อุดรธานี - “เยาวชนอุดรฯ กว่า 2,000 คน ร่วมเสวนา ‘แนวหน้าและอธิปไตย’ ฟังแม่ทัพภาค 2 ถ่ายทอดบทเรียนชีวิตและความรักชาติ” เผยการให้อภัยไม่หมกมุ่นกับความเครียดเป็นวิธีรับมือปัญหาคลิปเสียงนายกหลุดทุกอย่างเกิดขึ้นตั้งอยู่และไม่เที่ยง เราต้องใช้สติแก้ปัญหาให้ดีที่สุด
บ่ายวันนี้ (12 ก.ย.) พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นวิทยากรพิเศษในการเสวนา “เรื่องเล่าจากแนวหน้าและการรักษาอธิปไตยของชาติ” ณ หอประชุมอาคารกิจกรรมนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี โดยมี ผศ.ดร.คณิศรา ธัญสุนทรสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี กล่าวต้อนรับ โดยมีเยาวชนในพื้นที่ จ.อุดรธานี จากมหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี, โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี, โรงเรียนบ้านหมากแข้ง และวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 2,000 คน
กิจกรรมนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "เยาวชนอุดรรวมใจรวมใจสู่แนวหน้า ปลูกต้นกล้าแทนคุณแผ่นดิน" โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อปลูกฝังความรักชาติ สร้างสำนึกในหน้าที่ และการเป็นพลเมืองที่ดี โดยก่อนเริ่มกิจกรรม ทุกคนได้พร้อมกันยืนตรงและร่วมร้องเพลงชาติไทย เพื่อแสดงพลังปลุกจิตสำนึกที่ดีต่อความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และยืนตรงสงบนิ่งเพื่อรำลึกและสดุดีวีรกรรมทหารกล้า ทั้ง 15 นาย ที่เสียสละเพื่อปกป้องอธิปไตยไทย
กิจกรรมจัดในรูปแบบการเสวนามีการการพูดคุย มีพลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นวิทยากร บรรยาย ไฮไลท์ของงานคือการตอบคำถามจากเยาวชนที่มาร่วมกิจกรรม โดยคำถามที่เยาวชนฝากถามและถามเองมีหลากหลาย อาทิ คำถามที่ 1 จากสถานการณ์ที่ผ่านมา มีหลายคนสงสัยว่าทำไมต้องมีกองทัพและทหาร แม่ทัพมีข้อคิดอย่างไรเกี่ยวกับบทบาทของทหารในปัจจุบัน? คำถามที่ 2: จากข่าวที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน แม่ทัพมีแนวคิดอย่างไรต่อความมั่นคงชายแดนในอนาคต?
คำถามที่ 3 ปัจจุบันแม่ทัพดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาค 2 อยากฟังเส้นทางชีวิตและแรงบันดาลใจของแม่ทัพ ว่าอะไรเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เลือกมาเป็นทหาร? คำถามที่ 4 ตามข่าวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ชายแดน แม่ทัพได้ถวายรายงานต่อพระองค์อย่างไร ช่วยถ่ายทอดพระกระแสรับสั่งถึที่มีต่อแม่ทัพ ประชาชนและสถานการณ์ชายแดนได้อย่างไรบ้าง? ซึ่งคำตอบของแม่ทัพเรียกเสียงปรมมือเสียงกรีดจากเยาวชนทุกคำตอบ
นอกจากนี้ยังมีคำถามสดจากนักเรียนชั้น ม.5 เยาวชนชายรายหนึ่ง ได้ถามแม่ทัพภาค 2 ว่า “ในขณะที่ท่านแม่ทัพรู้สึกเหนื่อยหรือท้อแท้มากที่สุดอะไรคือสิ่งที่ทำให้ท่านแม่ทัพยืนยันบนเส้นทางนี้” ซึ่งคำถามนี้แม่ทัพภาคที่ 2 ตอบว่า คำถามนี้น้องคนถามเข้าใจแม่ทัพที่แบกรับหลายอย่างแบกรับแผ่นดินภาคอีสานแบกรับวิญญาณลูกน้องที่เสียชีวิตญาติพี่น้องที่บาดเจ็บ ปัญหาทางการเมืองน่าจะเป็นวิกฤตของทางไม่ว่าจะเป็นวิกฤตของท่านนายกเองก็จะมาลงที่แม่ทัพ ทำอย่างไรมีวิธีอะไรถึงจะไม่เครียดทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นตั้งอยู่ระดับไปมันไม่เที่ยงเราจะไปหมกมุ่นกับสิ่งเหล่านั้นแต่เมื่อมันเกิดขึ้นเราต้องใช้สติในการแก้ปัญหาทำให้ดีที่สุดเมื่อผลออกมาแล้วจะเป็นอย่างไร เราต้องยอมรับแล้วให้อภัยกับทุกคน
