จันทบุรี - ผู้ประกอบการเตรียมเฮ หน่วยงานชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.จันทบุรี เตรียมผลักดันให้มีการเปิดจุดผ่านแดนการค้าแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะภาคเกษตรที่กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ยันนายจ้างต้องเดินทางไปรับที่จุดผ่านแดนบ้านแหลม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา หน่วยงานชายแดนไทย-กัมพูชาได้จัดการประชุมร่วมกันที่ห้องประชุมสมาคมการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ม.4 บ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เพื่อหาแนวทางผลักดันให้แรงงานชาวกัมพูชาสามารถเดินทางเข้ามาทำงานในพื้นที่ จ.จันทบุรี เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเกษตรที่กำลังขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก
โดยเบื้องต้นได้มีการพิจารณาที่จะเปิดจุดผ่านแดนถาวร เพื่อให้แรงงานในประเทศกัมพูชาได้เข้ามาทำงานได้โดยถูกกฎหมายแต่ต้องปฏิบัติตัวภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด รวมทั้งการปฏิบัติตามกรอบข้อบังคับเกี่ยวกับนายจ้าง้ และผู้ประกอบการที่จะต้องลงทะเบียนเพื่อแจงจำนวนความต้องการแรงงานล่วงหน้า
และนายจ้าง รวมถึงผู้ประกอบการจะต้องเดินทางไปรับตัวแรงงานชาวกัมพูชาที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ส่วนแรงงานกัมพูชาที่ประสงค์จะเข้ามาทำงานใน จ.จันทบุรี จะต้องเตรียมเอกสารการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR หรือตรวจหาเชื้อแบบ Antigen Test Kits (ATK) ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้ามาในประเทศไทย
หรือเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนแล้ว 2 เข็ม โดยได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตกำหนดอย่างน้อย 14 วัน ก่อนเดินทางเข้าประเทศ และต้องเป็นวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายของไทยที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก หรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
รวมทั้งยังจะต้องมีบัตรผ่านแดนที่ประเทศต้นทางออกให้ (Border Pass) หรือเอกสารอื่นที่อธิบดีกรมการจัดหางาน
ประกาศกำหนด ตรวจลงตราครั้งละไม่เกิน 30 วัน ซึ่งแรงงานกัมพูชาต้องให้ความยินยอมดำเนินการตรวจโรคต้องห้าม (6 โรค) ตามกฎกระทรวงกำหนดคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของคนต่างด้าวที่ขอรับใบอนุญาตทำงาน พ.ศ.2563
กรณีตรวจโรคไม่ผ่าน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลโปงน้ำร้อนประสานประเทศต้นทางส่งแรงงานกลับประเทศ แรงงานต้องทำประกันสุขภาพ ระยะเวลาประกัน 3 เดือน และกักตัวหลังจากเดินทางเข้ามาในประเทศ เพื่อรอดูอาการในสถานที่ที่ทางราชการจัดไว้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 7 วัน
การประชุมดังกล่าวมีทั้งผู้แทนจาก จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา นำโดยนายซก ลู ผู้ว่าราชการจังหวัดพระตะบอง รองผู้ว่าราชการจังหวัด ส.ส.จังหวัดพระตะบอง ผู้การตำรวจ และผู้การทหารจังหวัดพระตะบอง รวมทั้งผู้ว่าราชการ จ.ไพลิน ส.ส.จังหวัดไพลิน ผู้การตำรวจ และผู้การทหารจังหวัดไพลิน
ส่วนฝ่ายไทย มีนายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี ผู้แทนกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี และจัดหางานจังหวัดจันทบุรี เข้าร่วม
ขณะที่ ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบันนอกจากจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการค้าบริเวณแนวชายแดนของทั้ง 2 ประเทศจากมาตรการปิดด่าน และช่องทางเข้าออกประเทศแล้ว
ยังทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงานภาคเกษตรกรรม เนื่องจากประเทศไทยชะลอการนำเข้าแรงงานต่างด้าวตั้งแต่เดือน มี.ค.2563 ทำให้ผู้ประกอบการส่งออกผลไม้ ขาดแคลนแรงงานในล้ง แรงงานเก็บผลไม้อย่างหนัก ซึ่งมาตรการเปิดจุดผ่านแดนจะช่วยลดผลกระทบต่อผู้ประกอบการในภาคต่างๆ ได้มาก