xs
xsm
sm
md
lg

เพราะประมาท! เข้าพักโรงแรมแง้มประตูไว้เจอโจรย่องฉกสร้อยทองหนัก 5 บาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อุดรธานี - คดีอุกอาจกลางเมืองอุดร! หนุ่มหนองบัวลำภูฉวยโอกาสเหยื่อแง้มประตูระเบียงห้องพักโรงแรม
ชั้น 1 ไว้ สบจังหวะลอบเข้าห้องฉกสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทอง หนัก 5 บาท ตำรวจใช้กล้องวงจรปิดแกะรอยไล่ล่าจนจับกุมได้ สารภาพทำไปเพราะเมาและเห็นประตูห้องไม่ปิด



วันนี้ (27 ส.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผู้กำกับการ สภ.เมืองอุดรธานี แถลงผลการจับกุมนายตะวัน ปัจจุโส หรือ “หนึ่ง” อายุ 25 ปี ชาว จ.หนองบัวลำภู ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ โดยเจ้าหน้าที่สามารถตามจับได้ภายในห้องพักแห่งหนึ่งย่านกลางเมือง พร้อมของกลางหลายรายการ จากการตรวจค้นพบของกลางเป็นสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทอง 1 เส้น น้ำหนัก 5 บาท มูลค่า 254,535 บาท (ไม่คิดมูลค่าพระเครื่อง) รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีชมพู-ขาว-ดำ ทะเบียน 1 กษ 2263 มหาสารคาม รวมถึงเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ขาสั้น หมวกแก๊ปสีดำ และรองเท้าแตะสีครีม ซึ่งเป็นชุดที่ใช้ในวันก่อเหตุ

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ร้อยเวรตำรวจได้รับแจ้งจากนายสมชาย (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ลูกค้าโรงแรมแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองอุดรธานี ว่ามีคนร้ายบุกเข้าห้องพักชั้น 1 ชิงสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทไป หลังรับแจ้งชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบทันที พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมและบริเวณใกล้เคียง จนทราบตัวผู้ก่อเหตุและติดตามจับกุมได้ในที่สุด


จากการสอบสวน นายตะวัน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง อ้างว่าขณะก่อเหตุอยู่ในอาการมึนเมาและขาดสติ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน” ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผู้กำกับการ สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบทันที โดยคดีนี้ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นคดีชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำที่มีมูลค่าสูง โชคดีที่เทศบาลนครอุดรธานีได้ติดตั้งเครือข่ายกล้องวงจรปิดครอบคลุมหลายพื้นที่ ทำให้สามารถติดตามตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว จากการสืบสวนทราบว่าหลังลงมือผู้ต้องหานำสร้อยทองไปซ่อนไว้ที่หอพัก ก่อนขี่รถกลับบ้านที่ จ.หนองบัวลำภู และกลับเข้ามาที่หอพักในช่วงเย็น กระทั่งถูกตำรวจตามจับกุมได้ในที่สุด


ส่วนการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาอ้างว่าเดินทางมาทำธุระที่โรงแรมดังกล่าว เมื่อเห็นห้องพักของผู้เสียหายแง้มประตูระเบียงไว้ และพบทรัพย์สินมีค่า จึงเกิดความอยากได้และก่อเหตุขึ้น พร้อมทั้งฝากเตือนประชาชนและผู้ที่เข้าพักโรงแรมว่าควรระมัดระวัง ไม่ควรปล่อยประตูห้องเปิดทิ้งไว้ หรือทิ้งกุญแจรถจักรยานยนต์คาไว้ เพราะอาจเป็นช่องทางให้คนร้ายฉวยโอกาสก่อเหตุได้


เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า อาชญากรรมสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ แม้แต่ในสถานที่ที่หลายคนคิดว่าปลอดภัยอย่างโรงแรมหรือหอพัก ความประมาทเพียงเล็กน้อย เช่น การแง้มประตูห้องทิ้งไว้ หรือการทิ้งกุญแจรถคาไว้ อาจเปิดโอกาสให้คนร้ายก่อเหตุได้ทันที ประชาชนจึงควรตระหนักและเพิ่มความระมัดระวังอยู่เสมอ ทั้งในชีวิตประจำวัน การเดินทาง และการเข้าพักยังสถานที่ต่างๆ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ


กำลังโหลดความคิดเห็น