ยกตัวอย่างเหมือนที่แม่ทัพให้อภัยในคลิปหลุดแม่ทัพให้อภัยท่านนายกมันไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะมาทะเลาะกัน เรื่องนี้มันเป็นความมั่นคงของประเทศชาติเราต้องมองผลประโยชน์ของชาติเป็นหลักเราไม่มีเวลาที่เราจะทะเลาะกันแม่ทัพต่อสู้กับพวกเขมรก็พอแล้วไม่ต้องมาสู้กับคนไทยแล้วกันสิ่งที่เขาเป็นคนไทยไหมถ้าเป็นคนไทยเขาต้องฟังทุกคำด่าทุกคำประดิษฐ์จะฟังทั้งหมดแต่ไม่มีโกรธสักคนเดียวไม่มีน้อยใจ
นอกจากนี้ยังมีคำถามสดจากนักเรียนชั้น ม.5 เยาชนชายรายหนึ่งได้ถามแม่ทัพภาค 2 ว่า “ในขณะที่ท่านแม่ทัพรู้สึกเหนื่อยหรือท้อแท้มากที่สุด สิ่งใดคือสิ่งที่ทำให้ท่านแม่ทัพยืนยันเดินบนเส้นทางนี้?” แม่ทัพภาค 2 ตอบว่า คำถามนี้คนถามเข้าใจถึงภาระที่แม่ทัพแบกรับ ทั้งความรับผิดชอบต่อแผ่นดินภาคอีสาน วิญญาณของลูกน้องที่เสียชีวิต ญาติพี่น้องที่บาดเจ็บ รวมถึงปัญหาทางการเมืองที่บางครั้งส่งผลมาถึงตนเอง
“สิ่งสำคัญคือการไม่หมกมุ่นกับความเครียด ทุกอย่างเกิดขึ้นตั้งอยู่และไม่เที่ยง เราต้องใช้สติแก้ปัญหาให้ดีที่สุด เมื่อผลออกมาแล้ว เราต้องยอมรับและให้อภัยทุกคน”
แม่ทัพยกตัวอย่างถึงความเข้าใจและการให้อภัย เช่น การให้อภัยในกรณีคลิปหลุดที่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรี เพราะการทะเลาะกันไม่มีประโยชน์ แต่สิ่งที่สำคัญคือผลประโยชน์ของชาติ “เราต้องต่อสู้กับศัตรูเพื่อความมั่นคงของประเทศชาติ ไม่ต้องไปต่อสู้กับคนไทย ถ้าเขาเป็นคนไทย ต้องฟังและรับคำติชมทั้งหมด แต่ไม่มีความโกรธหรือความน้อยใจใด ๆ
พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เรื่องการเปิดชายแดนก็ต้องร่วมมือหารือกันหลายฝ่าย แต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกันก็คงจะหารือกับทางฝั่งรัฐบาลว่าตรงไหนไม่พร้อมตรงไหนพร้อมเปิดได้ อย่างของกองทัพภาคที่ 1 และภาคที่ 2 พื้นที่ก็ไม่เหมือนกันก็คงต้องพิจารณาหลายส่วนร่วมกัน ผู้สื่อข่าวถามว่า การจะเปิดด่านเขมรต้องจริงใจมากกว่านี้ใช่ไหม แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่าการเปิดด่านต้องคุยกันให้เป็นเรื่องเป็นราวก่อนให้ชัดเจน การเปิดด่านจะเป็นวิธีสุดท้ายในการเลือก แต่ทั้งนี้ต้องคุยกันเรื่องกำลังพลก่อน คุยกันเรื่องยุทธการที่ขัดแย้งเรื่องอาวุธให้แล้วเสร็จก่อน
เพราะตอนนี้เขมรก็เสริมกำลังมาเรื่อยๆ ส่วนการเปิดด่านจุดไหนบ้างนั้นก็ต้องให้รัฐบาลไปชี้แจงกับพี่น้องประชาชน ส่วนด่านในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ดูแล จะพิจารณาเป็นจุดๆ ไป ตอนนี้คงเปิดไม่ได้ เพราะตอนนี้อยู่ในภาวะตึงเครียดอยู่ การเจรจายังไม่ลงตัว การปฏิบัติของเขาก็มีการวงกับระเบิดอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณี เสธเบิร์ดเปิดโฉม 6 ผบ.ทหารเขมรที่วางทุ่นระเบิด ให้กองทัพภาค 2 รับไม้ต่อ พลโทบุญสินบอกว่า ทัพภาค 2 เรายินดี เราก็รู้ๆกันอยู่ว่าทหารเขมรคนไหนเป็นคนวางทุ่นระเบิดและใครสั่งการ แล้วก็เป็นระเบิดใหม่ด้วยเรื่องนี้ก็เอานำไปหลักฐานร้องเรียนกับยูเอ็น ส่วนการที่ท่าทีของกัมพูชามีท่าทีอ่อนลง เชื่อว่าอาจจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศเขา เขาเลยมีท่าทีคุยกับเราเข้าใจขึ้น แต่เราก็ไม่ประมาท