเรียนการสอนทางออนไลน์ ยังไม่ได้ลาออกไปโรงเรียนไหน แต่ไม่ให้เด็กมาที่โรงเรียน และตั้งแต่วันที่ครูพรทิพย์รักษาตัว ทางผู้ปกครองได้ไปเยี่ยมครูที่โรงเรียนและได้พาตัวนักเรียนไปด้วย พร้อมกับถือพวงมาลัยไปกราบขอโทษแล้ว จากนั้นทางโรงเรียนได้เชิญผู้ปกครองมาปรึกษากันและพูดคุย ซึ่งทางผู้ปกครองก็มีอาการเครียดและยังเป็นห่วงในการหาสถานที่เรียนของนักเรียนที่ก่อเหตุ”
ทั้งนี้ ต้องรอผลการสอบของสหวิชาชีพก่อนเพราะเด็กอายุเพียง 16 ปีเท่านั้นเอง ซึ่งในตอนนี้ก็ช่วยกันสร้างขวัญกำลังใจให้ทั้งครูและเด็ก เพื่อให้อยู่ในความพอดี ซึ่งทางโรงเรียนเองต้องนึกถึงตัวนักเรียนด้วย ว่าจะทำอย่างไรเด็กจะได้มีโอกาสเรียนต่อและหากว่าจำเป็นจะต้องย้ายออกไป ก็ต้องให้เขาได้มีที่อยู่ที่เรียนต่อได้ และอีกด้านหนึ่งก็ให้ทางครูนั้นมีกำลังใจที่ดีขึ้น ซึ่งทางครูที่ผ่านมานั้นก็ได้ทำงานเป็นอย่างดีมาตลอด ส่วนในโรงเรียนก็อยากให้อยู่ในบริบทที่มันเหมาะสมซึ่งสามารถดำรงอยู่ต่อไปได้
“การก่อเหตุของนักเรียนนั้นไม่สามารถตอบแทนผู้ปกครองของเด็กได้ แต่คาดเดาได้ว่าอาจจะเกิดจากความเครียดและกังวล ยืนยันว่าเด็กคนดังกล่าวเรียนดีแถมยังเป็นเด็กกิจกรรมและจะมีเพื่อนคู่หูสนิทอยู่หนึ่งคน และในช่วงเช้านั้นจะนำนักเรียนร้องเพลงชาติไทยเวลาเข้าแถวก่อนเรียนในทุกเช้าที่เปิดเรียนด้วย”