สุรินทร์ - โรงเรียนชายแดนสุรินทร์หลายแห่งเปิดเรียนวันแรกนักเรียนบางตา ผู้ปกครองยังห่วงสถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะ ร.ร.บ้านโจรก จรวด BM-21 เขมรตกกลางหมู่บ้าน สังเวย 2 ชีวิต หนึ่งรายเป็นเด็ก นร. 8 ขวบ นั้นเงียบเหงา ผู้ปกครองส่วนใหญ่ยังหวาดผวาไม่ให้ลูกหลานมาโรงเรียน
วันนี้ (18 ส.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโรงเรียนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ หลายแห่งได้มีการเปิดเรียนตามปกติ หลังจากมีการเลื่อนการเปิดเรียนมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อนหลังจากไม่มั่นใจในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เกรงจะมีการสู้รบกันเกิดขึ้นอีก โดยโรงเรียนทุกแห่งในพื้นที่ได้ปิดการเรียนการสอนหลังเกิดการสู้รบกันตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. 68 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ การเปิดทำการเรียนการสอนในวันนี้ อยู่ที่ดุลพินิจและความพร้อมของผู้ปกครองว่าจะให้เด็กนักเรียนมาเรียนหรือไม่เพราะยังอยู่ในช่วงสถานการณ์ที่ไม่ปกติแม้ชาวบ้านจะอพยพจากศูนย์พักพิงกลับมาบ้านกันหมดแล้วก็ตาม ซึ่งหลายคนยังไม่ให้ลูกหลานไปโรงเรียน แต่บางครอบครัวก็ไปส่งลูกเรียนทั้งที่ยังกังวลอยู่
อย่างไรก็ตาม สำหรับนักเรียนที่ไม่ได้มาโรงเรียน หรือเรียนไม่ทัน ทางโรงเรียนมีแผนรองรับด้วยการให้นำหนังสือและแบบฝึกหัดไปทำเป็นการบ้านและทบทวนหนังสืออยู่ที่บ้านเพื่อให้เรียนทันเพื่อนๆ
โดยเฉพาะที่โรงเรียนบ้านด่าน ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ที่พบว่ามีการเปิดเรียนตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา และปิดเรียนวันที่ 15 ส.ค.อีกครั้ง เนื่องจากมีเหตุการณ์พลทหารกราดยิงกลุ่มชาวบ้าน ก่อนจะมาเปิดเรียนอีกครั้งในวันนี้ และพบว่ามีเด็กนักเรียนมาโรงเรียนมากขึ้นแต่ไม่ทั้งหมด
นายเดโชพล ชลธี ผอ.โรงเรียนบ้านด่าน กล่าวว่า ผู้ปกครองบางส่วนบอกว่าเมื่อเด็กมารวมกันอยู่ที่โรงเรียนก็สามารถตามเด็กได้ทันที หากอยู่บ้านเด็กอาจไปเล่นที่อื่นพอเกิดเหตุฉุกเฉินมาอาจตามหาเด็กยาก ตอนนี้ยังไม่มีประกาศจากทางการว่าให้อพยพออกพื้นที่ ทางโรงเรียนเราก็เปิดการเรียนการสอนตามปกติ โรงเรียนบ้านด่านได้เปิดเรียนตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค. และปิดวันที่ 15 ส.ค.ที่มีเหตุพลทหารก่อเหตุ ส่วนนักเรียนที่ไม่ได้มาเรียนหรือเรียนไม่ทันครู ก็จะมีชุดงานการเรียนการสอนให้ไปทำเป็นการบ้านเพื่อให้เรียนทันเพื่อนๆ
นายมอน โสดาจันทร์ อายุ 71 ปี บ้านเลขที่ 47 บ.ด่าน ต.ด่าน อ.กาบเชิง ผู้ปกครอง ซึ่งเป็นคุณตามาส่งหลานมาโรงเรียนบ้านด่าน กล่าวว่า เป็นวันแรกที่ส่งหลานสาวมาโรงเรียน ดีใจมาก แต่ยังไม่ไว้ใจในสถานการณ์ชายแดน ยังเป็นห่วงอยู่ ต้องคอยฟังการแจ้งเตือนจากผู้ใหญ่บ้านตลอดเวลาเพราะยังห่วงอยู่ ที่ผ่านมาที่เกิดการสู้รบเมื่อวันที่ 24 ก.ค. ตนรีบมารับหลานที่โรงเรียนและอพยพไปตามที่ราชการจัดให้
ขณะที่โรงเรียนบ้านโจรก ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ อยู่ในพื้นที่ที่กระสุนปืนใหญ่ตกใส่บ้านเรือนประชาชนในหมู่บ้านโจรกเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 68 ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 2 ราย บาดเจ็บ 2 ราย ในจำนวนนี้มีเด็ก 8 ขวบเสียชีวิต และเป็นเด็กนักเรียนของโรงเรียนบ้านโจรกแห่งนี้ด้วย
พบว่าบรรยากาศไม่คึกคัก พบนักเรียนและผู้ปกครองมาส่งนักเรียนบางตา เนื่องจากส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ชายแดน และยังหวาดผวากับเหตุการณ์กระสุนปืนใหญ่ตกกลางหมู่บ้าน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายดังกล่าว
นายปริญา เกษดี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโจรก กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่เปิดเรียน ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.พวกเราก็ไปอยู่ที่ศูนย์อพยพ วันนี้เปิดวันแรกนักเรียนก็เริ่มทยอยมา ยังไม่ทราบว่ามามากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับความมั่นใจและความเชื่อมั่นของผู้ปกครอง ทางโรงเรียนจะพยายามจัดการเรียนการสอนให้ลูกๆ โดยเร็ว เพราะว่าหายไปหลายวันแล้ว อีกสักพักก็จะปิดเทอมแล้ว ครูเราพยายามเต็มที่เพื่อดูแลเด็กนักเรียน โรงเรียนมีนักเรียนทั้งหมด 369 คน
ทั้งนี้ วันที่ 24 ก.ค.ที่เกิดเหตุการณ์สู้รบวันแรก เป็นวันแข่งขันกีฬารอบชิงชนะเลิศที่โรงเรียน ซึ่งช่วงเช้านายอำเภอได้แจ้งมาว่าให้ประชาชนเตรียมอพยพ จึงเชิญผู้ปกครองให้มารับเด็กกลับบ้านโดยเร็ว ซึ่งวันนั้นโชคดีที่เด็กและผู้ปกครองส่วนใหญ่อยู่ที่สนามโรงเรียนกันมาก จึงรับเด็กกลับไป พอกลับไปสักพักก็ได้ยินเสียงระเบิดขึ้น “น้องน้ำโขง” อายุ 8 ขวบ ที่เสียชีวิตเรียนที่โรงเรียแห่งนี้ เป็นทั้งนักกีฬาวิ่งและนักฟุตบอล ซึ่งหากเกิดเหตุฉุกเฉินอีกโรงเรียนก็ได้มีการเตรียมพร้อมทุกอย่างไว้รองรับเช่นเดิม ให้ผู้ปกครองมารับกลับ ก่อนผู้ปกครองมารับทางโรงเรียนก็มีหลุมหลบภัย 3 จุด รองรับนักเรียนได้จำนวนหนึ่ง และตัวอาคารบางส่วน