สระแก้ว - ผวจ.สระแก้ว สั่งหน่วยงานชายแดนล็อกพื้นที่ 3 ชั้นป้องกันแรงงานผิดกฎหมายทะลักเข้าไทยจากนโยบายเปิดประเทศ 1 พ.ย.64 ชี้แค่ 3 สัปดาห์ผลักดันกลับประเทศแล้วเกือบ 1,000 ราย
จากกรณีที่หน่วยงานชายแดน จ.สระแก้ว สามารถจับกุมแรงงานชาวกัมพูชาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยใช้วิธีเดินเท้าผ่านเส้นทางธรรมชาติบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อรอให้นายหน้านำรถมารับเดินทางสู่พื้นที่ชั้นในของไทย เพื่อทำงานก่อสร้างและรับจ้างทั่วไปแลกกับการเสียค่านำพาตั้งแต่หลักพันบาท จนถึงหลักหมื่นบาท
โดยที่ผ่านมา แม้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหาร จะสามารถจับกุมและผลักดันแรงงานผิดกฎหมายกลับประเทศได้เป็นจำนวนมาก แต่ดูเหมือนว่าเมื่อรัฐบาลไทย ประกาศเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ยิ่งทำให้การจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นเท่าตัวนั้น
วันนี้ (26 ต.ค.) นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงหลังมีรายงานการจับกุมผู้ลักลอบเข้าออกนอกราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 1-25 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยกองกำลังบูรพา ตรวจคนเข้าเมืองสระแก้ว ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และฝ่ายปกครอง มากเกือบ 1,000 ราย
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายใน 3 ชั้น คือชั้นตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ที่ต้องให้ความสำคัญในการตรวจสอบรถยนต์ที่วิ่งผ่านเข้าออกภายในจังหวัด รวมทั้งเส้นทางที่มีการลักลอบนำแรงงานเข้าจังหวัดและพื้นที่ชั้นในของประเทศ
ส่วนกองกำลังบูรพา ให้ดูแลบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างเข้มข้น และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่จะต้องสอดส่องดูแลในแต่ละพื้นที่ หมู่บ้าน และอำเภอของตนเอง
“หลังแรงงานกัมพูชาทราบข่าวว่าเราจะประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ทำให้มีผู้ลักลอบเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น ขณะที่กลุ่มนายหน้าลักลอบค้าแรงงานต่างด้าวเร่งเตรียมการที่จะนำแรงงานผิดกฎหมายเข้าไทยเพื่อรองรับความต้องการด้านแรงงาน ดังนั้น ผู้ปฏิบัติงานต้องปฏิบัติตามแนวทางป้องกันถึง 3 ชั้น”
และยังเชื่อว่าในไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 จะมีแรงงานผิดกฎหมายลักลอบเดินทางเข้าไทยอีกจำนวนมาก และหากมีการนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาระบาดในประเทศไทย อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ขึ้นอีกได้
ล่าสุดรวบอีก 20 รายเป้าหมายเข้าพื้นที่ชั้นในรับจ้างทำงาน
และในวันนี้เจ้าหน้าที่ทหารชุดเคลื่อนที่เร็ว ฉก.ตาพระยา กองกำลังบูรพา ซึ่งร่วมกับกองร้อย ฉก.ตชด.3 ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 ยังสามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเป็นชาวกัมพูชาได้อีกจำนวน 20 ราย เป็นชาย 13 คน และหญิง 7 คน โดยไม่พบผู้นำพา
จากการสอบสวนยังทราบว่า ชาวกัมพูชาทั้งหมดมีเป้าหมายที่จะเดินทางไปทำงานในจ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.ปราจีนบุรี และกรุงเทพมหานคร พื้นที่เขตมีนบุรี โดยได้พากันเดินเท้าผ่านช่องทางธรรมชาติบริเวณป่าเบญจพรรณติดกับนาข้าว บ้านเนินสมบูรณ์ ต.ตาพระยา และได้จ่ายค่าที่พักฝั่งกัมพูชารายละ 500 บาท
และยังต้องจ่ายเงินให้คนนำพาชาวกัมพูชาอีกรายละ 500 บาท และหากผ่านแดนไปจนถึงที่หมายได้จะต้องจ่ายเงินให้นายหน้าอีกรายละ 6,000-8,000 บาท
โดยภายหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายซึ่งพบว่าทั้งหมดอุณหภูมิอยู่ในเกณฑ์ปกติคือ ไม่เกิน 37.5 องศา จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ตาพระยา ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายและผลักดันกลับประเทศต่อไป