กาญจนบุรี - แรงงานพม่าทะลักไม่หยุด วันนี้วันเดียวจับได้ 2 คดี คดีแรก อัดแน่นรถตู้ 14 ราย ผู้นำพาชาวไทย 2 คน ไม่ทราบจุดหมายที่ทำงาน คดีที่ สอง 34 ราย สารภาพมุ่งหน้าไปทำงาน สมุทรสาคร ทั้งหมดจ่ายค่านายหน้าหัวละ 20,000 บาท
วันนี้ (25 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9 พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.อ.เฉลิมชัย ชัดใจ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.อ.ธัชเดช อาบัวรัตน์ รอง.ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.กก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า )
มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดสนธิกำลังเฝ้าระวังป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิด โดยเฉพาะการลักลอบเข้ามาราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายของแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเน้นย้ำบริเวณชายแดน 5 อำเภอที่มีแนวเขตติดกับประเทศเมียนมา ประกอบด้วย อ.ด่านมะขามเตี้ย อ.เมืองกาญจนบุรี อ.ไทรโยค อ.ทองผาภูมิ และ อ.สังขละบุรี ที่มีระยะทางตามแนวชายแดนรวมกันประมาณ 371 กิโลเมตร
ล่าสุดวันนี้ (25 ต.ค.) ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการข่าว กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ร้อย.ตชด.136 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไทรโยค เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ไทรโยค รวมทั้งเจ้าหน้าที่ สาธารณะสุข อ.ไทรโยค ปฏิบัติหน้าที่เพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาข้างต้นที่บริเวณบ้านพุน้อย หมู่ 7 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่พบรถตู้ยี่ห้อ โตโยต้า สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน นค 4254 นครปฐม วิ่งผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น ผลปรากฏพบแรงงานชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายนั่งมาเต็มคันรถ นับรวมกันได้ จำนวน 14 คน เป็นชาย 10 คน หญิง 4 คน ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาชาวไทยที่เป็นผู้นำพาได้ จำนวน 2 คน ประกอบด้วยนายหรรษา สำราญสุขเสมอ อายุ 27 ปี คนขับ และ นายสุพล ใครหอม อายุ 30 ปี ทั้ง 2 เป็นชาว ต.ท่าเสา องไทรโยค จ.กาญจนบุรี
โดยผู้ต้องหาทั้งหมดมีอุณหภูมิในร่างกายไม่เกิน 37.5 องศาฯ จากการสอบถามผู้ต้องหาที่เป็นแรงงานชาวเมียนมา ทราบว่าทั้งหมดเดินทางมาจาก กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อข้ามมาถึงชายแดนฝั่งไทย ผู้ต้องหาคนไทยทั้ง 2 ได้ขับรถตู้มารับเพื่อมุ่งหน้าไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชั้นแต่เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าจะไปทำงานในพื้นที่ใด โดยได้จ่ายค่าหัวให้กับผู้นำพาไปแล้วคนละ 20,000 บาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวแรงงานชาวเมียนมา รวมทั้งผู้ต้องหาที่เป็นชาวไทย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมก่อนที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อีก 1 คดี เจ้าหน้าที่ชุดเดียวกัน ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบแรงงานชาวเมียนมาเป็นจำนวนมากลักลอบหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งหมดหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณชายป่า ท้องที่ หมู่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี หลังจากได้รับแจ้ง จึงสนธิกำลังเดินทางไปตรวจสอบ
ไปถึงพบกลุ่มแรงงานกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ภายในป่า เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณพร้อมกับเข้าจับกุมตัวเอาไว้ได้รวมจำนวน 34 คน เป็นชาย 20 คน หญิง 14 คน จากการสอบถามทราบว่า เดินทางมาจากหลายจังหวัด ประกอบด้วย จ.พะโค จ.เนปิดอ จ.ทวาย รวมทั้ง จ.เมาะลำไย ประเทศเมียนมา ทั้งหมดได้จ่ายเงินให้กับนายหน้าไปแล้ว คนละ 20,000 บาท เพื่อไปทำงานในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร
หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จึง ได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ผลเบื้องต้นไม่พบอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส จากนั้นจึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหา ฐาน ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต (พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522) และฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี จากนั้นจะทำการผลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป