สระแก้ว - ตะวันออกเนื้อหอม ดันค่านำพาแรงงานกัมพูชาผิดกฎหมายลอบเข้าไทยบริเวณชายแดนสระแก้วพุ่ง 5,000-9,000 บาทต่อหัว แต่ไม่รอดสายตาเจ้าหน้าที่ ล่าสุด รวบได้อีก 33 ราย สารภาพติดต่อนายหน้าส่งเข้าทำงานไร่อ้อย สวนผลไม้และงานก่อสร้างในหลายจังหวัด
วันนี้ (10 พ.ย.) เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1302 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 ฉก.คลองหาด กองกำลังบูรพา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหาด และเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรสระแก้ว รวมถึงฝ่ายปกครองได้จับกุมชาวกัมพูชา 33 รายที่ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย บริเวณบ้านวังไหม ต.เบญจขร อ.คลองหาด จ.สระแก้ว
จากการสอบถามทราบว่าทั้งหมดเดินทางมาจาก จ.บันเตียเมียนเจย เสียมเรียบ พระตะบอง และ จ.ไปรเวง เพื่อจะเข้าไปรับจ้างทำงานก่อสร้างใน จ.ชลบุรี ระยอง สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร โดยบางส่วนจะแยกไปทำงานรับจ้างเก็บผลไม้ และตัดอ้อยใน จ.จันทบุรี และสระแก้ว
พร้อมยังบอกอีกว่า การเดินทางเข้าประเทศไทยในครั้งนี้มีนายหน้าชาวกัมพูชา ซึ่งติดต่อกันผ่านเฟซบุ๊กเป็นผู้พาเดินเท้าลักลอบข้ามแดนเข้ามาในฝั่งไทยบริเวณคลองน้ำใส ซึ่งอยู่ระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา และได้นัดหมายรวมตัวกันที่ ต.บังเบง อ.มาลัย จ.บันเตียเมียนเจย ซึ่งแต่ละคนจะต้องจ่ายค่านำพาในราคา 5,000-9,000 บาท
โดยขณะถูกจับกุมอยู่ระหว่างกำลังรอรถที่ผู้นำพาชาวไทยจะนำมารับเพื่อเดินทางเข้าสู่พื้นที่ชั้นในและจังหวัดภาคตะวันออก
และจากการตรวจสอบชาวกัมพูชาทั้ง 33 รายไม่พบว่ามีใบอนุญาตเดินทางเข้าประเทศและไม่มีใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองหาด ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
