อุดรธานี - อสม.ร้องสื่ออุดรฯ สุดทนสาวอ้างตัวเป็นพยาบาลและเป็นเมียตำรวจ หลอกมีตำแหน่งงานตรวจสุขภาพให้ทำ แต่ต้องจ่ายค่าสมัครค่าชุด มีเหยื่อหลายรายหลงเชื่อ สูญเงินนับหมื่น สุดท้ายไม่ได้ทำงานจริง ทั้งเหยื่อเคยแจ้งความที่สภ.เมืองอุดรธานีแต่คดีไม่คืบหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเรื่องร้องเรียนหญิงที่อ้างตัวเป็นพยาบาล และเป็นภรรยานายตำรวจ สังกัดตำรวจ 191 จ.มหาสารคาม อ้างว่ามีตำแหน่งงานตรวจสุขภาพ โดยมีโควตางานจากโรงพยาบาลใหญ่ในกรุงเทพฯ และจากกระทรวงสาธารณสุข หลายตำแหน่ง มีผู้สมัครหวังได้งานทำ แต่ต้องจ่ายค่าสมัคร ค่าชุดทำงาน เวลาผ่านไปเกือบปีก็ยังไม่ได้งานทำตามที่แจ้งไว้
ล่าสุดนางสาว “เค้ก” อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) วัย 51 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย ได้เข้าร้องสื่อมวลชนท้องถิ่นใน จ.อุดรธานี และเพจ “เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย” หลังถูกหญิงสาวอ้างตัวเป็นพยาบาล และเป็นภรรยาของนายตำรวจยศร้อยตำรวจเอก สังกัดตำรวจ 191 จ.มหาสารคาม หลอกให้หาคนเข้าทำงานตรวจสุขภาพ อ้างมีโควตางาน ทำให้ผู้เสียหายหลายรายสูญเงินค่าสมัครและค่าชุดไปตั้งแต่ 2,000-5,500 บาท รวมความเสียหายนับหมื่นบาท แต่ไม่เคยได้งานจริง
นางสาวเค้กเล่าว่า เหตุเกิดตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2567 โดยหญิงรายหนึ่งชื่อ “ตุ๊ก” ติดต่อผ่านเฟซบุ๊กให้ช่วยหาคนไปทำงานตรวจสุขภาพที่ภัตตาคารใน จ.อุดรธานี ครั้งแรกมีการทำงานจริง ทำให้หลงเชื่อ ก่อนที่ตุ๊กจะอ้างว่าได้รับโควตาตั้งทีมตรวจสุขภาพทั่วภาคอีสาน และให้ช่วยหาคนสมัครเข้าร่วม โดยมีค่าตอบแทนวันละ 700-1,000 บาท แต่ผู้สมัครต้องจ่ายค่าชุดฟอร์มและค่าดำเนินการล่วงหน้า
มีผู้เสียหายกว่า 10 คนโอนเงินและส่งเอกสารส่วนตัวไปครบถ้วน แต่ผู้เสียหายกลับถูกเลื่อนนัดหมายเริ่มงานหลายครั้ง โดยอ้างว่ายูนิฟอร์มยังไม่เสร็จ กระทั่งสิ้นเดือนพฤศจิกายน ผู้เสียหายทนไม่ไหวขอเงินคืน แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยง กระทั่งมีการนำเอกสาร “ยกเลิกสัญญา” มาให้ลงชื่อ และยืนยันว่าจะคืนเงินแน่นอน แต่สุดท้ายก็ไม่มีการคืนเงินจริง และต่อมาถูกบล็อกช่องทางการติดต่อทั้งหมด
ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.เมืองอุดรธานี แต่จนถึงปัจจุบันคดีก็ยังไม่คืบหน้า ทั้งที่ทราบชัดว่าผู้ก่อเหตุอาศัยอยู่กับสามี ซึ่งเป็นนายตำรวจยศร้อยตำรวจเอก สังกัดหน่วย 191 จ.มหาสารคาม ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจมีการช่วยเหลือในด้านคดีจนคดีไม่เดินหน้า
ล่าสุดเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วยและสื่อท้องถิ่นได้พาผู้เสียหายเข้าพบรองผู้กำกับการสอบสวน หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อเร่งรัดคดี พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ และนำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว